เจมส์ มิลเนอร์ รองกัปตันทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ให้สัมภาษณ์หลังเกมบุกเสมอ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล 3-3 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2017-18 นัดที่ 19 จากทั้งหมด 38 นัด เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ทั้งที่ทีมบุกนำไปก่อนถึง 2-0 แต่โดนเจ้าถิ่นใช้เวลาแค่ 5 นาที ยิงแซงทีเดียว 3 ลูกรวดนาที 53, นาที 56 และนาที 58 ในทำนองว่า
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของทีมน่าจะแนะนำให้ลิเวอร์พูลเล่นแบบน่าเบื่อแบบปิดเกมบ้าง เนื่องจากทีมนำห่างถึง 2-0 ช่วงต้นครึ่งหลัง และมีหลายช่วงเวลาในเกมที่คุณต้องเน้นเกมรับให้มากขึ้น ไม่ใช่พลาดง่ายๆ จนถูกยิง 3 ลูกภายใน 5 นาทีแบบนี้
มิลเนอร์ที่เปลี่ยนลงมาแทนจอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมตั้งแต่ไม่ถึง 10 นาทีแรก ยังพูดถึง 3 ประตูที่ทีมหงส์แดงไปจากจังหวะที่โจ โกเมซ ปราการหลังรุ่นน้องไม่ทันมองว่าอเล็กซิส ซานเชซ วิ่งมาจากด้านหลัง และโฉบโหม่งเข้าไป ตามด้วยการที่ซิมง มินโญเล่ต์ นายทวารปัดลูกยิงไกลของกรานิต ชาก้า ไม่ดีจนลูกปลิ้นเข้าประตู และเดยัน ลอฟเรน ปล่อยให้อเล็กซ็องด์ ลากาแซ็ตต์ ครองบอลในเขตโทษ
ก่อนตอกส้นให้เมซุต โอซิล ที่วิ่งเติมขึ้นมาวิ่งผ่านหน้าโกเมซเข้าไปยิงหลอกมินโญเล่ต์อย่างเหนือชั้นว่า
ทุกประตูที่เสียไปล้วนเป็นความผิดพลาดของลิเวอร์พูล และเป็นสิ่งที่ทีมต้องเรียนรู้ต่อไป แน่นอนว่าเราคือทีมที่มีเกมรุกสุดยอด แต่บางครั้งก็ต้องมีผ่อนเกมสัก 5 หรือ 10 นาทีกันบ้าง ทีมควรจะเน้นรับ และครองบอลให้มากกว่าการเพรสซิ่งทำลายเกมคู่แข่งตลอดเวลา
แต่คล็อปป์ซึ่งให้สัมภาษณ์ทีหลัง และโดนนักข่าวถามว่าคิดอย่างไรกับการที่ลูกทีมอยากให้เน้นเกมรับมากกว่านี้ว่า ถ้ามิลเนอร์หมายถึงให้เน้นครองบอลเพื่อฆ่าเวลาแล้วล่ะก็ มันใช้ไม่ได้กับสถานการณ์แบบนั้น มันก็แค่การที่เรากับอาร์เซน่อลอยู่กันเต็มไปหมดในเขตโทษ ทว่าเป็นพวกเขาที่ทำประตูได้ และไม่เกี่ยวกับการคอนโทรลเกมอย่างที่มิลเนอร์พูดแม้แต่น้อย เพราะตนเชื่อว่าลิเวอร์พูลครองเกมได้แล้ว แต่ยังเปิดโอกาสให้อาร์เซน่อล และพวกเขาก็ทำได้
นอกจากนี้ อดีตโค้ช “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์วัย 50 ปี ยังกล่าว “ลอยๆ” ทว่าไม่เอ่ยชื่อซาดิโอ มาเน่ ซึ่งถูกเปลี่ยนออกในช่วง 10 นาทีสุดท้าย ทั้งที่ทีมต้องการประตูชัย ถึงจังหวะท้ายครึ่งแรกที่ทีมหงส์แดงควรจะได้ประตูแบบชัดเจน จากการที่โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงติดเซฟปีเตอร์ เช็ก จนบอลลอยมาเข้าทางมาเน่ แต่แทนที่แนวรุกทีมชาติเซเนกัลจะเอาบอลลง และค่อยเลือกยิงเอง หรือจ่ายกลับมาให้โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ที่เติมขึ้นมา
เนื่องจากเช็กเสียตำแหน่งเพราะเพิ่งทิ้งตัวเซฟลูกยิงซาลาห์ และหน้าปากประตูทีมปืนใหญ่เหลือแค่ 2 ผู้เล่นอย่างเอคตอร์ เบเญริน และแอนซีย์ เมตแลนด์-นาลส์ ดาวรุ่งวัย 20 ปี ทว่ามาเน่กลับเลือก “ท่ายาก” กระโดดตีลังกายิงจนบอลข้ามคานออกไปว่า ตนไม่อยากพูดถึงประเด็นเกมรับมากไปกว่านี้ เพราะอันที่จริงเราควรจะได้สัก 4 ลูกด้วยซ้ำ
