ความเคลื่อนไหวทีมฟุตบอลทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งเตรียมแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 9-27 มกราคม ซึ่งไทยอยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับ ญี่ปุ่น, เกาหลีเหนือ และปาเลสไตน์ นั้น
“โค้ชเฮง” นายวิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า สำหรับข้อมูลของคู่แข่งทีมชาติไทยทั้ง 3 ทีมนั้น ตอนนี้มีข้อมูลอยู่ในระดับหนึ่ง ในส่วนของญี่ปุ่นนั้น เป็นฟุตบอลที่เน้นการเล่นเป็นระบบ และคิดว่าตัวผู้เล่นที่จะไปครั้งนี้ จะแตกต่างจากที่เดินทางมาแพ้ทีมชาติไทยในศึกฟุตบอล “เอ็ม-150 คัพ” ที่ประเทศไทย อย่างแน่นอน ในขณะที่เกาหลีเหนือนั้น แน่นอนว่าเป็นทีมที่เน้นความแข็งแกร่ง อึดกว่าไทยมาก ดังนั้นจะต้องเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายให้มากที่สุด
“ส่วนปาเลสไตน์นั้นเป็นทีมที่ทางฝ่ายเทคนิคฯ พยายามหาข้อมูลอย่างมาก แต่ก็ยังได้ไม่มากนัก เนื่องจากว่าเป็นประเทศที่ไม่ค่อยส่งแข่งที่ใดมากนัก อย่างไรก็ตามเชื่อว่าระดับของฟุตบอลน่าจะอยู่ในระดับเดียวกับทีมชาติไทย ดังนั้นจะประมาทไม่ได้โดยเด็ดขาด และต้องเตรียมหาข้อมูลมาให้ได้มากที่สุด” โค้ชเฮง กล่าวปิดท้าย
ด้านทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ตอนนี้เก็บตัวอยู่ที่ศูนย์พัฒนาศักยภาพนักกีฬาฟุตบอล ภายในมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี โดยก่อนหน้านี้ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดยู-23 เปิดเผยว่าอาจจะให้ “เต๋า” ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ปีกตัวเก่งของทีมลงมาเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ แทนที่ของ นพพล พลคำ ที่จะติดโทษแบนในเกมแรกของศึกชิงแชมป์เอเชียนั้น
ทางด้าน ธนาสิทธิ์ เปิดเผยว่า สมัยที่ติดทีมชาตินักเรียนไทยรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี นั้นเคยเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับมาก่อน และถือว่าเป็นตำแหน่งที่ชอบในตอนเด็กด้วย แต่หลังจากนั้นถูกจับมาเล่นด้านข้างมากขึ้น เพราะต้องเล่นแบบข้ามรุ่น ตั้งแต่เริ่มเล่นไทยลีกช่วงต้นกับบางกอกกล๊าส เอฟซี ทำให้คนติดภาพกับการเล่นปีกมากกว่า
“แน่นอนว่าหากโค้ชนั้นมอบหมายหน้าที่อะไรให้ ผมก็จะทำตามหน้าที่ตามแท็กติกที่วางเอาไว้ เช่นถ้าให้เล่นกลางรับ ก็ต้องคอยไล่บอล เก็บบอลทำเกมให้ได้ ส่วนตัวผมไม่กังวลกับตำแหน่งที่เล่น เพราะได้เล่นคือการที่โค้ชไว้ใจ เชื่อใจในตัวเราว่าสามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้”
กองกลางทีมชาติไทย กล่าวปิดท้ายว่า ตอนนี้ตัวเลือกตำแหน่งกลางรับของทีมมีน้อย ต่างจากตัวรุก ดังนั้นตนก็พร้อมเล่นได้หมด แม้หลายคนบอกว่าคนเล่นกลางรับจำเป็นต้องรูปร่างสูงใหญ่ แต่บางคนก็ไม่เป็นเช่นนั้น ดังนั้นหากมีโอกาสก็จะทำให้เต็มที่เสมอ ไม่ว่าเล่นตรงไหนก็ตาม
สำหรับฟุตบอลชายทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะเก็บตัวที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2560 และจะมีเกมอุ่นเครื่องในไทยอีกหนึ่งนัดพบกับ พัทยา ยูไนเต็ด ในวันที่ 29 ธันวาคม 2560 ก่อนจะเดินทางไปที่ประเทศจีนเพื่อเก็บตัวและทำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในวันที่ 3 มกราคม 2561
