เรย์มอนด์ มัวร์ อดีตนักเทนนิสแอฟริกาใต้ และสัญชาติอเมริกัน วัย 69 ปี แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งประธานบริหาร (ซีอีโอ) และผู้อำนวยการของการแข่งขันเทนนิสเอทีพีเวิลด์ทัวร์ มาสเตอร์ส 1000 “อินเดียน เวลส์ มาสเตอร์ส” และดับเบิลยูทีเอทัวร์ พรีเมียร์ แมนดาโทรี่ “อินเดียน เวลส์ โอเพ่น” ที่เมืองอินเดียน เวลส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ในทำนองดูถูกเพศหญิง
ก่อนหน้านี้ มัวร์ได้กล่าวก่อนเกมหญิงเดี่ยวรอบชิงชนะเลิศระหว่างวิคตอเรีย อซาเรนก้า จากเบลารุส กับ เซเรน่า วิลเลียมส์ มือ 1 โลกเจ้าถิ่น ที่เพิ่งกลับมาเล่นในรายการนี้เมื่อปีก่อน หลังปฏิเสธร่วมแข่งตั้งแต่โดนแฟนเทนนิสเหยียดผิวในปี 2001 ว่า ถ้าตัวเองเป็นนักเทนนิสหญิง คงต้องคุกเข่าขอบคุณพระเจ้าทุกคืนที่พระองค์ทรงประทานให้ยอดนักหวดชายอย่างโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ หรือราฟาเอล นาดาล เกิดขึ้นมา เพื่อจุดประกายให้กีฬาเทนนิสเป็นที่สนใจของทุกคนบนโลก
มาร์ติน่า นาฟราติโลว่า (แฟ้มภาพเว็บไซต์สกายสปอร์ตส์)
ส่งผลให้มัวร์ถูกต่อว่าจากหลายฝ่าย ตั้งแต่วิลเลียมส์ผู้น้อง ซึ่งยืนกรานว่านักแข่งหญิงทุกคนไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ เพราะยังมีแฟนเทนนิสอีกจำนวนมากที่เคยบอกกับเธอว่าจะไม่ดูเทนนิสถ้าไม่มีเธอหรือพี่สาว (วีนัส วิลเลียมส์) เธอลงเล่น ตามด้วยมาร์ติน่า นาฟราติโลว่า อดีตมือ 1 โลกหญิงจากเชโกสโลวาเกีย แต่ถือสัญชาติอเมริกัน เหมือนกัน วัย 59 ปี ที่ให้ความเห็นผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวด้วยการแนะนำให้บรรดาแร็กเกตหญิงรุ่นน้องไม่ร่วมแข่งรายการอินเดียน เวลส์ โอเพ่น ในอนาคตข้างหน้า
ล่าสุด แลร์รี่ เอลลิสัน นักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นเจ้าของรายการนี้ เผยแถลงการณ์หลังเกมที่เซเรน่าแพ้อซาเรนก้าในวันถัดมาที่ 21 มีนาคม ว่า หลังจากมีโอกาสได้คุยกับมัวร์ จึงทราบว่าฝ่ายหลังตัดสินใจลงจากตำแหน่งซีอีโอ และผู้อำนวยการการแข่งขันแล้ว