“ช้างศึก” ฟุตบอลทีมชาติไทยพ่าย “โสมขาว” เกาหลีใต้ 0-1 แมตช์อุ่นเครื่อง ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 27 มีนาคม
เกมนี้ “โค้ชซิโก้” นายเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย พักผู้เล่นตัวหลักบางคน โดยส่ง 11 ผู้เล่นตัวจริงประกอบด้วย สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เป็นผู้รักษาประตู กองหลังนำโดย “กัปตันอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ยืนแบ๊กซ้าย “ต้น” นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม เป็นแบ๊กขวา และให้ธนบูรณ์ เกษารัตน์ จับคู่เซนเตอร์กับ ประทุม ชูทอง กองกลางมีสรรวัชญ์ เดชมิตรยืนตัวรับ มีจักรพันธ์ แก้วพรม กับประกิต ดีพร้อม สร้างสรรค์เกมรุก และให้เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, มงคล ทศไกร และอดิศักดิ์ ไกรษร เป็น 3 ประสานแนวรุก
ขณะที่เกาหลีใต้ นำทีมมาโดย กี ซุงยอง กองกลางกัปตันทีม จากสวอนซี ทีมดังในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปาร์ค จูโฮ เซนเตอร์แบ๊กจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในบุนเดสลีกา เยอรมัน และซุค ฮยอนจุน กองหน้าจากเอฟซี ปอร์โต้ ในโปรตุเกส
เริ่มเกมมาได้เพียงแค่ 4 นาทีเท่านั้น ไทยต้องเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อน จากจังหวะที่ซุค ฮยอนจุน ได้โอกาสสับไกจากนอกเขตโทษ บอลพุ่งเช็ดคานเข้าประตูไปอย่างสวยงามให้เกาหลีใต้ออกนำไปก่อน 1-0
ถัดมา 3 นาที ไทยมีโอกาสบ้างจากจังหวะที่อดิศักดิ์ หาจังหวะพลิกบอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนลองซัดไกล บอลถากเสาออกไปเล็กน้อย
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 20 ไทยมีโอกาสอีกครั้งจากจังหวะที่อดิศักดิ์ ได้บอลที่สุดเส้นหลัง ก่อนเปิดเข้ามาให้เกริกฤทธิ์ ได้เอี้ยวตัววอลเลย์ บอลหลุดเสาไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 31 เกาหลีใต้มีโอกาสจากจังหวะที่นัม แตฮี เปิดบอลจากด้านซ้าน ให้ซุค ฮยอนจุน ได้โหม่ง แต่บอลตรงตัวสินทวีชัย
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บไทยได้ลูกเตะมุม ธีราทรเปิดเข้ามาก่อนถูกสกัดเอาไว้ได้ จบครึ่งแรกไทยตามหลังเกาหลีใต้อยู่ 0-1
ต้นครึ่งหลังไทยเปลี่ยน 4 ตำแหน่ง ส่ง “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์, ปกเกล้า อนันต์, เจนรบ สำเภาดี และ สารัช อยู่เย็น ลงเล่นแทน ประกิต, จักรพันธ์, สรรวัชญ์ และเกริกฤทธิ์ ส่วนเกาหลีใต้เปลี่ยน 2 ตำแหน่ง ส่งคิม คีฮี และ ควัก แตฮวี ลงเล่นแทน ฮง จองโฮ และคิม ยองกวอน
เริ่มมาได้นาทีเดียวเกาหลีใต้มีโอกาสอีกครั้งจากจังหวะที่ ซุค ฮยอนจุน ได้สับไกในกรอบเขตโทษ แต่บอลหลุดเสาสองออกไป
จากนั้นไทยเปลี่ยนตัวเพิ่ม ส่งพีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ลงมาเล่นแทนมงคล ทศไกร ก่อนที่นาทีที่ 55 ปกเกล้า จะได้โอกาสส่องไกลอีกครั้ง แต่ก็หลุดเสาออกไป
นาทีที่ 57 ไทยได้ลูกเตะมุมทางด้านขวา ธีราทรเปิดเข้ามาให้อดิศักดิ์ได้โหม่ง แต่คิม ซึงกิว นายทวารโสมขาวตะครุบไว้ได้บนเส้นพอดี จากนั้นนาทีที่ 64 เป็นเกาหลีใต้ที่มีโอกาสบ้างจากจังหวะที่กี ซุงยอง แตะหนีสินทวีชัยได้แล้ว แต่ซัดข้ามคานออกไป
จากนั้นนาทีที่ 69 ชนาธิป จ่ายทะลุช่องให้สารัช หลุดเข้าไปยิงแต่ว่านายทวารเกาหลีใต้ปัดออกไปได้ปลายมือ ก่อนที่ไทยจะเปลี่ยนตัวสุดท้ายส่งนูรูล ศรียานเก็ม ลงมาเล่นแทนธีราทร
ช่วงเวลาที่เหลือ ต่างฝ่ายต่างพยายามเปิดเกมบุกใส่กัน แต่ไม่สามารถทำอะไรเพิ่มได้ จบเกมเกาหลีใต้บุกมาเอาชนะไทยไปได้ 1-0
ซิโก้ กล่าวว่า นักเตะวันนี้สู้เต็มที่แล้ว ต้องยอมรับว่าไทยได้พักมาน้อยกว่า และทีมเกาหลีใต้ก็แข็งแกร่งมาก เกมนี้ถือว่าทุกคนได้ประสบการณ์กับเกาหลีใต้ เห็นข้อบกพร่องของตัวเอง ดีที่วันนี้ไม่ใช่รอบ 12 ทีมสุดท้าย เพราะฉะนั้นยังมีโอกาสให้แก้ตัวได้ วันนี้แพ้เพียงลูกเดียว ก็ต้องถือว่าพอรับได้
อดีตกองหน้าทีมชาติไทย กล่าวต่อว่า วันนี้มีการเปลี่ยนกองกลางทั้งหมด อยากลองนักเตะ แม้ว่าจะเสียประตูเร็ว แต่ต้องชมที่ยังสามารถรักษารูปแบบการเล่นของตัวเองได้ ส่วนตัวใหม่ๆ ที่เรียกมานั้น อยากให้ได้มีประสบการณ์กับชุดใหญ่ เพียงแต่ไม่สามารถใช้ได้ทุกคนเพราะต้องเน้นผลการแข่งขันด้วย
เฮดโค้ชทีมชาติไทย กล่าวปิดท้ายว่า ในรอบ 12 ทีมสุดท้าย เรารู้ตัวดีว่าอยู่อันดับต่ำสุด ก็หวังแค่ต้องการทำผลงานให้ดี อย่างน้อยในบ้านต้องให้แฟนบอลเป็นกำลังใจให้ และต้องมีการปรับปรุงทีม ต้องเล่นให้ได้หลายระบบมากกว่านี้ ส่วนเรื่องการเตรียมทีมนั้นได้คุยกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ แล้ว ก็ให้ทำแผนมาว่าจะต้องซ้อมอย่างไร ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ และจะเชิญสโมสรทั้งหมดมาหารือร่วมกันอีกครั้ง เพื่อผลประโยชน์สำหรับทีมชาติไทย
