นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยถึงการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 34 “น่านเกมส์” ระหว่างวันที่ 19-29 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมาว่า การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ “น่านเกมส์” ที่เพิ่งปิดฉากไปนั้น จังหวัดน่านซึ่งถือเป็นจังหวัดในกลุ่มของเมืองรอง สามารถเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันได้เป็นอย่างดี และมีมาตรฐานแทบทุกด้าน ประชาชนในจังหวัดต่างให้ความสนใจและมีส่วนร่วมกับการเป็นเจ้าภาพเป็นอย่างดีทุกภาคส่วน กกท. ในฐานะเจ้าของเกมการแข่งขัน ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการกระจายการพัฒนาด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านกีฬาลงไปยังเมืองรอง ส่งผลให้เกิดการกระจายรายได้ทางเศรษฐกิจในจังหวัดน่าน ซึ่งเรื่องนี้มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เก็บข้อมูลให้ กกท. สรุปว่า การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 34 “น่านเกมส์” ของจังหวัดน่านในครั้งนี้ มีเงินหมุนเวียนกว่า 1,109 ล้านบาท ทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐิกจ (จีดีพี) ขยายตัว 0.11 เปอร์เซนต์
นายสกลกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ด้านการพัฒนานักกีฬา “น่านเกมส์” มีนักกีฬาจากทั่วประเทศที่ผ่านการคัดเลือกไปแข่งขันที่จังหวัดน่าน จำนวน 12,409 คน โดยมีนักกีฬาเยาวชนทีมชาติเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 589 คน คิดเป็น 4.75 เปอร์เซนต์ นักกีฬาทั่วไปเอาชนะนักกีฬาเยาวชนทีมชาติได้ 20.19 เปอร์เซนต์ หมายความว่า มีนักกีฬาใหม่ๆ ฝีมือดีเกิดขึ้น ในส่วนของกีฬาสถิติเทียบกับกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ผ่านมามีสถิติดีขึ้น 52.99 เปอร์เซนต์ มีการทำลายสถิติ จำนวน 23 รายการ คิดเป็น 17.16 เปอร์เซนต์ แชมป์เก่าสามารถป้องกันแชมป์ได้ 23.54 เปอร์เซนต์ ที่เหลือเป็นนักกีฬาที่สามารถพัฒนาจนได้แชมป์กว่า 76.46 เปอร์เซนต์ ต้องถือว่าจังหวัดน่านสามารถสอบผ่านการเป็นเจ้าภาพได้เป็นอย่างดี
