ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ อดีตตำนานนักชกที่ไม่เคยแพ้ใครชาวสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่งอายุครบ 41 ปีไม่ถึง 2 เดือน และแขวนนวมไปแล้ว แต่ถูกแฟนมวย และนักวิเคราะห์เกมหมัดมวยต่อว่าในการกลับมาชกครั้งพิเศษ หรือไฟต์ที่ 50 กับแมตช์ “ปาหี่” ซึ่งชนะทีเคโอยก 10 เหนือคอนเนอร์ แม็คเกรเกอร์ นักต่อสู้ศิลปผสมผสาน (เอ็มเอ็มเอ) หรือนักมวยกรงเหล็กอัลติเมตไฟติ้ง แชมเปี้ยนชิพ (ยูเอฟซี) ที่มีอายุเพียง 29 ปี และไม่เคยชกมวยอาชีพมาก่อน ปลายเดือนสิงหาคม ปีที่ผ่านมา
รวมทั้ง ฟลอยด์ยังถูกตราหน้าเพิ่มจากไฟต์ดังกล่าวว่า “หน้าเงิน” หลังบางแหล่งข่าวระบุว่า เจ้าตัวได้เงินตอบแทนมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (9,300 ล้านบาท / อัตรา 1 ดอลลาร์สหรัฐ 31 บาท) และแม็คเกรเกอร์รับอีก 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3,100 ล้านบาท) จนส่งผลให้ “เดอะ มันนี่” มีความคิดรีแมตช์แม็คเกรเกอร์ แถมยังเป็นการชกแบบกรงเหล็ก ที่ฟลอยด์ไม่มีประสบการณ์ และเป็นของถนัดอีกฝ่ายนั้น
ล่าสุด “เดลี่ เมล์” สื่อประเทศอังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 10 เมษายน ว่า ฟลอยด์วางแผนขึ้นสังเวียนกรงเหล็กกับแม็คเกรเกอร์จริง เนื่องจากเจ้าตัวออกปากยืนยันว่า ได้เจรจาเรื่องรายได้จากการถ่ายทอดสดแบบคนดูต้องเสียเงิน (เปย์ เปอร์ วิว) เฉพาะในสหรัฐอเมริกาของค่าย “โชว์ไทม์” และค่ายเจ้าของอย่าง “ซีบีเอส” เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งฟลอยด์บอกว่า เงินที่ตัวเองต้องได้กลับมาในครั้งนี้ จะต้องมากมายแบบบ้าบอแน่ๆ เพราะตนคือฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ ที่อยากได้อะไร ก็ต้องได้ตามนั้น
โดยสำนักข่าวเมืองผู้ดีเชื่อว่า เงินที่ฟลอยด์จะได้รับ ต้องไม่ต่ำกว่าการชกครั้งแรกกับแม็คเกรเกอร์ที่ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนแม็คเกรเกอร์ชาวไอร์แลนด์ ก็เริ่มสร้างกระแสไม่ให้ตัวเองตกข่าว ด้วยการทุ่มรถเข็นทุ่มใส่รถบัสที่มีคาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ นักสู้กรงเหล็กจากรัสเซีย นั่งอยู่ เนื่องจากไม่พอใจที่ฝ่ายหลังมีปัญหากับอาร์เต็ม โลบอฟ อีกหนึ่งนักสู้มวยกรงชาวรัสเซีย แต่เป็นเพื่อนสนิทเจ้าตัว และอาศัยอยู่ในกรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ บ้านเกิดแม็คเกรเกอร์ จนต้องเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
