ศาลปกครองนครศรีฯไม่รับคำร้อง’อนงค์’-เดินหน้าเลือกตั้ง30เสียงดิวิชั่น2วันที่22ม.ค.ได้

ความเคลื่อนไหวการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ หลังจากปิดรับสมัครมีผู้มายื่นสมัครกับคณะกรรมการกลางที่มี พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ เป็นประธานจำนวน 5 คน ได้แก่ นายวนัสธนา (ธวัชชัย) สัจจกุล, พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง, นายพินิจ สะสินิน, นายชาญวิทย์ ผลชีวิน และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ขณะที่อีก 1 รายคือ พ.ต.ท.ชัยทรัพย์ ธวัช ฤทธิ์เต็ม ไปสมัครกับสมาคมฟุตบอลฯ ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มกราคม ก่อนกำหนดเลือกตั้ง 30 เสียงดิวิชั่น 2 ใหม่ในวันรุ่งขึ้น 22 มกราคม

ตลอดวันที่ 21 มกราคม แฟนบอลไทยต้องลุ้นระทึกว่า วงการฟุตบอลไทยอาจโดนสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) สั่งแบน หลังจากนางอนงค์ ล่อใจ อดีตประธานสโมสรสุราษฎร์ธานี เอฟซี เป็นผู้แทน 4 สโมสร ร่วมกับ พังงา เอฟซี, ปัตตานี เอฟซี, ยะลา ยูไนเต็ด ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ที่ จ.นครศรีธรรมราช ให้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการกลาง และ กกท. พร้อมทั้งขอให้ไต่สวนฉุกเฉิน และให้คุ้มครองชั่วคราวไม่ให้มีการเลือกตั้ง 30 เสียงในวันที่ 22 มกราคม ซึ่งหากศาลประทับรับฟ้องจะทำให้ฟีฟ่าลงโทษแบนทีมชาติไทยได้

โดยช่วงเช้าวันเดียวกันนายก่อเกียรติ อินทรัตน์ นายกสมาคมกีฬา จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ตัวแทนสโมสรสุราษฎร์ธานี เอฟซี คือ นายเจิม อินทรกุล ซึ่งมีนายสมชาติ ประดิษฐพร ประธานสโมสรที่มารับทำทีมต่อ นางอนงค์ เข้ายื่นขอชี้แจงคัดค้านเพื่อไม่ให้ศาลปกครองประทับรับฟ้องจากนางอนค์ เพื่อไม่ให้วงการฟุตบอลเสียหาย พร้อมระบุว่า นางอนงค์ไม่มีสิทธิ์ฟ้องต่อศาลปกครอง เพราะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งประธานสโมสรแล้ว และหวังว่านางอนงค์จะถอนฟ้อง เพื่อไม่ให้ปัญหาบานปลายกว่านี้

ด้านนางอนงค์กล่าวว่า การกระทำของตัวเองถูกต้อง และมีหลักฐานชัดเจน ไม่ขัดต่อกฏของฟีฟ่า และยืนยันว่าฟีฟ่าไม่มีสิทธิแบนทีมชาติไทย

ขณะที่ ศาลปกครอง จ.นครศรีธรรมราช ได้เริ่มทำการไต่สวนทั้ง 2 ฝ่ายตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อประกอบการพิจารณาว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่ กระทั่งช่วงดึกวันเดียวกัน ศาลปกครอง ที่ จ.นครศรีธรรมราช มีคำวินิจฉัยว่า ไม่รับคำร้องของนางอนงค์ ล่อใจ ส่งผลให้การเลือกตั้งตัวแทน 30 เสียงดิวิชั่น 2 ตามโรดแมปที่คณะกรรมการกลางฯ กำหนดไว้ในวันที่ 22 มกราคม สามารถดำเนินการต่อไปได้

ADVERTISMENT

*** ภาพจากเฟซบุ๊ก anong.lorjai