อาร์เซน่อลที่เหลือลุ้นแชมป์แค่ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลนี้ ลงเตะนัด 31 เท่ากับเลสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูง ซึ่งมีโปรแกรมแข่งนัด 32 ในวันรุ่งขึ้น ลดช่องว่างกับฝ่ายหลังเหลือ 8 คะแนน หลังเปิดบ้านถล่มวัตฟอร์ด 4-0 ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดียม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 2 เมษายน
โดยทีม “ปืนใหญ่” ภายใต้การคุมทัพย่างเข้าปีที่ 20 ของอาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศส ซึ่งได้แชมป์ในซีซั่นนี้แค่เกมการกุศล “คอมมิวนิตี้ ชิลด์” ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ก่อนตกรอบฟุตบอลถ้วยทั้ง 3 รายการอย่างลีกคัพ อังกฤษ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และเอฟเอคัพ อังกฤษ ไปหมดแล้ว ได้ 4 ประตูในเกมนี้จากอเล็กซิส ซานเชซ ตั้งแต่ 4 นาทีแรก ตามด้วยอเล็กซ์ อีโวบี้ นาที 38, เอ็กตอร์ เบเญริน นาที 48 และธีโอ วัลค็อตต์ ตัวสำรองในนาทีสุดท้าย
ส่งผลให้อาร์เซน่อลเก็บชัยเป็นเกมที่ 2 ในรอบ 9 นัดจากทุกรายการ แต่เป็นเกมแรกจาก 4 เกมลีกหลังสุด มี 58 แต้มจาก 31 นัด ยังอยู่อันดับ 3 ของตารางคะแนนต่อไป ทว่าไล่จ่าฝูงเลสเตอร์เหลือ 8 แต้มจากการแข่งเท่ากัน และเหลือการแข่งอีก 7 นัดด้วยกัน
ส่วน “แตนอาละวาด” ทีมเยือน ที่ก่อนหน้านี้บุกมาเขี่ยอาร์เซน่อลตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึกเอฟเอคัพ ต้องแพ้ในลีกเป็นเกมที่ 3 จาก 4 นัดล่าสุด ยังมี 37 คะแนนจาก 31 นัด แต่ยังมีแต้มมากกว่าโซนตกชั้นถึง 10 คะแนน
ขณะที่เกม “บิ๊กแมตช์” ประจำวันระหว่างทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล รับการมาเยือนของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ซึ่งกำลังลุ้นคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเป็นครั้งแรกในรอบ 55 ปี
ปรากฏว่า รองจ่าฝูงอย่างผู้มาเยือนพลาดโอกาสทำคะแนนไล่เลสเตอร์เหลือแค่ 2 แต้ม หลังทำได้เพียงไล่ตีเสมอเจ้าถิ่น 1-1 จากแฮร์รี่ เคน ในนาที 63 ส่วนลิเวอร์พูลได้ประตูนำ 12 นาทีก่อนหน้านั้นจากฟิลิปเป้ คูตินโญ่
ทำให้สเปอร์สมีคะแนนแค่ 62 แต้มจาก 32 นัด ลดช่องว่างระหว่างตัวเองกับผู้นำอย่างเลสเตอร์เหลือเพียง 4 คะแนน แต่เตะมากกว่า 1 นัด
ด้านลิเวอร์พูลที่อาจลงแข่งนัดที่ 30 ในลีกก็จริง แต่การมี 45 แต้ม ส่งผลให้ยังมีคะแนนตามอันดับ 4 แมนฯ ซิตี้ มากถึง 9 แต้ม แม้จะเตะน้อยกว่า 1 นัดก็ตาม
ผลคู่อื่น
บอร์นมัธ แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-4
แอสตัน วิลล่า แพ้ เชลซี 0-4
นอริช ซิตี้ ชนะ นิวคาสเซิล 3-2
เวสต์แฮม เสมอ คริสตัล พาเลซ 2-2
สโต๊ก ซิตี้ เสมอ สวอนซี ซิตี้ 2-2
ซันเดอร์แลนด์ เสมอ เวสต์บรอมวิช 0-0
