ความเคลื่อนไหวหลังจากที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วยบริษัท สุพรรณบุรี ฟุตบอล อะคาเดมี่ จำกัด ร่วมเซ็นสัญญาผนึกกำลังเป็นพันธมิตรกับสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี 8 สมัย ในการสร้างโปรเจ็กต์ “สุพรรณบุรี ฟุตบอล อะคาเดมี่” หรือ SPFA ศูนย์ฝึกลูกหนังระดับเยาวชนครบวงจรแห่งแรกของเมืองไทย เพื่อต่อยอดสู่โครงการ “ดรีม 11” เฟ้นหาแข้งเยาวชนไทยฝีเท้าดีจากทั่วประเทศ 18 ราย ปลุกปั้นสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 เมษายน นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายก อบจ.สุพรรณบุรี พร้อมด้วยนายธีรรัตน์ จึงยิ่งเรืองรุ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สุพรรณบุรี ฟุตบอล อะคาเดมี่ จำกัด และนายบุญเพิ่ม อินทนปสาธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิวส์ กรุ๊ป บางกอก จำกัด ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมกับลาร์ส ริคเค่น หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลอะคาเดมี่ของสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เพื่อหารือเตรียมความพร้อมกับโครงการที่จะเกิดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของทางสโมสร ก่อนจะเดินชมสนามซิกนัล อิดูนา พาร์ค รังเหย้าของทีมทุกซอกทุกมุม
จากนั้นช่วงบ่ายวันเดียวกัน คณะผู้บริหารจากประเทศไทยได้เดินทางเข้าชมสนามฝึกซ้อมหลักของสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทั้งในส่วนสนามซ้อมของทีมชุดใหญ่และสนามซ้อมของทีมชุดเยาวชน โดยมีมาร์ค พูลิซิช ผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลอะคาเดมี่ ซึ่งเป็นบิดาของคริสเตียน พูลิซิช ดาวรุ่งเลือดใหม่ของทัพ “เสือเหลือง” เป็นผู้พาชมและแสดงตัวอย่างการฝึกซ้อมของทีมอะคาเดมี่ด้วยตนเอง โดยมีไฮไลต์อยู่ที่การใช้เครื่อง “Footbonaut” ซึ่งถือเป็นเคล็ดลับความสำเร็จที่สำคัญในการปลุกปั้นเยาวชนของทีม เนื่องจากเป็นสโมสรอาชีพแห่งแรกในโลกที่ใช้เทคโนโลยีนี้ เป็นเทคโนโลยีไฮเทคในการช่วยให้นักเตะแต่ละคนสามารถจ่ายบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยระบบ Footbonaut จะเน้นรูปแบบของการจ่ายบอลสั้นแต่รวดเร็ว โดยรูปแบบจะเป็นการปล่อยบอลออกจากเครื่องยิงอัตโนมัติ 4 จุดรอบด้าน ให้ผู้เล่นได้ฝึกฝนการจับบอล ผ่านบอล และยิงบอล ไปตามเป้าหมายต่างๆ รอบตัว ท่ามกลางแสง สี เสียง ที่สนุกสนาน
“สำหรับรายละเอียดของ Footbonaut นั้นเป็นอุปกรณ์ที่มีเครื่องจ่ายบอลติดตั้งอยู่ 4 ทิศทางบนพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 14 เมตร ซึ่งตัวนักเตะจะต้องยืนในวงกลมกลางพื้นที่และสังเกตลูกฟุตบอลจากเครื่องจ่ายบอลที่ยิงสุ่มออกมา ก่อนที่จะจ่ายบอลกลับไปยัง 1 ใน 64 ช่องรอบตัวที่มีแสงไฟปรากฏขึ้น โดยทุกความเคลื่อนไหวและข้อมูลต่างๆ จะเชื่อมโยงไปยัง iPad ของโค้ชผู้ดูแลในทันที”
ภายหลังรับชมการสาธิต นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายก อบจ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า สนามซ้อมแห่งนี้ดูเรียบง่ายดี การก่อสร้างไม่หวือหวาจนเกินไป แต่เต็มไปด้วยคุณภาพในการฝึกฝนนักเตะ และยังมีการดูแลรักษาที่ดีมาก จึงถือว่าเป็นสนามที่เหมาะสำหรับการฝึกเด็กที่ยอดเยี่ยม และน่านำกลับใช้ไปเป็นต้นแบบ ซึ่งเชื่อว่าหากเด็กไทยได้มาฝึกฝนที่นี่จะได้เรื่องแทคติคและเรื่องโปรแกรมฝึกสอนที่ได้มาตรฐาน เชื่อว่าอะคาเดมี่นี้เน้นพื้นฐานจริงๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ และถ้าเด็กไทยได้ฝึกในวิธีที่ถูกต้องก็จะนำไปสู่ความสำเร็จได้ ส่วนเครื่อง “Footbonaut” นั้นสุดยอดมาก การเป็นเครื่องอัตโนมัติทำให้ช่วยเบาแรงไปได้เยอะ และยังถูกออกแบบมาให้มีสีสัน มีเสียงเพลง ทำให้เด็กมีความสนุกสนานและกระตือรือร้น
นายธีรรัตน์กล่าวว่า ประทับใจเป็นอย่างมาก สนามฝึกซ้อมมีการแบ่งสัดส่วนที่ชัดเจน รวมถึงเครื่อง “Footbonaut” ที่เชื่อว่าจะมีประโยชน์ในการเรียกศักยภาพด้านสกิลของเยาวชนได้เป็นอย่างดี ซึ่งทางสโมสรได้รับปากว่าเด็กในโครงการดรีม 11 จะได้ร่วมใช้โปรแกรมฝึกซ้อมนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้การได้หารือกับลาร์ส ลิคเค่น ซึ่งเป็นหัวหน้าโค้ชอะคาเดมี่ของทีม ทำให้ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์มาพัฒนาโครงการอีกมากมาย เนื่องจากทางสโมสรให้ความสนใจกับโครงการนี้ รวมถึงมีความเห็นที่ตรงกันว่าควรจะทำโปรแกรมในช่วงอายุ 14 ปี ซึ่งตรงกับที่ทาง อบจ.สุพรรณบุรีให้การสนับสนุนการจัดแข่งขันฟุตบอลระดับมัธยมศึกษาตอนต้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งหลังจากนี้มีเวลาเตรียมการทั้งหมดอีก 2-3 เดือนเพื่อให้โครงการออกมาได้ดีที่สุด
สำหรับโปรเจ็กต์ “สุพรรณบุรี ฟุตบอล อะคาเดมี่” มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานักเตะเยาวชนไทยให้มีฝีเท้าที่ได้มาตรฐานระดับสากลอย่างแท้จริง และต่อยอดสู่การป้อนนักเตะในโครงการสู่การเป็นนักเตะอาชีพลงเล่นในลีกประเทศไทยและต่างแดน โดยจะเปิดคัดนักเตะเยาวชนจากทั่วประเทศไทย เพื่อเฟ้นหา 11 ผู้เล่นที่ดีที่สุดในแต่ละตำแหน่ง และผู้เล่นสำรองอีก 7 ราย เข้าสู่โครงการ “ดรีม 11” (DREAM 11) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในฐานะพาร์ตเนอร์ ด้วยการส่งโค้ชมืออาชีพของทีมมาฝึกฝนทั้งนักเตะและโค้ชถึงเมืองไทย รวมถึงเป็นผู้คัดเลือกนักเตะด้วยตนเองภายใต้มาตรฐานระดับโลก ร่วมกับนักเตะตัวจริงของทีมชาติไทย และโค้ชอาวุโสระดับเอ-ไลเซนส์ ตลอดจนฝึกอบรมโปรแกรมการตลาด การทำระบบ “ซื้อ-ขายนักเตะ” ที่มีมาตรฐานสากล
โดยเด็กที่ผ่านการคัดเลือกทั้ง 18 คน จะได้ฝึกซ้อมและแข่งขันกับทีมเยาวชนของ “เสือเหลือง” ที่ประเทศเยอรมนี ท่ามกลางแมวมองจากสโมสรชั้นนำทั่วทุกมุมโลกที่เดินทางมาร่วมชมฝีเท้า เพื่อโอกาสในการเซ็นสัญญาเข้าสังกัด พร้อมกันนี้จะมีการทำรายการทีวี “ดรีม 11” ที่จะติดตามเฟ้นหาสุดยอดนักเตะจากทั่วประเทศเข้าสู่โปรแกรมระดับโลก โดยโครงการนี้จะเริ่มเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2016 เป็นต้นไป