พล.ท.สมควร วงษ์เวียงจันทร์ เลขาธิการสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตอนนี้สมาคมมีแผนที่จะคัดเลือกนักว่ายน้ำที่มีแววว่าจะพัฒนาไปได้ไกล 2 คน มาสร้างอย่างครบวงจร โดยจะให้ไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ต่างประเทศ เหมือนที่สิงคโปร์หรือเวียดนามทำจนประสบความสำเร็จมาแล้ว
อย่างไรก็ตามต้องให้ฝ่ายว่ายน้ำพิจารณาคัดเลือกนักว่ายน้ำระดับเยาวชนที่ดีที่สุดในเวลานี้มาสร้าง ซึ่งจะต้องได้ภายในเดือนตุลาคมนี้ เพราะต้องการจะปั้นให้คว้าเหรียญในซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในปลายปีหน้า รวมทั้งได้โควตาไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และวนรอบไปคว้าเหรียญในเอเชี่ยนเกมส์ 2022 ที่ประเทศจีนด้วย แต่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของนักกีฬาและผู้ปกครองเป็นหลัก ถ้าทุกฝ่ายมีความตกลงร่วมกันแล้ว ก็จะเริ่มแผนได้ในช่วงต้นปีหน้า
“หลังจบเอเชี่ยนเกมส์และยูธโอลิมปิกเกมส์ ก็ต้องให้ผู้เกี่ยวข้องของฝ่ายว่ายน้ำมาสรุปผลงานว่ามีอะไรที่ดีและไม่ดี เพื่อจะได้มีการปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น สำหรับนักว่ายน้ำ 2 คน ที่อยากได้มาเป็นตัวหลักที่จะสร้างเหรียญรางวัลนั้น ผมไม่อยากได้ที่ปริมาณเยอะ แต่อยากได้ที่คุณภาพ เมื่อจำนวนน้อยก็สามารถดูแลได้อย่างเต็มที่ ตอนนี้มีในใจบ้างแล้ว แต่ก็ต้องคุยกับทางพ่อแม่ของนักกีฬาก่อนว่าคิดตรงกันหรือไม่” พ่อบ้านสมาคมกีฬาว่ายน้ำไทยกล่าว
ส่วนความคืบหน้าการรักษาอาการบาดเจ็บของ “เงือกหมอนอิง” เพียงขวัญ ปะวะโพตะโก ที่เอ็นร้อยหวายอักเสบเรื้อรัง และยังไม่ได้รับการผ่าตัดรักษานั้น พล.ท.สมควร กล่าวว่า ตอนนี้กำลังหารือกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าอย่างใกล้ชิด เพื่อหาคิวผ่าตัดให้ได้เร็วที่สุด และอยากจะให้ได้ผ่าตัดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากเพียงขวัญมีความตั้งใจในการว่ายน้ำอย่างมาก และเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยทั้งในซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในปีหน้า และมหกรรมในอนาคตที่รออยู่
