“โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวมือ 1 ของโลก โดนเบียดร่วงจากตำแหน่งผู้นำไปอยู่อันดับ 2 หลังจบรอบสามในการแข่งขันกอล์ฟ “บลูเบย์ แอลพีจีเอ” ที่เกาะไห่หนาน ประเทศจีน เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน แต่ยังมีลุ้นแชมป์ที่ 4 ของฤดูกาลนี้ หลังจากทำสกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 208 จากผลงาน 1 อีเกิ้ล 2 เบอร์ดี้ และ 3 โบกี้ ในรอบสาม
โปรเมมีสกอร์ตามหลังกาบี้ โลเปซ โปรชาวเม็กซิกันที่ฟอร์มฮอตในวันเกิดอายุครบ 25 ปีของตัวเองในวันดังกล่าวพอดี ทำวันเดียว 6 อันเดอร์พาร์ จนมีสกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 207 เพียงสโตรกเดียว โดยช่วงสุดท้ายนั้น โปรเมยังนำโลเปซอยู่ 2 สโตรก หลังจากได้อีเกิ้ลที่หลุม 14 พาร์ 5 แต่แล้วโลเปซก็มาทำโฮลอินวันที่หลุม 17 พาร์ 3 ต่อด้วยโบกี้ที่หลุม 18 พาร์ 5 ขณะที่โปรเมไปพลาดเสียโบกี้หลุมสุดท้ายจนสกอร์เปลี่ยนแปลงดังกล่าว
ขณะที่ปาร์ก ซอง ฮยอน โปรสาวชาวเกาหลีใต้มืออันดับ 2 ของโลก ตามมาในอันดับ 3 ร่วมกับคิม เซ ยอง เพื่อนร่วมชาติ ต่างทำสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 212 เท่ากัน ส่วน “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล กับ “โปรสายป่าน” ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์ ต่างยังมีลุ้นห่างๆ ในอันดับ 7 ร่วม สกอร์ 1 อันเดอร์พาร์ 215 และเฝิง ซานซาน อดีตมือ 1 โลกชาวจีน ในฐานะแชมป์เก่า อยู่อันดับ 17 ร่วม สกอร์ 3 โอเวอร์พาร์ 219
ทั้งนี้ เว็บไซต์ของแอลพีจีเอทัวร์ระบุว่า ผลงานของโปรเมและปาร์ก ซอง ฮยอน ในรายการนี้อาจทำให้อันดับโลกเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยถ้าปาร์กคว้าแชมป์ได้สำเร็จ จะมีคะแนนเฉลี่ยแซงโปรเมขึ้นไปเป็นมือ 1 ของโลกอีกครั้งทันที แต่หากปาร์กไม่ได้แชมป์ก็มีเงื่อนไขอื่นๆ ที่ทำให้สาวหล่อจากเกาหลีใต้ได้ลุ้นแซงโปรเมเช่นกัน โดยสาวไทยต้องพยายามการันตีอันดับ 2 เป็นอย่างน้อย และลุ้นว่าปาร์กจะไม่ได้แชมป์เพื่อยังยึดเบอร์ 1 ของโลกต่อไปอีกสัปดาห์ แต่หากโปรเมจบในอันดับอื่นๆ นอกจากแชมป์หรือรองแชมป์ ก็ต้องดูว่าปาร์กจะจบอันดับใด
สำหรับผลงานของสาวไทยคนอื่นๆ
อันดับ 23 ร่วม “โปรกิฟท์” เบญญาภา นิภัทร์โสภณ 4 โอเวอร์พาร์ 220
อันดับ 37 ร่วม “โปรจูเนียร์” ธิฎาภา สุวัณณะปุระ 5 โอเวอร์พาร์ 221
อันดับ 43 ร่วม “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ 6 โอเวอร์พาร์ 222
อันดับ 72 ร่วม “โปรแชมเปญ” เฌอมาลย์ สันติวิวัฒนพงศ์ 16 โอเวอร์พาร์ 232
อันดับ 78 “โปรแจน” วิชาณี มีชัย 21 โอเวอร์พาร์ 237
