ทีมชาติฝรั่งเศส ผงาดคว้าแชมป์ศึกเทนนิสชิงแชมป์โลกประเภททีมหญิง หรือ “เฟดคัพ” เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2003 ได้สำเร็จ หลังจากปราบออสเตรเลีย เจ้าภาพ ด้วยคะแนนรวม 3-2 หลังจบการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เวิลด์กรุ๊ป วันที่สอง ที่นครเมลเบิร์น เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน
สำหรับการแข่งขันวันแรก ทั้งสองทีมเสมอกันมา 1-1 ก่อนที่จะเข้าสู่การแข่งขันวันที่สองจำนวน 3 คู่ โดยในการแข่งขันเดี่ยวชนมือ แอชลีห์ บาร์ตี้ มือ 1 ของโลกฝ่ายหญิงชาวออสเตรเลีย พลาดท่าแพ้ คริสติน่า มลาเดโนวิช มือ 40 ของโลกจากฝรั่งเศส 6-2, 4-6 และ 7-6 (1) ทำให้ฝรั่งเศสขึ้นนำ 2-1 ในคะแนนรวม
แต่จากนั้นออสเตรเลียก็ตีเสมอเป็น 2-2 จากแมตช์ที่ไอล่า ทอมเลียโนวิช มือ 51 ของโลกของเจ้าถิ่น ชนะ โปลีน ปาร์ม็องติเยร์ สาวเมืองน้ำหอมมือ 122 ของโลก 6-4, 7-5
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
สุดท้ายจึงต้องมาตัดสินหาแชมป์ในการแข่งขันประเภทคู่ และเป็นกาโรลีน การ์เซีย กับ คริสติน่า มลาเดโนวิช เอาชนะคู่ของแอชลี่ห์ บาร์ตี้ กับ ซาแมนธา สโตเซอร์ 6-4 และ 6-3 ส่งผลให้ฝรั่งเศสคว้าแชมป์ด้วยคะแนนรวม 3-2 ส่วนออสเตรเลียพลาดการคว้าแชมป์ในรอบ 45 ปี
ก่อนหน้านี้ ทีมนักเทนนิสสาวฝรั่งเศสคว้าแชมป์เฟดคัพมาแล้ว 2 สมัย คือการปราบเนเธอร์แลนด์ 4-1 เมื่อปี 1997 และปราบสาวสหรัฐ 4-1 เมื่อปี 2003 ที่นำทีมโดยอเมลี โมเรสโม ยอดนักตบสาวชาวฝรั่งเศสในขณะนั้น
“จากมุมมองส่วนตัวแล้ว ฉันพยายามสู้อย่างเต็มที่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหวังว่าความพยายามครั้งนี้จะทำให้แฟนๆ ชาวออสเตรเลียเกิดความภาคภูมิใจ ซึ่งตนทุ่มเทแบบสุดตัวแล้วจริงๆ” บาร์ตี้ เปิดใจ
ขณะที่มลาเดโนวิช ที่เก็บอีก 2 แต้มให้บ้านเกิดจนคว้าแชมป์ได้ เปิดใจว่า “ฉันเพียงแค่ลงเล่นแบบมีความเชื่อมั่น เชื่อในตัวเองว่าจะสู้ให้สุด จนคู่แข่งต้องเจอกับงานที่ยากลำบาก ภูมิใจสุดสุดที่ได้มีส่วนทำเพื่อทีมจนคว้าแชมป์ได้”
