เจ้าหน้าที่สืบสวนอุบัติภัยทางอากาศของคณะกรรมการความปลอดภัยด้านคมนาคมแห่งชาติสหรัฐ เผยรายละเอียดความคืบหน้าการสืบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่เมืองคาลาบาซาส เมื่อวันที่ 26 มกราคม ซึ่งคร่าชีวิตโคบี้ ไบรอันต์ ตำนานบาสเกตบอลวัย 41 ปี รวมถึงลูกสาวคนรอง จิอันน่า วัย 13 ปี กับผู้โดยสารและนักบินอีก 7 คน โดยระบุว่า นักบินพยายามบังคับ ฮ.ให้บินขึ้นเหนือกลุ่มเมฆ เนื่องจากวันดังกล่าวมีหมอกลงจัด แต่แล้วจู่ๆ ฮ.ก็เปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว แล้วเอียงลงสู่พื้นจนกระแทกเนินเขาในอีก 60 วินาทีถัดมา เกิดการระเบิดและไฟไหม้จนทุกคนบนเครื่องเสียชีวิต
เจ้าหน้าที่สืบสวน เจนนิเฟอร์ โฮเมนดี้ คะเนว่า เฮลิคอปเตอร์ตกกระแทกพื้นด้วยความเร็วกว่า 2,000 ฟุตต่อนาที ส่วนข้อมูลจากเรดาร์พบว่า นักบินพยายามบินขึ้นเหนือกลุ่มเมฆที่ความสูง 2,300 ฟุต แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่เครื่องเปลี่ยนทิศอย่างกะทันหันได้ โดยคาดว่ากว่าที่จะสามารถสืบสวนรายละเอียดต่างๆ จนลุล่วงทั้งหมด ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี
โฮเมนดี้เผยด้วยว่า เฮลิคอปเตอร์ของโคบี้ไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์ที่จะเตือนนักบินว่าเข้าใกล้เนินเขาเวลาทัศนวิสัยไม่ดี อีกทั้ง ฮ.ลำนี้ยังไม่มี “กล่องดำ” ซึ่งจะช่วยให้การสืบสวนง่ายขึ้นด้วย ทั้งที่อุปกรณ์ทั้ง 2 อย่างนี้อยู่ในข้อกำหนดของสำนักงานการบินของรัฐ แต่อย่างน้อยเจ้าหน้าที่ก็พบไอแพดเครื่องหนึ่งซึ่งได้แต่หวังว่าจะเป็นเครื่องที่นักบินใช้ระบุเส้นทางการบินรวมถึงรายละเอียดอื่นๆ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวน
ส่วนความคืบหน้าในการชันสูตรร่างของผู้เสียชีวิต ขณะนี้แพทย์ชันสูตรสามารถระบุอัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิตได้แล้ว 4 ราย ได้แก่ โคบี้, นักบิน อรา โซบายัน, จอห์น อัลโทเบลลี่ โค้ชเบสบอลระดับโรงเรียนชื่อดัง และซาราห์ เชสเตอร์ แม่ของเพื่อนร่วมทีมบาสเกตบอลของจิอันน่า โดยได้แจ้งกับครอบครัวแล้ว
