โกรส์ฌองเล่าวินาทีเฉียดตายในกองเพลิง เผยคิดถึงลูกทำให้ฮึดสู้หนีได้หวุดหวิด
โรแม็ง โกรส์ฌอง นักขับฟอร์มูล่าวันชาวฝรั่งเศสของทีมฮาส ให้สัมภาษณ์เปิดใจครั้งแรกหลังอุบัติเหตุระทึกขวัญในศึก “บาห์เรน กรังด์ปรีซ์” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งรถของเขาชนกับรถอีกคันก่อนหลุดโค้งกระแทกกำแพงข้างทางอย่างแรงจนถังน้ำมันรั่ว ไฟลุกท่วมรถ โกรส์ฌองติดอยู่ในกองเพลิงประมาณเกือบ 30 วินาที แต่โชคดียังมีสติหนีออกมาได้ทัน โดยมีแผลไฟไหม้ที่มือและข้อเท้า และยังรักษาตัวในโรพยาบาลในขณะนี้
โกรส์ฌองกล่าวว่า สิ่งที่อยากพูดตอนนี้คือ ดีใจที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ และมีมุมมองชีวิตที่เปลี่ยนไป หลังจากได้เห็นความตายอยู่ตรงหน้า การหนีออกมาในจังหวะนั้นเหมือนเป็นการเกิดใหม่เลยทีเดียว และคงเป็นหนึ่งในความทรงจำที่ไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต
โกรส์ฌองเล่าต่อว่า หลังจากได้รับการช่วยเหลือกลับไปพักที่พิต ก็ได้ทบทวนหลายสิ่งหลายอย่าง ไม่รู้ว่าจะเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่าปาฏิหาริย์ได้หรือไม่ หรืออาจจะบอกว่าตนยังดวงไม่ถึงฆาตก็ได้ ช่วงที่อยู่ในกองเพลิง รู้สึกว่าเวลายาวนานกว่า 28 วินาทีมาก มองไปทางไหนก็เห็นแต่สีส้ม เห็นไฟลุกบริเวณทางซ้ายของตัวรถ ตอนนั้นในหัวคิดอะไรหลายอย่าง ทั้งนิกี้ เลาด้า ตำนานนักขับชาวฝรั่งเศสผู้ล่วงลับ แต่คิดในใจว่าจะไม่ยอมจบด้วยการเสียชีวิตในอุบัติเหตุ ไม่อยากให้การปิดฉากเอฟวันของตัวเองเป็นอย่างนั้น นอกจากนี้ยังคิดเรื่องลูก บอกตัวเองว่าต้องหนไปให้ได้เพื่อกลับไปเจอลูก
โกรส์ฌองกล่าวในตอนท้ายว่า ตั้งใจว่าจะกลับไปแข่งขันให้ทันเอฟวันสนามสุดท้ายที่อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 13-15 ธันวาคมนี้ ให้ได้ เนื่องจากจะเป็นเรซสุดท้ายของตัวเอง จะได้เป็นการปิดฉากการแข่งเอฟวันที่ต่างจากเวลานี้
ทั้งนี้ โกรส์ฌองไม่ได้รับการต่อสัญญาขับให้ทีมฮาสต่อไปในปีหน้า ทำให้ปีนี้อาจเป็นปีสุดท้ายในการแข่งฟอร์มูล่าวันของเขาก็ได้
