ศาลสั่งแบนรัสเซียจากกีฬารายการใหญ่ 2 ปี ชวดทั้ง อลป. – ฟุตบอลโลก แถมห้ามปูตินเข้าชมการแข่งขัน

(Photo by Alberto PIZZOLI / AFP)

ศาลสั่งแบนรัสเซียจากกีฬารายการใหญ่ 2 ปี ชวดทั้ง อลป. – ฟุตบอลโลก แถมห้ามปูตินเข้าชมการแข่งขัน

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก (ซีเอเอส) ที่เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีคำตัดสินลดโทษแบนรัสเซียจากการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ จาก 4 ปี เหลือ 2 ปี จากกรณีละเมิดกฎการใช้สารต้องห้ามในนักกีฬาอย่างเป็นขบวนการ ซึ่งโดนเปิดโปงไปก่อนหน้านี้

โทษแบนดังกล่าวหมายความว่า รัสเซียจะไม่สามารถส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันในนามทีมชาติได้ในรายการระดับนานาชาติตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 16 ธันวาคม ปี 2022 ซึ่งจะทำให้รัสเซียพลาดโอกาสร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปีหน้า, โอลิมปิกเกมส์ฤดูหนาว 2022 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน รวมถึงฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ด้วย

อย่างไรก็ตาม รัสเซียยังมีสิทธิเข้าร่วมแข่งขัน “ยูโร 2020” ซึ่งเลื่อนไปแข่งในปีหน้า เนื่องจากสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ไม่อยู่ในเกณฑ์องค์กรจัดการแข่งขันกีฬารายการใหญ่ตามนิยามของกฎการควบคุมสารต้องห้าม

ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก (ซีเอเอส) (Photo by Fabrice COFFRINI / AFP)

ขณะที่นักกีฬาชาวรัสเซียยังมีสิทธิร่วมแข่งขันรายการต่างๆ ได้ภายใต้ธงเป็นกลาง ไม่ใช่ธงชาติของตัวเอง หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้สารต้องห้าม โดยศาลอนุญาตให้นักกีฬาสวมชุดแข่งขันที่มีสีพื้นฐานของธงชาติประกอบอยู่ในชุดได้ แต่จะต้องไม่สื่อถึงตัวธงชาติรัสเซียตรงๆ ส่วนจะเขียนคำว่ารัสเซียในภาษาใดๆ บนอุปกรณ์หรือชุดแข่งขันได้ แต่จะต้องไม่เด่นกว่าคำว่า “นักกีฬาเป็นกลาง” (neutral athlete) ในภาษาอังกฤษ

Advertisement

นอกจากนี้ ยังห้ามเชิญธงชาติรัสเซีย หรือร้องเพลงชาติรัสเซีย ตามสนามกีฬาต่างๆ ด้วย

ขณะที่สหพันธ์กรีฑานานาชาติแถลงว่า สหพันธ์จะตัดสินใจในเดือนมีนาคมปีหน้า ว่าจะให้นักกีฬารัสเซียที่พิสูจน์ตัวเองได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการโด๊ปยา เข้าร่วมแข่งขันรายการกรีฑาระดับนานาชาติได้หรือไม่ ขณะที่โอลิมปิกเกมส์นั้น อนุญาตให้ร่วมแข่งขันไม่เกิน 10 คน โดยใช้ธงเป็นกลาง

องค์การต่อต้านสารต้องห้ามโลก (วาด้า) (Photo by Eric THOMAS / AFP)

ทั้งนี้ รัสเซียโดนองค์การต่อต้านสารต้องห้ามโลก (วาด้า) ลงโทษแบนตั้งแต่ปี 2015 หลังผลสอบสวนของคณะทำงานอิสระพบว่า รัฐบาลมีส่วนรู้เห็นในการเอื้อให้นักกีฬาใช้สารต้องห้ามเพื่อหวังสร้างผลงานในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ฤดูหนาว ปี 2014 ที่เมืองโซชิ ประเทศรัสเซียเป็นเจ้าภาพ

Advertisement

ต่อมาในปี 2018 วาด้ากล่าวหารัสเซียว่า จงใจปกปิดข้อมูลหรือแจ้งข้อมูลเทศเกี่ยวกับผลห้องแล็บการตรวจหาสารต้องห้ามของนักกีฬา นำไปสู่การเปิดการสอบสวนในปีต่อมา และโดนลงโทษแบน 4 ปี จนรัสเซียยื่นอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลกในที่สุด

ภายหลังทราบผลการตัดสินของศาล สตานิสลาฟ พอซด์เนียคอฟ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย และมิฮาอิล บูคานอฟ ประธานองค์กรต่อต้านสารต้องห้ามรัสเซีย ได้ออกแถลงการณ์แสดงความพอใจที่ศาลไม่แบนนักกีฬารัสเซียรายบุคคลแบบเหมารวม และมองว่าเป็นชัยชนะของรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม พอซด์เนียคอฟ แสดงความไม่พอใจที่ศาลสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย เข้าไปชมการแข่งขันรายการต่างๆ โดยเฉพาะโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ด้วย โดยระบุว่ามีเบื้องหลังทางการเมืองมากกว่าเรื่องกีฬา

วลาดิเมียร์ ปูติน (Photo by Mikhail Klimentyev / SPUTNIK / AFP)
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image