ฉลามหนุ่มแชมป์โลก ซุ่น หยาง มีลุ้นล่าทอง อลป. หลังศาลสูงสวิสยกโทษแบน 8 ปี – วาด้าลั่นเดินหน้าเอาผิดต่อ

(Photo by Oli SCARFF / AFP)

ฉลามหนุ่มแชมป์โลก ซุ่น หยาง มีลุ้นล่าทอง อลป. หลังศาลสูงสวิสยกโทษแบน 8 ปี – วาด้าลั่นเดินหน้าเอาผิดต่อ

ซุ่น หยาง นักว่ายน้ำชื่อดังดีกรีแชมป์โลกและแชมป์โอลิมปิกของจีน ประสบความสำเร็จในการยื่นอุทธรณ์โทษแบนกรณีโด๊ปยา โดยเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ศาลฎีกาซึ่งเป็นศาลสูงสุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีคำตัดสินให้ยกโทษแบน 8 ปี ฉลามหนุ่มวัย 29 ปี ซึ่งเดิมศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก (ซีเอเอส) เห็นชอบตามบทลงโทษขององค์การต่อต้านสารต้องห้ามโลก (วาด้า)

เรื่องราวของซุ่น หยาง เป็นมหากาพย์ยาวนานหลายปี ตั้งแต่เคยโดนแบน 3 เดือน เมื่อปี 2014 จากการใช้สารต้องห้าม ไตรเมตาซิดีน ต่อมาในเดือนกันยายนปี 2018 เจ้าของ 3 เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ พลาดการตรวจสารต้องห้ามนอกมหกรรม ซึ่งเป็นการทำผิดซ้ำสอง จึงโดนวาด้าลงโทษแบน 8 ปี

ต่อมาในเดือนมกราคมปี 2019 สหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (ฟีน่า) มีคำตัดสินให้ซุ่น หยาง พ้นผิด แต่วาด้าก็อุทธรณ์ต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก ในปีเดียวกัน ซึ่งซุนชี้แจงว่า เหตุผลที่ไม่ได้รับการตรวจในครั้งนั้นเนื่องจากเจ้าหน้าที่วาด้าซึ่งไปหาที่บ้าน ไม่สามารถพิสูจน์ตัวตนได้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงๆ และปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าเขาจงใจทำลายขวดเก็บตัวอย่างเลือดของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ซีเอเอสเห็นด้วยตามคำร้องของวาด้า จึงตัดสินให้โทษแบน 8 ปีมีผลอีกครั้ง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

(Photo by jean-guy PYTHON / AFP)

สุดท้าย ซุ่น หยาง จึงต้องอุทธณ์ต่อศาลฎีกาสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งตามกฎหมายของสวิสนั้น คำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการใดๆ ภายในประเทศ จะสามารถยื่นอุทธรณ์ให้ศาลฎีกาพิจารณาได้ โดยทนายของซุ่น หยาง สู้คดีว่า ฟรังโก้ ฟราตตินี่ ประธานคณะอนุญาโตตุลาการของซีเอเอสที่พิจารณาคดีนี้ เคยมีประวัติทวีตข้อความเชิงต่อต้านประเทศจีน จึงขาดความเป็นกลาง และศาลฎีกาเห็นด้วยกับคำร้องดังกล่าว จึงสั่งให้ซีเอเอสกลับไปพิจารณาคดีของซุ่น หยาง อีกครั้ง โดยปรับโครงสร้างคณะอนุญาโตตุลาการใหม่ก่อน

Advertisement

เมื่อศาลสูงสุดของสวิสมีคำตัดสินดังกล่าว ทำให้ซุ่น หยาง สามารถกลับมาฝึกซ้อมและแข่งขันได้ตามปกติ และมีสิทธิได้ลุ้นติดทีมชาติจีนลงแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปีหน้า

ขณะที่วาด้าแถลงว่า วาด้าจะยื่นข้อมูลหลักฐานกรณีโด๊ปยาของซุ่น หยาง ใหม่ให้ซีเอเอสตัดสิน ซึ่งซีเอเอสจะต้องเปลี่ยนประธานคณะผู้พิพากษาชุดใหม่เพื่อฟังการไต่สวนอีกครั้ง แต่เชื่อว่าจะไม่มีผลใดๆ เพราะข้อมูลหลักฐานยังคงเดิม

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image