อัลคาราซเผยไม่เคยหมดหวัง เซฟ 3 แมตช์พอยต์ แซงคว้าแชมป์เฟร้นช์สุดมัน
ศึกเทนนิสแกรนด์สแลม “เฟร้นช์ โอเพ่น” รอบชิงชนะเลิศประเภทชายเดี่ยว ที่โรล็องด์การ์โรส กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน กลายเป็นการดวลกันแบบสุดคลาสสิกระหว่างมือ 1 และ 2 ของโลก ยานนิก ซินเนอร์ จากอิตาลี และคาร์ลอส อัลคาราซ จากสเปน ก่อนที่สุดท้าย อัลคาราซ แชมป์เก่า จะพลิกสถานการณ์จากที่ตกเป็นฝ่ายตาม 0-2 เซต กลับมาชนะ 3-2 เซต 4-6, 6-7(4), 6-4, 7-6(3), 7-6(10-2) ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ โดยเอาตัวรอดจาก 3 แชมเปี้ยนชิพพอยต์ ใช้เวลาแข่งขัน 5 ชั่วโมง 29 นาที เป็นสถิติรอบชิงที่นานที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันเฟร้นช์ โอเพ่น
นับเป็นแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 5 ของอัลคาราซ และเป็นแชมป์เฟร้นช์ โอเพ่น สมัย 2 โดยก่อนหน้านี้ก็ได้แชมป์ “วิมเบิลดัน” ปี 2023 และ 2024 รวมถึงแชมป์ “ยูเอส โอเพ่น” ปี 2022
นอกจากนี้ อัลคาราซยังนับเป็นนักหวดชายคนแรกที่เอาตัวรอดจากการโดนแมตช์พอยต์กลับมาคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ นับตั้งแต่โนวัก โยโควิช เอาชนะโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ในรอบชิงวิมเบิลดันเมื่อปี 2019
ด้านซินเนอร์ดีกรีแชมป์แกรนด์สแลม 2 สมัย ยังไม่ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์รายการนี้
ภายหลังการแข่งขัน อัลคาราซกล่าวว่า แมตช์นี้ยังไม่จบจนกว่าเขาจะเก็บแต้มสุดท้ายได้ อาจจะเป็นแต้มเดียวที่หวุดหวิดจะกลายเป็นความพ่ายแพ้ แต่หลายครั้งก็เคยมีนักเทนนิสที่เอาตัวรอดจากแมตช์พอยต์ในรอบชิงแกรนด์สแลมหรือในแมตช์อื่นๆ มาได้ ตนจึงอยากจะเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่เซฟแมตช์พอยต์ในรอบชิงแกรนด์สแลมแล้วกลับมาคว้าแชมป์ได้
อัลคาราซกล่าวต่อว่า ตลอดแมตช์นี้ ไม่เคยสูญเสียความเชื่อมั่น ไม่เคยสงสัยตัวเอง แม้ในตอนที่เจอกับแมตช์พอยต์หลายครั้ง พยายามคิดไปทีละแต้ม พยายามเก็บทีละแต้ม เอาตัวรอดจากแต่ละเกม และยังคงเชื่อมั่นต่อไป มีหลายจังหวะในแมตช์นี้ที่รู้สึกว่าระดับการเล่นของเราทั้งคู่เหลือเชื่อมากๆ ยิ่งฝ่ายตรงข้ามเป็นซินเนอร์ บางครั้งระหว่างแข่งก็คิดในใจว่า จะทำยังไงดี เพราะเขาเคลื่อนที่ได้อย่างเหลือเชื่อ หวดลูกเจ๋งๆ ได้สุดยอด มีบางจังหวะที่เขาไม่พลาดเลย เป็นระดับเกมที่สูงมากๆ
