เชลซีชนะรวด 3 นัดเก็บ 9 คะแนนเต็มเท่ากับลิเวอร์พูลและวัตฟอร์ด ถือว่าสตาร์ตแรงกว่าที่คาดไว้พอสมควร
สิงห์น้ำเงินต้องปรับตัวรับกุนซือใหม่ เมาริซิโอ ซาร์รี่ นักเตะหลักก็ได้ใหม่มาเพิ่ม 3 คน แถมยังโดนรื้อแท็คติกเลิกเล่นหลัง 3 ตัว มาใช้แบบเบสิค 4 คน ดูแล้วทีมน่าจะต้องการเวลาจูนให้เข้ากันสักระยะ
แต่ล่าสุดที่บุกชนะนิวคาสเซิล 2-1 เชลซีเข้าที่เข้าทางดีทีเดียว กลายเป็น 1 ใน 3 ทีมลุ้นแชมป์ไปเรียบร้อย
สิงห์อาจจะเป็นรองลิเวอร์พูลกับแมนฯซิตี้ เรื่องความเร็ว แต่ก็มีทีเด็ดด้านการครองบอล แผงมิดฟิลด์ เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิช คือแดนกลางระดับดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก ยิ่งถ้า เอเด็น อาซาร์ ขยันเล่นสม่ำเสมอ เกมจะยิ่งชัวร์และต่อเนื่องมาก
นัดชนะนิวคาสเซิล สิงห์น้ำเงินครองบอลถึง 81% ส่วนหนึ่งคือเจ้าบ้านเล่นอุดด้วย แต่ภาพรวมต้องยอมรับอยู่ดีว่า กองกลางรวมทั้งความแน่นอนสู้กันไม่ได้เลย
เชลซี ยิ่งเล่นยิ่งเข้าตา เหลือแค่รอพิสูจน์กองหลังอีกหน่อยว่าไว้ใจได้จริงหรือเปล่า
เกมรับสิงห์เสียประตูง่ายไปในนัดก่อนที่ชนะอาร์เซน่อล คู่เซนเตอร์ ดาวิด ลุยซ์ – อันโตนิโอ รูดิเกอร์ เก๋าจริงแต่ค่อนข้างช้า
ส่วนกองหน้า อัลบาโร่ โมราต้า ก็ต้องขยันเล่นขยันยิง มีส่วนร่วมกับเกมมากกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยให้อาซาร์กับเปโดร วิ่งขาลากกันอยู่ 2 คน
มาตรฐานเชลซีเท่าที่เห็น น่าจะจองพื้นที่ในท็อปโฟร์ได้ไม่ยาก
แต่หากจะบี้กับหงส์แดงและเรือใบสีฟ้า แย่งแชมป์ไปยาวๆ มันต้องครบ ต้องเนี้ยบทุกจุด
ไม่แน่ แค่เล่นกัน 3 นัดยังโตเร็วขนาดนี้ ย่างเข้าปีใหม่เมื่อไหร่ เชลซีอาจจะปรับทีมจนเก่งเว่อร์ก็มีสิทธิเป็นไปได้
รอดูกันต่อไปครับ
