ในขณะที่วันที่ 11 พฤศจิกายน เป็นวันคนโสด แต่ “แหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น นักชกแชมป์โลกรุ่นซุปเปอร์ฟลายเวต 115 ปอนด์ สภามวยโลก(ดับเบิลยูบีซี) สวยกนะแสด้วยการจูงมือ “น้องจ๊ะจ๋า” พรพิมล สารแก้ว แฟนสาวลั่นระฆังวิวาห์ ที่ จ.ชุมพร บ้านเกิดของฝ่ายเจ้าสาว
ท่ามกลางสักขีพยานคนสำคัญอย่าง พ่อเจียมศักดิ์ – แม่หนูรัตน์ วังเหตุ พ่อแม่ของฝ่ายแชมป์โลก และ พ่อดาบุด – แม่บุญยืน สารแก้ว พ่อแม่ของจ๊ะจ๋า ในช่วงเช้า ในบรรยากาศสายฝนโปรยปรายชุ่มฉ่ำใจ ส่วนงานฉลองมงคลสมรสในช่วงเย็น ที่ ศาลาอเนกประสงค์ อ.หลังสวน จ.ชุมพร มีแขกเหรื่อมาร่วมงานกว่าครึ่งหมื่น
สินสอดทองหมั้นในครั้งนี้ แชมป์โลกคนดังแย้มมาว่า เป็นเงินสด 2 ล้านบาท และทองคำหนัก 20 บาท แต่ก็คงเทียบไม่ได้กับความรักและกำลังใจที่จ๊ะจ๋ามีให้กับศรีสะเกษมาตลอดในช่วงหลัง เพราะชีวิตของนักชกแชมป์โลกชาวไทยอาจจะประสบความสำเร็จในสังเวียนมวย
แต่ไม่แฮปปี้นักในสังเวียนรัก เนื่องจากเลิกรากับ “เก๋” พัชรีวรรณ กัณหา แฟนสาวคนก่อน ที่คบหากันมาถึง 14 ปี จนทำให้ชีวิตช่วงนั้นแกว่งไปพอสมควร
เจ้าแหลมเล่าถึงนาทีแรกที่ได้พบกับจ๊ะจ๋า คู่ชีวิต ว่า หลังจากเลิกรากับรักครั้งก่อนไป 2 เดือน ก็ได้มาเจอกับจ๊ะจ๋าที่ร้านข้าวต้มโต้รุ่ง ใกล้กับค่ายนครหลวงโปรโมชั่นที่ตัวเองซ้อมอยู่ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่จิตใจห่อเหี่ยว เพราะเพิ่งเลิกรากับแฟนเก่า ไม่มีใจจะฝึกซ้อม แต่พอมาเจอกับจ๊ะจ๋าก็ทำให้รู้สึกดีขึ้น เพราะได้กำลังใจที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง จนพัฒนาความสัมพันธ์กันอย่างรวดเร็ว จากเพื่อนจนกลายเป็นคนรู้ใจ
“ช่วงที่จีบนั้น ผมโทรหาจ๊ะจ๋าหลังเลิกซ้อมทุกวัน เพื่อให้น้องใจอ่อนยอมคบด้วย แล้วก็ทำสำเร็จ ยอมรับว่าถูกชะตาตั้งแต่เจอกันครั้งแรก เป็นที่พึ่งทางใจมาตลอดในช่วงที่คุยกัน หลังจากนั้นก็ได้เกริ่นกับพ่อแม่ผมว่าจะไปสู่ขอและหมั้น แต่ก็ไปคนเดียวไม่ได้มีพ่อแม่ของผมไปด้วย เพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต อยากจัดพิธีง่ายๆ เป็นกันเองมากกว่า”
“ขนาดว่าเสี่ยฮุย (สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์)ผู้จัดการผมยังไม่บอก ไม่ได้ตั้งใจจะปิดอะไร เพราะตั้งใจจะแถลงข่าวที่ค่ายหลังจากหมั้นเสร็จอยู่แล้ว แต่หลังจากหมั้นเสร็จก็ได้โทรไปบอกพ่อกับแม่ว่าหมั้นกับจ๊ะจ๋าแล้ว ท่านก็ตกใจนิดหน่อย แต่คิดว่าเราโตแล้ว คงคิดมาดีแล้ว” เจ้าแหลมกล่าว
ส่วนวันแต่งงานนั้น แชมป์โลกชาวไทยบอกว่า รู้สึกดีใจที่มีวันนี้ และจะดูแลน้องจ๊ะจ๋าให้ดีที่สุด หลังเสร็จสิ้นงานแต่งงานแล้ว จะกลับมาฝึกซ้อม เพื่อทำหน้าที่ในการเป็นนักมวยต่อไป
จ๊ะจ๋ากล่าว่า จะทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด และจะเป็นกำลังใจให้พี่แหลมในการฝึกซ้อมเพื่อป้องกันตำแหน่งในการขึ้นชกครั้งต่อๆ ไป
อนาคตหลังการแต่งงาน เจ้าแหลมเคยบอกเอาไว้ว่า แฟนสาวก็จะทำสวนทุเรียนอยู่ใน อ.หลังสวน และไปๆ มาๆ กรุงเทพมหานคร มาใช้ชีวิตร่วมกัน ส่วนตนก็ยังจะต้องชกมวยป้องกันแชมป์โลกต่อไป และเมื่อถึงเวลาต้องแขวนนวมก็จะกลับไปทำสวนทุเรียนที่ อ.หลังสวน ซึ่งพ่อตาให้ที่ไว้กว่า 60 ไร่เลยทีเดียว ส่วนเรื่องทายาทนั้น ก็อยากจะรีบปั๊มเลย
ขณะที่ “เสี่ยฮุย” สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ โปรโมเตอร์และผู้จัดการของเจ้าแหลมกล่าวว่า ช่วงที่เลิกกับแฟนเก่า เห็นได้ชัดว่าศรีสะเกษจิตใจไม่ค่อยมั่นคง ไม่มีความกับการซ้อมเท่าที่ควร การตัดสินใจแต่งงานในครั้งนี้ ทำให้ตัวนักชกเองมีความสุข ก็เป็นเรื่องที่ดีทั้งกับสภาพจิตใจและฟอร์มการชกในอนาคต
เชื่อว่าเป็นการตัดสินใจที่รอบคอบแล้ว ข้อดีอีกอย่างเมื่อมีครอบครัวแล้ว ก็เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เก็บเงินเก็บทองเพื่อสร้างให้ครอบครัวมีความมั่นคง อย่างไรก็ตามการป้องกันเข็มขัดแชมป์โลกของศรีสะเกษให้อยู่ในประเทศไทยให้นานที่สุดก็ยังเป็นภารกิจสำคัญหลังจากเสร็จสิ้นงานมงคลครั้งนี้
ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่นแสดงให้เห็นแล้วว่า ทุกเรื่องในชีวิตถ้าตั้งใจจะชนะให้ได้ ก็ไม่มีอะไรยากเกินความพยายาม สังเวียนมวยก็ป้องกันแชมป์มาแล้ว 2 ครั้ง ส่วนสังเวียนรักก็น็อกหัวใจสาวจ๊ะจ๋ามาได้ ด้วยความจริงใจและสม่ำเสมอ
ขอให้ลักกี้อินเลิฟและลักกี้อินเกมตลอดไป มีทายาทไวๆ และป้องกันแชมป์โลกได้อีกหลายๆ สมัยนะขอรับ
