ทำการบ้านก่อนเปิดฤดูกาล กอล์ฟ ‘แอลพีจีเอทัวร์2019’

 

การแข่งขันกอล์ฟ แอลพีจีเอทัวร์ ฤดูกาล 2019 กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้งในไมกี่สัปดาห์ข้างหน้า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะเงินรางวัลที่จะมีให้โปรสาวมือดีจากทั่วโลกชิงชัยกันมากขึ้น จากเดิมเงินรางวัลรวม 33 รายการ อยู่ที่ 65.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2,156 ล้านบาท) ปีหน้าเพิ่มขึ้นมาเป็น 70.55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2,328 ล้านบาท)

ขณะที่โปรแกรมการแข่งขัน จากปกติที่จะเปิดฤดูกาลที่บาฮามาส รายการ เพียว ซิลก์-บาฮามาส แอลพีจีเอ คลาสสิก มาหลายปี แต่ปีนี้ได้ยุติการแข่งขันไปแล้ว ซึ่งจะประเดิมที่รายการ ไดมอนด์ รีสอร์ตส ทัวร์นาเมนต์ ออฟ แชมเปี้ยน ที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 17-20 มกราคม ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ทัวร์นาเมนต์ใหม่ของแอลพีจีเอทัวร์ ต่อด้วยการแข่งขัน 2 รายการซ้อนที่ประเทศออสเตรเลีย คือ ไอเอสพีเอส ฮันดะ วิค โอเพ่น ระหว่างวันที่ 7-10 กุมภาพันธ์ รายการนี้ก็เป็นรายการที่บรรจุมาใหม่เช่นกัน มีการโคแซงชั่นกับยูโรเปี้ยนทัวร์ ทำให้จะได้เห็นนักกอล์ฟชาย-หญิงลงแข่งในสนามเดียวกันครั้งแรกในออสเตรเลีย แต่ไม่ได้แข่งด้วยกันเป็นเพียงการใช้สนามร่วมกันเท่านั้น และรายการ ไอเอสพีเอส ฮันดะวีเมนส์ ออสเตรเลียน โอเพ่น ระหว่างวันที่ 14-17 กุมภาพันธ์ หลังจากนั้นจึงเข้ามาที่ประเทศไทย ในรายการ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2019 ระหว่างวันที่ 21-24 กุมภาพันธ์

Advertisement

อีก 2 รายการที่เพิ่มเข้ามานั้น คือ โดว์ เกรท เลกส์ เบย์ อินวิเตชั่นแนล ที่ไมอามี สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 17-20 กรกฎาคม และ บีเอ็มดับเบิลยู เลดี้ส์ แชมเปี้ยนชิพ ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 24-27 ตุลาคม

โปรแกรมรายการเมเจอร์ก็มีเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยเฉพาะศึก เอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศฝรั่งเศส ปีที่ผ่านมาโดนพายุฝนเล่นงานจนต้องลดหลุมเล่น ฝ่ายจัดการแข่งขันจึงเปลี่ยนแปลงโปรแกรมจากเดิมที่แข่งขันในเดือนสิงหาคม ปี 2019 ขยับมาเร็วขึ้นเป็นสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคมแทน ส่วนเมเจอร์ วีเมนส์ บริติช โอเพ่น ปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงสปอนเซอร์หลักจาก Ricoh เป็น AIG แทน ซึ่งยังไม่มีการยืนยันว่าจะมีการเพิ่มเงินรางวัลหรือไม่

มาที่รายการสุดท้ายของปีอย่าง ซีเอ็มอี กรุ๊ปทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ นั้น จะมีการเพิ่มเงินรางวัลจากเดิมรวม 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 80 ล้านบาท และแชมป์ของเรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ จะได้รับ 1 ล้านดอลลาร์ (33 ล้านบาท) จะกระโดดไปเป็นรางวัลรวม 5 ล้านดอลลาร์ (165 ล้านบาท) พร้อมเปลี่ยนแปลงกติกาการลุ้นโบนัสก้อนโตใหม่ จากเดิมที่คัดนักกอล์ฟที่ทำคะแนนสะสมดีที่สุด 80 คน เข้าไปแข่งขันรายการสุดท้าย แต่ผู้ที่มีโอกาสจริงๆ ตามการคำนวณคะแนนนั้นมีแค่เพียง 12 คน แต่กติกาใหม่ที่จะเริ่มใช้ปีหน้า จะคัดนักกอล์ฟที่มีคะแนนสะสมดีที่สุด 60 คนไปแข่ง ซีเอ็มอี กรุ๊ปทัวร์ แชมเปี้ยนชิพพร้อมล้างคะแนนทั้งหมด นักกอล์ฟคนใดได้แชมป์รายการนี้ จะคว้าเงินรางวัล 1.5 ล้านดอลลาร์ (48 ล้านบาท) ไปครองทันที

Advertisement

นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มรางวัลอาออน ริสก์ อวอร์ด ชาลเลนจ์ ที่จะมอบเงินรางวัล 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับนักกอล์ฟทั้งในพีจีเอทัวร์ และแอลพีจีเอทัวร์ ที่มีสถิติในการเล่นหลุมยากได้ดีที่สุดในตลอดฤดูกาล ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะมีการนับสถิติเพื่อมอบรางวัล

ขณะที่โปรสาวที่น่าจับตามองในปีหน้านั้น ก็คงหนีไม่พ้นมือดีหน้าเก่าอย่าง “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล มือ 1 ของโลกคนปัจจุบัน ที่กวาดรางวัลมากมายในซีซั่นที่ผ่านมา, “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล ที่ฟอร์มดีสม่ำเสมอมาตลอด และโปรดังจากทางฝั่งเกาหลีใต้ ปาร์ก ซุง ฮยุน, โค จิน ยอง, รยู โซ ยอน หรือนักกอล์ฟอเมริกัน เล็กซี่ ธอมป์สัน, เจสซิก้า คอร์ด้า และโปรจากหลายชาติ มินจี ลี จากออสเตรเลีย, ลิเดีย โค จากนิวซีแลนด์, นาสะฮาตาโอกะ จากญี่ปุ่น และ บรู๊ก เฮนเดอร์สัน จากแคนาดา

อย่างไรก็ตาม ได้มีการออกอัตราตัวเต็งที่จะจบฤดูกาลหน้าด้วยการเป็นนักกอล์ฟทำเงินสูงสุดออกมาแล้ว โปรเมก็ยังคงเป็นเต็ง 1 ตามมาด้วยมินจี ลี เป็นอันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 เล็กซี่ ธอมป์สัน, อันดับ 4 ปาร์ก ซุง ฮยุน และอันดับ 5 บรู๊ก เฮนเดอร์สัน

เหตุผลที่ยกให้โปรเมเป็นเต็งหนึ่ง ไม่ใช่แค่ว่าเธอเล่นได้อย่างสุดยอดในปี 2018 เท่านั้นแต่ตลอด 3 ปีหลัง สามารถโชว์ศักยภาพออกมาได้ดี ถึงแม้จะแกว่งไปช่วงหนึ่ง แต่สามารถกลับมายิ่งใหญ่ได้ และจากประสบการณ์ทั้งหมด คงยากที่จะกลับไปฟอร์มตกต่อเนื่องเหมือนที่เคยผ่านมา

นอกจากโปรโมและโปรเมแล้ว ปี 2019 ยังมีโปรไทยอีกหลายคนที่จะลงล่าแชมป์ในแอลพีจีเอทัวร์ เหมือนเดิม หนึ่งในนั้นคือน้องใหม่อย่าง “โปรเมียว” ปาจรีย์ อนันต์นฤการที่ได้สิทธิลงแข่งขันเป็นปีแรก รวมทั้งโปรอีก 12 คน ได้แก่ “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ, “โปรจูเนียร์” ธิฎาภา สุวัณณะปุระ, “โปรสายป่าน” ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์, “โปรแจน” วิชาณี มีชัย, “โปรแชมเปญ” เฌอมาลย์ สันติวิวัฒนพงศ์, “โปรกิฟท์” เบญญาภา นิภัทร์โสภณ, “โปรปลาย” พัชรจุฑา คงกระพันธ์, “โปรปริญญ์” ปวริศา ยกทวน ซึ่งบางคนได้ลงเล่นในบางรายการของแอลพีจีเอทัวร์และยังต้องฝ่าฟันในซีเมทร่าทัวร์อยู่

ความสนุกตื่นเต้นกำลังจะกลับมาให้ได้ติดตามกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เตรียมตัวกันไว้ให้พร้อม

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image