คอลัมน์ เกรียนเขียนบอล : ตบหน้า(ให้ตื่น)

จัดได้ว่าเป็นเกมพรีเมียร์ลีกนัดกลางสัปดาห์ที่มีผลพลิกล็อก แล้วก็ช็อคแฟนบอลไปได้หลายคู่เหมือนกัน เริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล เอาชนะ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ คล้ายๆ กับเป็นการยื่นถ้วยแชมป์ให้กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แต่กลับปัดทิ้งด้วยการทำได้แค่เสมอ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้น

หรือจะเป็น “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ของเมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่บุกไปโดน บอร์นมัธ ถล่มยับเยินถึง 4-0 หลุดไปอยู่อันดับ 5 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มาว่ากันด้วยเรื่องของสถานการณ์ลุ้นแชมป์ เชื่อว่าหลังจบวันอังคาร สาวกเดอะค็อป น่าจะเฮฮารื่นเริงจากผลที่เซนต์ เจมส์พาร์ค เริ่มวาดฝันกันไป แต่สุดท้ายความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน เพราะจิ้งจอกสยามเองก็บุกมาในแบบที่ว่า “ข้าไม่ใช่หมูนะเว้ย” (ก็เป็นสุนัขจิ้งจอกนี่หว่า)

ในเกมนั้นอาจจะต้องบอกว่าด้วยสภาพหลายอย่างไม่เอื้ออำนวยเจ้าบ้านเลย ทั้งหิมะที่ตกลงมาทั้งเกม สภาพสนามมีแต่หิมะเกาะ ทำให้เคลื่อนบอลได้ยากลำบาก อีกทั้งเลสเตอร์เองก็มาดีมากๆ ทำให้งานช้างไปอีก

Advertisement

แถมยังเป็นวันที่อะไรหลายๆ อย่างไม่ค่อยเป็นใจ โดยเฉพาะกรรมการที่แฟนหงส์เห็นชื่อแล้วร้องยี้อย่าง มาร์ติน แอตกินสัน ที่ตัดสินขัดหูขัดตา ทั้งจังหวะที่แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ผู้ทำประตูตีเสมอ ควรโดนไล่ออกตั้งแต่เป็นกองหลังตัวสุดท้ายแล้วสกัด ซาดิโอ มาเน่ แต่โดนแค่เหลือง หรือจังหวะที่นาบี เกอิต้า โดนเตะล้มในเขตโทษเต็มๆ แต่ลิเวอร์พูลไม่ได้จุดโทษ

นี่ยังไม่รวมจังหวะที่มาเน่โดนตัดฟาล์ว แต่ลิเวอร์พูลครองบอลได้เปรียบอยู่ กำลังจะจ่ายทะลุช่องอยู่แล้ว ดันเป่าฟาล์วเฉย เอาเป็นว่านัดที่เหลืออย่าเอามาตัดสินอีกนะ

แต่ถามว่าผลเสมอนัดนี้เสียหายหรือไม่ ก็คงบอกว่าไม่หนักมากเท่าไหร่ เพราะว่ามันแค่การพลาดโอกาสขยับจาก 4 เป็น 7 แต่ถ้ามองในแง่ดีแล้ว ก่อนแข่งห่างอยู่ 4 จบเกมห่างเพิ่มมาเป็น 5 ก็ยังถือว่าเพิ่มช่องว่างออกมาได้ เพราะถามว่าก่อนแข่งใครจะคิดว่าช่องว่างมันจะเพิ่มคงไม่มีหรอก

Advertisement

อีกทั้งอยากให้ลองนึกกลับกันดู เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา จังหวะที่ลิเวอร์พูลแซงมาเป็นจ่าฝูงได้ ช่วงนั้นซิตี้สะดุดพลาดแพ้ 2 เกมรวดต่อ คริสตัล พาเลซ และเลสเตอร์ แต่ลิเวอร์พูลเก็บได้ถึง 4 คะแนน จากโปรแกรมคล้ายๆ กัน นี่คือแง่ดีที่อยากให้มองเอาไว้

ก็แค่การเสมอครั้งนี้เป็นการตบหน้า เรียกสติตัวเองกลับมา ว่าทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดหรอก เพราะทุกทีมในพรีเมียร์ลีก ไม่มีให้เอาชนะได้ง่ายๆ อยู่แล้ว ดังนั้นกลับมาโฟกัสกันไปทีละเกมดีกว่า

สุดสัปดาห์นี้ ซิตี้เล่นก่อน จะต้องเจอกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ขณะที่ลิเวอร์พูลจะบุกไปเยือนเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในวันจันทร์นู่นเลย

ก็ไม่แน่ว่าช่องว่างของคะแนน อาจจะเปลี่ยนอีกครั้งก็ได้

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image