สกู๊ปพิเศษ : นับถอยหลังศึก “แดงเดือด” – ‘สโคลส์’ นำเหล่ากูรูดังฟันธงเกมนี้สนุกแน่

คืนวันอาทิตย์นี้ได้เวลาของเกมพรีเมียร์ลีกแมตช์สำคัญอย่าง แดงเดือด ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ซึ่งเป็นเกมแดงเดือดนัดที่ 202 ในประวัติศาสตร์ของการเจอกัน

เกมนี้ยังมีความสำคัญมากๆ สำหรับทั้ง 2 ทีม โดยฝ่ายหงส์แดงถ้าชนะหรือเสมอ จะทวงบัลลังก์จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกคืนมาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เนื่องจากปัจจุบันทั้ง 2 ทีมมีแต้มเท่ากัน ผลต่างประตูได้-เสียของเรือใบสีฟ้าดีกว่า แต่หงส์ก็ได้เปรียบตรงเตะน้อยกว่า 1 นัด ถ้าเก็บชัยได้จะชิงความได้เปรียบกลับมาเพื่อมุ่งสู่เส้นทางการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกหนแรก และแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกในรอบ 29 ปีต่อไป

ฝั่งปีศาจแดง ถ้าชนะได้ นอกจากจะเป็นการสกัดเส้นทางสู่แชมป์ของคู่ปรับตลอดกาลแล้ว ยังเป็นผลดีต่อการลุ้นติดอันดับท็อปโฟร์ของตารางเพื่อโควต้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า หลังจากไต่ขึ้นมาจนถึงอันดับ 4 ได้สำเร็จอีกด้วย

Advertisement

ก่อนหน้า 2 ทีมจะโคจรมาพบกัน สื่อและบรรดาแข้งดังหลายคนต่างช่วยโหมโรงให้แฟนบอลสนใจอยากติดตามแมตช์นี้มากขึ้น โดยเว็บ สปอร์ต ไบเบิล เปิดโหวตทางทวิตเตอร์ว่าแมตช์ระหว่างคู่ปรับคู่ไหนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการลูกหนังสหราชอาณาจักร ปรากฏว่าเกมแดงเดือดได้คะแนนเสียงไปถึง 47 เปอร์เซ็นต์ของผู้ร่วมโหวต 41,1266 ราย มากเป็นอันดับ 1

ขณะที่ พอล สโคลส์ ตำนานกองกลางของแมนฯยูบอกว่า ถึงช่วงหลังแมนฯซิตี้จะพัฒนาทีมขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากๆ และทำได้ดีกว่าทั้ง 2 ทีมในช่วงหลัง แต่ยังไงเกมแดงเดือดก็ยังเป็นแมตช์สำคัญของวงการ มีความเป็นคู่ปรับกันสูงมาก โดยเฉพาะตอนนี้ที่ลิเวอร์พูลพยายามจะไล่ตามสถิติแชมป์ลีกสูงสุดของแมนฯยูให้ได้

สำหรับสถานการณ์ก่อนแมตช์นี้ ถ้านับเฉพาะผลงานในพรีเมียร์ลีก 5 แมตช์หลัง ลิเวอร์พูลชนะ 3 เสมอ 2 ส่วนแมนฯยูชนะ 4 เสมอ 1 ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกัน แต่กรณีของหงส์แดงนั้น การเสมอกับ เวสต์แฮม และ เลสเตอร์ ซิตี้ เรียกว่าค่อนข้างน่าผิดหวัง เพราะด้วยชื่อชั้นและผลงานช่วงหลังๆ น่าจะเป็นแมตช์ที่หงส์เก็บ 3 แต้มได้มากกว่า

Advertisement

ขณะที่แมนฯยูหลังพ่ายให้ ปารีส แซงต์แชร์แมง คาบ้านแบบหมดทางสู้ ก็แก้ตัวด้วยการคว้าชัยเหนือ เชลซี ในศึกเอฟเอคัพ รอบห้า เมื่อไม่กี่วันก่อน

ช่วงเคาต์ดาวน์สู่เกมสำคัญ สกาย สปอร์ตส์ ได้ถามความเห็นของบรรดากูรูลูกหนังว่า คาดการณ์อย่างไรกับแมตช์นี้บ้าง? ลองไปดูกัน

ฟิล ธอมป์สัน – คิดว่าเกมนี้ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายไหนจะเล่นเกมรับได้เหนียวแน่นกว่ากัน เพราะแนวรุกของทั้ง 2 ทีม ตอนที่เครื่องติดถือว่าทำได้ดีทั้งคู่ แม้แมนฯยูจะมีปัญหาผู้เล่นแนวรุกเจ็บหลายคนก็ตาม ส่วนภาพรวมของเกมที่จะออกมา น่าจะสนุกกว่าช่วงหลังๆ เพราะตอน โชเซ่ มูรินโญ่ ยังคุมผี เน้นสไตล์ “จอดรถบัส” จนแฟนบอลไม่แฮปปี้ ดังนั้นคราวนี้แมนฯยูคงกลับมาใช้แผนเปิดหน้าแลกแน่ ซึ่งก็จะเข้าทางหงส์เพราะจะมีพื้นที่เล่นบอลมากขึ้นกว่าตอนเจอแผนของมูรินโญ่

พอล เมอร์สันเวอร์กิล ฟาน ไดค์ กองหลังลิเวอร์พูลจะเป็นกุญแจสำคัญเช่นเดียวกับแนวรุกทั้งสาม ช่วงหลังๆ แนวรุกหงส์ดูเกร็งๆ หน้าประตูเมื่อเทียบกับช่วงต้นฤดูกาล ถ้า ลุก ชอว์ จับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จนเล่นไม่ออกก็น่าจะช่วยทีมได้มาก เพราะช่วงหลัง โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ มีปัญหายิงไม่ค่อยได้ ส่วน ซาดิโอ มาเน่ ก็ดูขาดความมั่นใจอย่างบอกไม่ถูก ส่วนปีศาจแดงตอนนี้ปรับเกมมาเน้นบุกแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของฟาน ไดค์ ที่จะต้องหยุดผีให้ได้

แมตต์ เล ทิสซิเย่ร์ – น่าจะเป็นเกมที่ต่างฝ่ายต่างเปิดเกมบุกใส่กัน คิดว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ คงไม่ใช้แผนจอดรถบัสแบบเดียวกับมูรินโญ่แน่นอน เพราะงั้นเกมจะออกมารูปแบบไหนขึ้นอยู่กับแนวรุกเป็นหลัก โดยเฉพาะ 3 ประสานของหงส์แดง

ชาร์ลี นิโคลัส – คีย์แมนของแมนฯยูในเกมนี้คงไม่พ้น ดาบิด เด เคอา หลังจากนายทวารชาวสเปนเริ่มต้นฤดูกาลได้น่าผิดหวัง มาตอนนี้โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม แม้ในแมตช์ที่เพื่อนเล่นไม่ดี แต่เด เคอา ก็ช่วยให้ทีมรอดพ้นจากความพ่ายแพ้มาได้ นอกจากนี้แนวรุกอย่าง ปอล ป๊อกบา, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เจสซี่ ลินการ์ด ก็ยิงประตูได้มากขึ้น คิดว่าผีคงมาในแผนเคาน์เตอร์แอทแท็ก เกมอาจจะลงเอยด้วยผลเสมอ หรือเผลอๆ แมนฯยูอาจชนะก็ได้

…โดยไม่จำเป็นว่าผู้ชนะต้องเป็นฝ่ายที่เล่นดีกว่าเสมอไป!

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image