คอลัมน์ เกรียนเขียนบอล : สมราคา

Photo : Twitter @PFA (PFA | Professional Footballers' Association)

อย่างที่คาดกันเอาไว้ เวอร์กิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลก คือเจ้าของรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของ สมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ประจำฤดูกาล 2018-19 ไปอย่างสมศักดิ์ศรี

นักเตะเจ้าของค่าตัว 75 ล้านปอนด์รายนี้ สร้างอิมแพคอย่างมากให้กับทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ ทำให้ทีมสามารถก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์อย่างสนุกกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมถึงเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน

แถมเขายังมาด้วยสถิติเกมรับอันยอดเยี่ยม เสียไปเพียง 20 ประตูเท่านั้นจากการลงเล่น 36 นัด ทำให้หงส์แดงเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีกยุโรปอีกด้วย

ฟาน ไดค์ นับเป็นผู้เล่นคนที่ 8 ของลิเวอร์พูล ที่คว้ารางวัลนี้ไปครอง และเป็นการคว้ารางวัลของผู้เล่นหงส์แดงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากที่ฤดูกาลก่อน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็คว้ารางวัลนี้ไปแล้ว

Advertisement

ทีนี้มาดูสถิติของปราการหลังกัปตันทีมชาติเนเธอร์แลนด์รายนี้ ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมาดีกว่า ว่าเขามีผลงานยอดเยี่ยมขนาดไหน ถึงเหมาะสมกับรางวัลนี้

4,015 – คือจำนวนนาทีที่เขาลงสนามให้กับทีมในทุกรายการ มากที่สุดถ้านับเฉพาะผู้เล่นเอาท์ฟิลด์ ด้วยกัน

3,262 – ฟาน ไดค์ สัมผัสบอลมากที่สุดในทีม และในลีกเป็นรองแค่ จอร์จินโญ่ กับ เซซาร์ อัซปลิกวยต้า ของเชลซี เท่านั้น

Advertisement

2,847 – จำนวนการจ่ายบอล เป็นรองแค่จอร์จินโญ่คนเดียวเท่านั้น (อีกแล้ว)

193 – จำนวนการเคลียร์บอลของฟาน ไดค์ ซึ่งมากที่สุดในนักเตะลิเวอร์พูล และติดท็อป 10 ของพรีเมียร์ลีก

170, 108 – ฟาน ไดค์เอาชนะลูกกลางอากาศได้ถึง 170 ครั้ง และโหม่งเคลียร์บอลได้ 108 ครั้งด้วยกัน

88 – ฟาน ไดค์ ยังทำให้ลิเวอร์พูล ถูกยิงตรงกรอบแค่ 88 ครั้งเท่านั้นในฤดูกาลนี้ มีแค่ซิตี้ ทีมเดียวที่โดนน้อยกว่า 79 ครั้ง

76.23 – คือเปอร์เซ็นต์ที่เอาชนะการดวลลูกกลางอากาศ มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก เมื่อนับจากคนที่ปะทะกลางอากาศมากกว่า 150 ครั้งขึ้นไป

34 – พาทีมเก็บชัยชนะ 34 นัดรวมทุกรายการ

23 – เก็บคลีนชีทได้อีก 23 นัดจากทุกรายการเช่นกัน

20 – แถมยังเสียแค่ 20 ประตูในลีก น้อยที่สุดใน 5 ลีกยักษ์ของยุโรป

5 – จำนวนประตูที่ยิงได้

4 – จำนวนแอสซิสต์

0.56 – ค่าเฉลี่ยเสียประตูต่อนัดในพรีเมียร์ลีก และแน่นอนนี่คือสถิติที่ดีที่สุดในลีก

แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการคว้ารางวัลส่วนตัวแล้ว เพียงแต่จะคว้าแชมป์ลีกได้หรือไม่นั้น

คงต้องให้เบรนแดน รอดเจอร์ส เป็นคนให้คำตอบ!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image