ฟอร์บส์ นิตยสารชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา รวบรวมข้อมูลจัด 50 อันดับทีมกีฬาที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ประจำปี 2019 ปรากฏว่ามี 8 สโมสรฟุตบอลยักษ์ใหญ่จากยุโรปพาเหรดติดโผกันถ้วนหน้า ดังนี้
รีล มาดริด
“ราชันชุดขาว” ยักษ์ใหญ่จากสเปน ที่แม้จะพลาดถ้วยแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี แต่พวกเขาคือทีมฟุตบอลเบอร์ 1 ในครั้งนี้ โดยรั้งอันดับ 3 ของตาราง ด้วยมูลค่ารวม 4.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 131,000 ล้านบาท) คิดเป็นมูลค่าทีมโตขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์ หลังมีกำไรในรอบปี 112 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3,462 ล้านบาท)
ผลงานฤดูกาลล่าสุด รีล มาดริด คว้าอันดับ 3 ในลาลีก้า สเปน, เข้าถึงรอบรองชนะเลิศโกปา เดล เรย์, เข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และซิวแชมป์ฟีฟ่า คลับเวิลด์ คัพ (สโมสรโลก)
ทั้งนี้เจ้าของสโมสรรีล มาดริด นั้นเป็นระบบบอร์ดสมาชิกของทีมซึ่งถือว่าเป็นเจ้าของร่วมกัน โดยจะมีการเลือกตัวแทนมาเป็นประธานสโมสรทำงานตามวาระ (ทุก 4-6 ปี) ปัจจุบันมี ฟลอเรนติโน่ เปเรซ นักธุรกิจชาวสเปนเป็นประธานสโมสร
บาร์เซโลน่า
บาร์ซ่าเป็นอีก 1 มหาอำนาจจากลาลีก้า สเปน เจ้าของแชมป์ลีกสูงสุดแดนกระทิงดุ 2 ปีซ้อน ตามมาติดๆ ในอันดับ 4 ด้วยมูลค่ารวม 4.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 124,000 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม บาร์เซโลน่า มูลค่าทีมในรอบปีนั้นลดลง 1 เปอร์เซ็นต์ แม้จะดูตัวเลขเล็กน้อย แต่เมื่อเจาะลึกลงไปพวกเขาเป็นสโมสรฟุตบอลเพียงทีมเดียวที่ผลประกอบการขาดทุนในรอบปีที่ผ่านมา โดยมีบัญชีรอบปีติดลบ 37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,144 ล้านบาท)
ผลงานซีซั่น 2018-19 บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ลาลีก้า สเปน, ซิวที่ 2 โปกา เดลเรย์, เข้าถึงรอบรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
สำหรับเจ้าของสโมสรของบาร์เซโลน่านั้นเป็นระบบสมาชิกร่วมกันเป็นเจ้าของเช่นเดียวกับรีล มาดริด โดยปัจจุบันบาร์ซ่ามี โจเซ็ป มาเรีย บาร์โตเมว นักธุรกิจชาวสเปน ดำรงตำแหน่งเป็นประธาน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
“ปีศาจแดง” สโมสรเคยแข็งแกร่งแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ผลงานย่ำแย่สุดสุด โดยไร้แชมป์ติดมือ 2 ปีซ้อน กระเด็นตกจากอันดับ 2 ในปีที่แล้วลงไปอยู่อันดับที่ 6 โดยมีมูลค่ารวม 3.81 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 118,000 ล้านบาท)
ในภาพรวมมูลค่าทีมปีศาจแดงในรอบปีนั้นลดลงถึง 8 เปอร์เซ็นต์ แม้ในรอบปีที่ผ่านมาสโมสรจะมีกำไร 238 ดอลลาร์สหรัฐ (7,358 ล้านบาท)
ทั้งนี้แมนฯ ยูไนเต็ด เคยเป็นสโมสรแรกและสโมสรเดียวที่มีมูลค่าแตะ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการสำรวจเมื่อปี 2012 แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไป ทั้ง 50 ทีมกีฬาในการจัดอันดับปี 2019 ล้วนแต่มีมูลค่าเกิน 2 พันล้านทั้งสิ้น
ผลงานซีซั่น 2018-19 แมนฯ ยูไนเต็ด จบอันดับ 6 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, รอบ 8 ทีมสุดท้ายเอฟเอคัพ, เข้าถึงรอบ 3 ลีกคัพ
สำหรับปีศาจแดงมี โจเอล และ อัฟราม เกลเซอร์ นักธุรกิจชาวอเมริกันเป็นประธานร่วมกัน
บาเยิร์น มิวนิก
“เสือใต้” เจ้าของแชมป์ฟุตบอลบุนเดสลีก้า เยอรมนี 7 ซีซั่นล่าสุด โผล่รั้งอันดับ 17 ในโผของฟอร์บส์ ด้วยมูลค่า 3.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (93,380 ล้านบาท) โดยมูลค่าทีมในรอบปีนั้นลดลง 1 เปอร์เซ็นต์ ถึงแม้จะมีกำไรในปีที่ผ่านมา 129 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3,989 ล้านบาท)
ผลงานซีซั่น 2018-19 บาเยิร์นคว้าแชมป์บุนเดสลีก้า เยอรมนี, แชมป์เดเอฟเบ โพคาล,เข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
สำหรับเจ้าของสโมสรของบาร์เซโลน่านั้นเป็นระบบสมาชิกร่วมกันเป็นเจ้าของ โดยปัจจุบันมี คาร์ล ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ อดีตนักฟุตบอลชาวเยอรมันนั่งประธานสโมสร
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
“เรือใบสีฟ้า” สโมสรที่มี ชีค มันซูร์ มหาเศรษฐีและเครือราชวงศ์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นเจ้าของสโมสร โผล่ติดอันดับ 25 ด้วยมูลค่ารวม 2.69 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (83,173 ล้านบาท) ซึ่งในภาพรวมรอบปีมูลค่าทีมเติบโตขึ้นถึง 9 เปอร์เซ็นต์ หลังมีกำไรในปีที่ผ่านมา 168 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (5,194 ล้านบาท)
ฤดูกาล 2018-19 แมนฯ ซิตี้ กลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ในแผ่นดินอังกฤษที่กวาดแชมป์ภายในประเทศครบถ้วนในซีซั่นเดียว ได้แก่ พรีเมียร์ลีก เอฟเอคัพ และลีกคัพ (คาราบาวคัพ) ส่วนแชมเปี้ยนส์ลีกเข้าถึงแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เชลซี
“สิงโตน้ำเงินคราม” สโมสรมาดผู้ดีที่มี**โรมัน อับราโมวิช** นักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวรัสเซียเป็นเจ้าของ ที่มักเปลี่ยนผู้จัดการทีมเป็นว่าเล่น ติดโผในอันดับ 32 ด้วยมูลค่าทีม 2.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (79,782 ล้านบาท) เติบโตจากปีที่ผ่านมามากถึง 25 เปอร์เซ็นต์ หลังมีกำไรในรอบปี 127 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3,927 ล้านบาท)
ผลงานของเชลซีในซีซั่น 2018-19 คว้าอันดับ 3 พรีเมียร์ลีก, เข้าถึงรอบ 5 เอฟเอคัพ, รองชนะเลิศลีกคัพ และแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้าลีก
อาร์เซน่อล
“ปืนใหญ่” สโมสรที่เก็บค่าตั๋วเข้าชมแพง แต่ สแตน โคเอ็นเก้ นักธุรกิจชาวอเมริกันเป็นเจ้าของสโมสรและบอร์ดบริหารมักให้งบเสริมทีมให้น้อยนิด ติดอันดับ 42 ของฟอร์บส์ ด้วยมูลค่าทีม 2.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (70,205 ล้านบาท) เติบโตจากปีที่ผ่านมา 1 เปอร์เซ็นต์ โดยมีกำไรรอบปี 102 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3,155 ล้านบาท)
ผลงานปืนใหญ่ในซีซั่น 2018-19 คืออันดับ 5 พรีเมียร์ลีก, เข้าถึงรอบ 4 เอฟเอคัพ, เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายลีกคัพ และรองแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้าลีก
ลิเวอร์พูล
“หงส์แดง” สโมสรที่ห่างแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษมานานถึง 29 ปี แต่มีดีกรีเป็นเจ้ายุโรป 6 สมัย ซึ่งดีที่สุดหากเทียบกับทีมในแดนผู้ดี ติดโผฟอร์บส์ในอันดับ 45 ด้วยมูลค่า 2.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (67,422 ล้านบาท) เติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว 12 เปอร์เซ็นต์ หลังมีกำไรในรอบปี 128 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3,958 ล้านบาท)
ทั้งนี้ผลงานฤดูกาล 2018-19 หงส์แดงสยายปีกผงาดแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, อันดับ 2 พรีเมียร์ลีก, เข้าถึงรอบ 3 เอฟเอคัพ และลีกคัพ
สำหรับลิเวอร์พูลมี จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี่ และเฟนเวย์ สปอร์ตส กรุ๊ป (FSG) กลุ่มทุนจากสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าของสโมสร
ขณะที่ทีมกีฬาที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกนั้นยังคงเป็น ดัลลัส คาวบอยส์ ทีมอเมริกันฟุตบอล (เอ็นเอฟแอล) ซึ่งครองแชมป์เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ด้วยมูลค่ามากถึง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 155,000 ล้านบาท) เติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว 4 เปอร์เซ็นต์ หลังมีกำไรในรอบปีที่ผ่านมา 365 ล้านดอลล์สหรัฐ (11,279 ล้านบาท)
ทั้งนี้ดัลลัส คาวบอยส์ เคยเป็นแชมป์ซุปเปอร์โบว์ลทั้งหมด 5 สมัย แต่ครั้งสุดท้ายที่ทำได้ต้องย้อนไปไกลถึงปี 1995 หรือเมื่อ 23 ปีที่แล้ว แต่ด้วยความสามารถของ เจอร์รี่ โจนส์ นักธุรกิจชาวอเมริกันผู้เป็นเจ้าของ ทำให้คาวบอยส์นั้นประสบความสำเร็จในเชิงธุรกิจเรื่อยมา นับตั้งแต่เข้าซื้อทีมคาวบอยส์เมื่อ 30 ปีก่อน ในราคา 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (4,635 ล้านบาท)
มูลค่าของทีม บางทีไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสำเร็จหรือจำนวนแชมป์เพียงอย่างเดียว เพราะในเชิงธุรกิจแล้ว การบริหารงานก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
