ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ออกสตาร์ตมาก็เริ่มเห็นถึงเค้าลางของความสนุกกันแล้ว
แชมป์เก่าอย่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็หลุดเสมอเป็นเกมแรก จากพิษของวิดีโอช่วยตัดสิน (วีเออาร์) ที่ทำให้พวกเขาพลาดประตูชัยต่อ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ทั้งๆ ที่ทั้งเกมมีโอกาสยิงเกิน 30 ครั้งด้วยกัน
กลายเป็นว่าผ่าน 2 นัด เหลือเพียง 2 ทีมที่เก็บสถิติ 100 เปอร์เซ็นต์ นั่นก็คือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล เพียงแต่ว่าทั้งสองทีมก็มีคิวจะต้องมาเจอกันในวันเสาร์นี้ทันทีเลยเช่นกัน ทำให้จบสัปดาห์นี้ อาจจะมีแค่ทีมเดียวที่รักษาสถิติชนะรวด หรือไม่มีเลยก็เป็นได้
ถ้าเปิดสถิติที่ผ่านมา ใครก็ต้องบอกว่าฝั่งหงส์แดงเป็นต่อ เพราะว่า 8 นัดหลังสุดที่เจอกัน โดยเฉพาะ 7 นัดหลังที่เป็นการคุมทีมโดย เจอร์เก้น คล็อปป์ ทั้งหมด ยังไม่เคยเพลี่ยงพล้ำจนถึงขั้นพ่ายให้กับยอดทีมจากกรุงลอนดอนทีมนี้เลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถิติการเล่นในบ้าน ที่ชนะมาหมดใน 3 เกมหลังสุดที่เจอกัน และยิงรวมไป 12 ประตู เสียแค่ 2 ประตูเท่านั้น
รวมถึงอีกสถิติหนึ่งที่น่าสนใจคือตั้งแต่ที่ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ และ โม ซาลาห์ 3 ประสานของหงส์แดง ที่ค่อยๆ ย้ายกันมาคนละปีนั้น ทุกคนทำประตูได้ทุกนัดที่เจอกับอาร์เซน่อลในบ้านตัวเอง คนที่ถูกโฉลกมากที่สุดก็คงเป็นกองหน้าบราซิล ที่กดไปแล้ว 7 ประตูด้วยกัน (เฉพาะในแอนฟิลด์)
อย่างไรก็ตามเกมนี้ถือว่าเป็นการเจอกันของสองทีมที่ใช้ทุนทรัพย์ในตลาดซื้อขายที่ผ่านมาต่างกันราวฟ้ากับเหว ฝั่งหนึ่งเสริมแค่ผู้เล่นดาวรุ่งและเซ็นฟรีมา 2 คน แต่อีกฝั่งทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อเสริมในจุดที่ยังขาดหายไป
ทีมปืนใหญ่ชุดนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะแนวรุก พวกเขาเองก็พร้อมจะมีสุดยอด 3 ประสาน ที่พร้อมจะมาท้าชิงกับของลิเวอร์พูล ทั้ง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยัง, อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ และเด็กใหม่อย่าง นิโกล่าส์ เปเป้ ที่ล้วนแล้วแต่น่ากลัวทั้งสิ้น
แดนกลางอย่าง ดานี่ เซบาญอส ที่เพิ่งย้ายมาใหม่ ก็ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว เป็นหัวใจในกองกลางของทีมได้ทันที
ทว่าปัญหาของทั้งคู่ที่จะต้องเจอแน่นอนเลย คือเรื่องของเกมรับ ซึ่งจุดนี้อาจจะให้ทางฝั่งของผู้มาเยือนอย่างปืนใหญ่ ดีกว่าเล็กน้อย ในช่วงนี้
ลิเวอร์พูล ยังคงเสียประตูทุกนัดตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นเป็นต้นมา อีกทั้งการขาด อลิสซง เบ็คเกอร์ ที่บาดเจ็บไปนั้น ทำให้ต้องใช้มือ 2 อย่าง อาเดรียน ลงเล่นแทน เพียงแต่ความผิดพลาดในเกมกับ เซาแธมป์ตัน นั้นมันชัดเจนเกินไปที่จะมองข้ามไปได้ ยิ่งแนวรุกของปืนใหญ่เร็วๆ คล่องๆ ทั้งนั้นด้วย
ทีมปืนใหญ่เองอาจจะเสริมแนวรับได้ไม่ถูกในแฟนบอลเท่าไหร่ แต่การได้ ดาวิด ลุยซ์ มาช่วยอีกคนก็ยังดีกว่าตัวที่มีอยู่ ขณะที่ แบรนด์ เลโน่ เองก็เหนียวแน่นขึ้นทุกวันด้วย
เอาเป็นว่าเกมนี้อาจจะตัดสินกันที่เกมรับของใครจะต้านทานเกมรุกอีกฝั่งได้ดีกว่ากัน ก็เป็นได้
