หลังจากผ่านร้อน ผ่านหนาว และผ่านความยิ่งใหญ่กับ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ มานาน 20 ปีเต็ม ในที่สุด ทอม เบรดี้ ยอดควอเตอร์แบ๊กมือทอง ก็ประกาศโบกมือลาทีมนักรบกู้ชาติที่ซึ่งเขาอยู่มาตั้งแต่ออกสตาร์ตชีวิตนักอเมริกันฟุตบอลอาชีพในลีกเอ็นเอฟแอลแล้ว
“เบรดี้” กลายเป็นนักกีฬาคนชนคนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังจากพา “แพ็ตส์” คว้าแชมป์ซุปเปอร์โบว์ลถึง 6 สมัย ในฤดูกาล 2001, 2003, 2004, 2014, 2016 และ 2018 โดยปีหลังสุดนั้นยิ่งน่าทึ่งเพราะเขาอายุปาเข้าไป 41 ปีแล้ว
นอกจากนี้ เบรดี้ ยังพาแพทริออสต์เข้าชิงอีก 3 ครั้ง แต่พลาดหวังไป คือฤดูกาล 2007, 2011 และ 2017 ซึ่งการเข้าชิงถึง 9 ครั้งก็เป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน
เขายังเป็นเจ้าของสถิติสูงสุดของเอ็นเอฟแอลอีกหลายอย่าง อาทิ เป็นควอเตอร์แบ๊กที่เก็บชัยได้มากที่สุด 219 นัด, ควอเตอร์แบ๊กที่เก็บชัยในบ้านและนอกบ้านมากที่สุด 121 กับ 98 นัด, เป็นควอเตอร์แบ๊กคนเดียวที่ทำสถิติขว้าง 300 หลาขึ้นไป ขว้างทัชดาวน์ 3 ครั้งขึ้นไป และไม่โดนอินเตอร์เซปต์เลยได้ถึง 3 นัดติดต่อกัน, ผู้เล่นอายุมากที่สุดที่คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (เอ็มวีพี) ของเอ็นเอฟแอล ขณะอายุ 40 ปี…
ติดโปรโบว์ลมากที่สุด (สถิติร่วม) 14 ครั้ง, เล่นรอบเพลย์ออฟมากที่สุด 41 นัด, ขว้างทัชดาวน์มากที่สุดในรอบเพลย์ออฟ 73 ครั้ง, ขว้างทำระยะมากที่สุดในรอบเพลย์ออฟ 11,388 หลา, ขว้างทัชดาวน์มากที่สุดในนัดชิงซุปเปอร์โบว์ล รวม 18 ครั้ง, ขว้างทำระยะมากที่สุด รวม 2,838 หลา และสถิติอีกนับไม่ถ้วน
หลังจบฤดูกาลที่แล้วอย่างน่าผิดหวัง เมื่อแพทริออตส์ต้องเล่นรอบไวลด์การ์เพลย์ออฟเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009 และพ่ายให้ เทนเนสซี ไททันส์ แบบเจ็บปวด เพราะลูกขว้างสุดท้ายของเบรดี้ที่เส้น 1 หลาในแดนตัวเอง โดนแนวรับฝ่ายตรงข้ามอินเตอร์เซปต์ได้ กลายเป็นแต้มทัชดาวน์ที่ช่วยให้ไททันส์เก็บชัยชนะ หลายคนคิดว่าเบรดี้ในวัย 42 ปี คงจะประกาศแขวนหมวกกันน็อกอย่างเป็นทางการ
แต่เขาก็ทำให้หลายคนแปลกใจ เมื่อยืนยันชัดเจนว่า เส้นทางการเป็นนักกีฬาคนชนคนของตัวเองยังไม่จบ ขณะที่แพ็ตส์เองระบุว่า ความต้องการของสองฝ่ายไม่ตรงกัน จึงไม่สามารถเจรจาสัญญาใหม่ได้ และปล่อยให้เขาเป็นผู้เล่นฟรีเอเยนต์แทน โดยเขาสามารถเจรจากับทีมอื่นๆ ได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม และเข้าสู่ช่วงตลาดย้ายทีมสำหรับผู้เล่นฟรีเอเยนต์ได้ตั้งแต่วันพุธที่ 18 มีนาคมเป็นต้นไป
เบรดี้โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย ขอบคุณนิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ และแฟนๆ ทุกคน โดยย้ำว่า จะยังรักและผูกพันกับทีมเสมอในฐานะ “บ้าน” ของตนตลอด 20 ปีที่ผ่านมา
ขณะที่ บิล เบลิชิก ยอดโค้ชคู่บุญ ยกย่องว่าเขาเป็นควอเตอร์แบ๊กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของเอ็นเอฟแอล เป็นแชมเปี้ยนผู้สร้างสรรค์เกมที่เหนือกว่าแค่นักกีฬาธรรมดา การได้ร่วมงานกับเขาตลอด 20 ปี ถือเป็นโชคดีของตน
สำหรับเส้นทางหลังจากนี้ของเบรดี้ มีหลายทีมที่กำลังมองหาควอเตอร์แบ๊กมือ 1 คนใหม่ เช่น แอลเอ ชาร์จเจอร์ส ที่มือขว้างคนเก่า ฟิลิป ริเวอร์ส เพิ่งลาทีมไป ส่วนเฮดโค้ช แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส ก็ยอมรับว่าเบรดี้เป็นเป้าหมายของทีม ขณะที่ ลาสเวกัส เรดเดอร์ส ที่เพิ่งย้ายจากโอ๊คแลนด์ กำลังมองหาผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์มาดึงคนดูในเมืองใหม่ของทีม
ด้วยฝีมือระดับเบรดี้ หลายคนเชื่อว่าถึงอายุจะมากแล้ว เขาก็ยังมีก๊อกสองก๊อกสาม แถมด้วยความเก๋าเกมที่จะช่วยทีมได้ เหมือนอย่าง ดรูว์ บรีส์ มือขว้างวัย 41 ปี ของ นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส เจ้าของสถิติทัชดาวน์และขว้างระยะรวมสูงสุดของเอ็นเอฟแอล ก็เพิ่งต่อสัญญา 2 ปีกับทีม
ส่วน เพย์ตัน แมนนิ่ง อดีตควอเตอร์แบ๊กระดับตำนาน ก็เคยย้ายไปสร้างชื่อกับ เดนเวอร์ บรองโก้ส์ หลังประสบความสำเร็จกับ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส โดยสามารถคว้าแชมป์ซุปเปอร์โบว์ลกับทั้ง 2 ทีมมาแล้ว
จากหลายๆ ตัวอย่างที่ผ่านมา หลายคนจึงเชื่อว่า เบรดี้จะยังประสบความสำเร็จอีกได้ แต่ก็ต้องไม่ลืมปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เช่น โค้ช หรือเพื่อนร่วมทีมใหม่
รวมถึงสังขารที่อาจจะร่วงโรยไปตามวัยของเจ้าตัวด้วย