ถ้า ‘แวร์เนอร์’ ย้ายซบ ‘สิงห์บลูส์’ ส่งลงเล่นแผนไหนได้บ้าง?
“สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ตกเป็นข่าวเตรียมปาดหน้า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ปิดดีลคว้าตัว ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าตัวเก่งของ แอร์เบ ไลป์ซิก ทีมดังในบุนเดสลีก้า เยอรมนี มาร่วมทีมหลังจบฤดูกาลนี้ ด้วยการจ่ายค่าฉีกสัญญา 49.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,970 ล้านบาท) พร้อมให้ค่าเหนื่อยแข้งเยอรมันสัปดาห์ละ 200,000 ปอนด์ (เกือบ 8 ล้านบาท)
การมุ่งซื้อแวร์เนอร์ครั้งนี้บ่งบอกได้ชัดเจนว่า แฟร้งก์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมสิงห์บลูส์ ยังไม่พอใจขุมกำลังกองหน้าที่มีอยู่ อยากจะเพิ่มประสิทธิภาพจบสกอร์ให้มากขึ้น
แทมมี่ อับราฮัม กองหน้าชาวอังกฤษวัย 22 ปี คือคนที่ทำผลงานทะลวงตาข่ายในลีกได้ดีที่สุดของทีมตอนนี้ ยิงไป 13 ประตูในพรีเมียร์ลีก ตามมาด้วย เมสัน เมาท์ กองกลางอนาคตไกลซัดไป 6 ประตู
ในขณะที่ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ หัวหอกแชมป์โลกชาวฝรั่งเศสซัดให้เชลซีในซีซั่นนี้ไปแค่ 2 ประตูเท่านั้น ด้าน มิตชี่ บัตชูอายี่ กองหน้าเบลเยียม แม้จะยิงไปทั้งหมด 6 ประตู แต่เกิดขึ้นในพรีเมียร์ลีกแค่ 1 ลูก เพราะส่วนใหญ่ไปเน้นยิงบอลถ้วยในประเทศมากกว่า
ดังนั้น การเข้ามาของแวร์เนอร์ นอกจากจะเพิ่มความดุดันในเกมรุกแล้ว ก็น่าจะเป็นการแบ่งเบาภาระจบสกอร์ของแทมมี่ อับราฮัมด้วย
แวร์เนอร์ ในวัย 24 ปี แก่กว่าอับราฮัมแค่ 18 เดือนเท่านั้น แต่ผ่านประสบการณ์บนเวทีลูกหนังระดับสูงมาไม่น้อย ลงเล่นกว่า 200 เกมและยิงไป 88 ประตูในบุนเดสลีก้า
จุดเด่นของแวร์เนอร์ คือความคล่องแคล่ว วิ่งปั่นป่วนทะลุทะลวงแนวรับคู่แข่งได้ดี นั่นทำให้เขาลงเล่นได้ทุกตำแหน่งในแผงเกมบุก นอกจากยืนค้ำหน้า ยังสามารถขยับไปเล่นริมเส้น แล้วค่อยลากเลื้อยเข้ามาหาโอกาสทำประตูให้ทีมได้
ความยืดหยุ่นของแวร์เนอร์ ทำให้แลมพาร์ดมีโอกาสจัดแผนการเล่นได้หลากหลายมากขึ้นในฤดูกาลหน้า ซึ่งต้องไม่ลืมว่า ซีซั่นหน้า เชลซีจะได้ ฮาคิม ซีเย็ค ปีกขวาของอายแอ็กซ์ อันสเตอร์ดัมมาร่วมทีมด้วย
โดย fourfourtwo ได้วิเคราะห์ตำแหน่งการเล่นในแผนต่างๆ ของแลมพาร์ดที่น่าจะเลือกใช้งานแวร์เนอร์ไว้ดังนี้
ยืนเป็นหน้าคู่
หากมาอยู่กับเชลซีแล้วจัดระบบกองหน้าคู่นั้น หน้าที่ของเขาคือการลากเลื้อยทะลวงแนวรับคู่แข่ง รวมถึงเก็บตกจังหวะสองในกรอบเขตโทษ ใช้ความเร็วประสานงานกับคู่หูช่วยกันทำประตู
โดยที่ไลป์ซิก แวร์เนอร์มักได้ลงเล่นเป็นกองหน้าคู่กับ ยุสซูฟ โพลเซ่น หรือ แพทริก ชิค กองหน้าสูงใหญ่และแข็งแกร่ง ซึ่งถ้ามองมาที่เชลซีแล้ว การยืนคู่กับบัตชูอายี่ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะมีทั้งความเร็วและความแกร่งเป็นจุดที่ผสมผสานกับชิรูด์และอับราฮัม
ยิ่งถ้าใช้ซีเย็คคอยปั้นเกมอยู่ด้านหลังสองหัวหอกแล้ว น่าจะเป็นระบบที่น่าสนใจมากๆ ทีเดียว
แนวรุกฝั่งซ้าย
ฤดูกาล 2019-20 แวร์เนอร์ ขยับจากกองหน้าตัวกลางมาเล่นเป็นแนวรุกฝั่งซ้ายในระบบกองหน้า 3 ตัวมากขึ้น ทั้งที่ไลป์ซิกกับทีมชาติเยอรมนี โดยในตำแหน่งนี้เขาจะได้แสดงศักยภาพมากกว่าเดิม ใช้ความคล่องแคล่วเลี้ยงจากริมเส้นฝั่งซ้าย และหาช่องสับไกเต็มข้อด้วยเท้าขวา
เมื่อคาดการณ์ระบบกองหน้า 3 ตัวที่เชลซี แวร์เนอร์จะลงเล่นแนวรุกตัวซ้าย โดยฝั่งขวาน่าจะเป็นของ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ส่วนหัวหอกตัวกลางที่ยืนค้ำหน้านั้น ชิรูด์เหมาะที่จะยืนค้ำคอยเชื่อมเกมให้กับเพื่อนที่สุดในแผนนี้
หน้า 3 สายพลิ้ว
แลมพาร์ด ที่กำลังเชื่อมั่นในฝีเท้าของอับราฮัมแบบสุดสุด อาจใช้เขาเป็นกองหน้าตัวกลาง โดยมีตัวริมเส้นอย่างแวร์เนอร์คอยช่วยประสานงาน
ซึ่งนอกจากแวร์เนอร์กับอับราฮัมแล้ว กองหน้าตัวที่ 3 มีทางเลือกที่หลากหลาย ทั้งฮัดสัน-โอดอย, เมาท์ หรือ คริสเตียน พูลิซิช ซึ่งสามารถรับบทบาททั้งปีกหรือขยับมาปั้นเกมช่วยตรงกลาง
สังเกตได้ว่าแผนนี้เน้นแนวรุกที่มีความรวดเร็ว แต่อาจมีจุดอ่อนตรงความแข็งแกร่งในการปะทะ จึงต้องหวังกองกลางตัวรับอย่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ให้ช่วยเก็บกวาดคู่แข่งที่อาจตัดบอลบุกสวนกลับให้อยู่หมัดด้วย
กองหน้าตัวต่ำ
ถ้าแลมพาร์ดเลือกใช้ระบบดั้งเดิมคือมีกองหน้าตัวเป้า 1 คนอย่างชิรูด์ ยืนค้ำหน้า บทบาทของแวร์เนอร์ก็สามารถขยับมาเป็นกองหน้าตัวต่ำ หรือ Second striker ได้ โดยแวร์เนอร์จะได้ใช้จุดเด่นเรื่องการเคลื่อนที่ หลอกล่อหรือทำลายการยืนโซนของแนวรับคู่แข่ง ก่อนหาช่องจ่ายให้ชิรูด์จบสกอร์สวยๆ
ชิรูด์คือคนที่เหมาะกับการยืนเป็นหอกตัวเป้ามากที่สุด แม้จะไม่ได้ยิงถล่มทลาย แต่เขาเก่งที่จะยืนค้ำและสร้างโอกาสให้กับทีมมากกว่า เหมือนที่คว้าแชมป์โลกกับทีมชาติฝรั่งเศส ทั้งที่ยิงในรอบสุดท้ายไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว
กองหน้าธรรมชาติ
แน่นอนว่าแวร์เนอร์ จะแสดงศักยภาพออกมาได้ดีที่สุดเมื่อเล่นร่วมกับหัวหอกคนอื่นๆ แต่โอกาสที่เขาอาจจะถูกส่งลงเล่นเป็นกองหน้าตัวเดียวอาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน
การแข่งขันใน 1 ฤดูกาลนั้นค่อนข้างยาวนาน ซึ่งซีซั่นหน้า 2019-20 เชลซีจะลงแข่งขันถึง 4 ทัวร์นาเมนต์ บางทีแลมพาร์ดอาจจะสลับใช้งานแวร์เนอร์กับอับราฮัมในตำแหน่งกองหน้า เพื่อถนอมร่างกาย เลี่ยงอาการบาดเจ็บ
ถ้าเชลซีเลือกใช้ระบบ 4-3-2-1 โดยให้แวร์เนอร์เป็นหัวหอกตัวเป้า แผงมิดฟิลด์ตัวรุก 3 คน อาจประกอบไปด้วยพูลิซิช, ซีเย็ค และเมาท์ ซึ่งระบบการเล่นนี้เหมาะสำหรับเกมที่เชลซีต้องการครองเกม โดยให้ซีเย็คและแผงกองกลางคนอื่นๆ คอยหาจังหวะเจาะแนวรับคู่แข่ง ป้อนบอลให้แวร์เนอร์ได้ยิงประตู
ซีซั่นนี้ แวร์เนอร์ ยิงไปแล้ว 31 ประตู พร้อมกับแอสซิสต์อีก 13 ครั้ง จากการลงสนาม 41 นัดในทุกรายการ ถือเป็นอาวุธที่น่าจับตามองมากๆ ว่าเขาจะปล่อยของในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้มากแค่ไหน แม้จะยังไม่มีการยืนยัน แต่ตอนนี้เชลซีถือว่าเป็นเต็งที่จะคว้าตัวมาร่วมทีมมากสุดแล้ว
มิชาเอล บัลลัค อดีตกองกลางของเชลซี ซึ่งเป็นรุ่นพี่ในทีมชาติเยอรมนียังอดไม่ได้ที่จะบอกว่านี่จะเป็นการเสริมทัพที่ยอดเยี่ยมมากๆ
“ติโม แวร์เนอร์ เหมาะมากๆ กับเชลซี ซึ่งมีสไตล์การเล่นที่เข้ากัน ผมคิดว่าเจ้าตัวตัดสินใจเลือกสโมสรที่มีโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ นี่คือสิ่งสำคัญมากๆ สำหรับเขา พรีเมียร์ลีกมีความเข้มข้นสูง ผู้ตัดสินไม่ค่อยเป่าฟาวล์ให้ง่ายๆ จึงอาจเป็นงานยากและต้องพัฒนาความแข็งแกร่งเพื่อเข้าปะทะมากขึ้น แต่เชื่อว่าแวร์เนอร์จะปรับตัวเข้ากับพรีเมียร์ได้เร็ว เพราะมีทั้งความคล่องแคล่วและแข็งแกร่ง” บัลลัค กล่าว
น่าสนใจจริงๆ ว่าแวร์เนอร์จะยกระดับฝีเท้าได้เจ๋งขึ้นแค่ไหน และจะไปได้สวยอย่างที่บัลลัคคาดไว้หรือเปล่า?