สกู๊ป : สกล วรรณพงษ์ คัมแบ๊คฮาร์ดคอร์ พายิงปืนพ้นแดนสนธยา-กำจัดกระสุนเถื่อน
อีกหนึ่งประเด็นฮือฮาสำหรับวงการกีฬาในช่วงหยุดชะงักเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “โควิด-19” คือ การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทยฯ
คนที่มานั่งนายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทยฯ ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน คนในวงการกีฬารู้จักเขาเป็นอย่างดีนั่นคือ “บิ๊กเสือ” สกล วรรณพงษ์ อดีตผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่เกษียณอายุราชการไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2561
การคัมแบ๊คสู่วงการกีฬาคำรบนี้ของ สกล วรรณพงษ์ ถูกจับตามองจากคนในวงการกีฬายิงปืนเมืองไทยอย่างมากเพราะ สกล วรรณพงษ์ มีประสบการการณ์บริหารองค์กรกีฬาสูงสุดอย่างค่ายหัวหมาก บริหารงบประมาณแผ่นดินระดับ 6-7 พันล้านบาทต่อปีมาแล้ว
ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา วงการกีฬายิงปืนเมืองไทยเปรียบเสมือนดินแดนสนธยาที่ยากที่ต่อเข้าถึง มีการแก่งแย่งชิงดีในสมาคม แย่งชิงตำแหน่งบริหารงานสมาคมกันแบบเอาเป็นเอาตาย หมกเม็ดบริหารงานกันชนิดที่คนวงการกีฬาเมืองไทยเอือมระอา กี่คดีความต่อกี่คดีความคาราคาซังกันอยู่ในชั้นศาล
สมาคมกีฬายิงปืนฯ ดูผิวเผินไม่น่าจะเป็นชนิดกีฬาที่จะดึงดูดให้มีการแก่งแย่งกันบริหารงาน แต่ถ้าหากเจาะลึกกันให้ถึงแก่นแท้จริงๆ แล้ว ยิงปืน เป็นชนิดกีฬาที่มีผลประโยชน์แอบแฝงมากมายมหาศาล
การมาของ สกล วรรณพงษ์ จึงถูกตั้งความหวัง แบกรับความกดดันสูงพอสมควรว่า เขาจะเข้ามา “สังคยนา” เรื่องความโปร่งใสการบริหารงานภายในสมาคมพร้อมๆ กับการ “ปลุกผี” ทวงความยิ่งใหญ่ให้กับวงการยิงปืนเมืองไทยให้กลายเป็นชนิดกีฬาฝากผีฝากไข้ของทัพนักกีฬาไทยในยามต้องไปแข่งมหกรรมกีฬาทั้งระดับอาเซียน เอเชีย หรือระดับโลก
นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ฝีมือการทำงานเพื่อวงการกีฬาของ สกล วรรณพงษ์ ผู้ที่ได้ชื่อว่า เป็นคนตรงๆ โผงผาง จริงใจ ทุ่มเททำงานแบบตรงไปตรงมาในห้วงเวลา 4 ปีนับจากนี้
สกล วรรณพงษ์ กลับมาคราวนี้แบบที่คนวงในวงการยิงปืนรู้ข่าวกันมาสักพักแล้วว่า นายกสมาคมคนใหม่คือ สกล วรรณพงษ์ จึงไม่ค่อยเซอร์ไพรส์เท่าใดนัก แต่คนวงนอกวงการค่อนข้างเซอร์ไพรส์พอสมควร เพราะไม่คิดว่า คนที่เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ กกท. จะเปลี่ยนบทบาทตัวเองมานั่งเก้าอี้นายกสมาคมกีฬายิงปืนฯ
สกล วรรณพงษ์ แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคม ประกอบด้วย นายวิชิต เชี่ยวเวช อุปนายก, พล.อ.พินิจ โจมพรม อุปนายก, นายชัยรัตน์ รัตนสุภากร อุปนายก, พล.ร.ต.วศิน บุญเนือง อุปนายก, ผศ.ทศพร เหรียญเจริญ อุปนายก / น.ส.ชยธร ธารารักษ์ เหรัญญิก / น.ส.อรรัมภา เรืองปัญญาวุฒิ นายทะเบียน / นายกฤตภาส ศรีพัทยากร ประชาสัมพันธ์
น.ส.โศภิศรา ทิพยมณฑล เลขาธิการ-ปฏิคม, ผศ.คมกริช ฆ้องนำโชค กรรมการ / น.ส.ชมพูนุท พรสิบ กรรมการ / ดร.ศรีทัศน์ วิรัสวา กรรมการ / นายมนัสชน สุจจิตร์จูล กรรมการ / นายสุวิทย์ เม่นแย้ม กรรมการ / นายธนพล พวงทอง กรรมการ / นายดนัย ลิ้มรสสุข กรรมการ / ดร.เติมเพชร สุขคณาภิบาล กรรมการ / นางปิยะธิดา นุกุลธรประกิต กรรมการ
ดูจากองคาพยพทีมงานการบริหารสมาคมกีฬายิงปืนฯ ของ “บิ๊กเสือ” นั้นไม่ธรรมดา และน่าติดตามยิ่งนัก เพราะมีการสลายขั้วแย่งชิงอำนาจกันมาตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา เข้าสู่ยุค “รีสตาร์ทยิงปืนไทย” อย่างแท้จริง…
นั่นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องในก้าวแรกของภารกิจกอบกู้ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีวงการยิงปืนไทย
สกล วรรณพงษ์ เปิดใจว่า สิ่งแรกที่อยากทำคือ การสร้างความภาพลักษณ์ และศรัทธาของสมาคมให้กลับมา ซึ่งก็จะต้องสร้างผลงานให้เกิดขึ้นจากความสามารถของนักกีฬา เพราะฉะนั้นจะต้องเน้นที่การสร้างนักกีฬา ทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ โดยแนวทางการบริหารของตนจะเน้นพัฒนาบุคลากร ส่วนปัญหาความขัดแย้งที่เคยเกิดขึ้นไม่เกี่ยว เพราะเรื่องการฟ้องร้องสมาคมก็จบสิ้นไปหมดแล้ว
“สไตล์การทำงานของผมจะเน้นพัฒนานักกีฬา และผู้ฝึกสอนจะต้องมีคุณสมบัติ ความสามารถ และมีเทคนิคขึ้นสูง เพื่อฝึกนักกีฬาทีมชาติ รวมทั้งก็จะต้องมีการพัฒนากรรมการผู้ตัดสินด้วยเช่นกัน แม้แต่คณะกรรมการบริหารก็จะต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ในส่วนการบริหารงานนั้นคณะกรรมการบริหารสมาคมจะตัดสินใจร่วมกัน รวมทั้งสมาชิกสโมสรที่จะเปิดรับเพิ่มเติมให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนา”
“โดยในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ จะมีการประชุมร่วมกับสมาชิกสโมสร ทั้งนี้ก็จะนำแนวทางสมัยเป็นผู้ว่าการ กกท.เข้ามาดูแลสมาคมคือ 1.ดูแลเรื่องการเบิกงบประมาณให้เร็ว 2.ส่งนักกีฬาไปแข่งขันต่างประเทศบ่อยๆ 3.มีผู้ฝึกสอนที่ดี และอีกสิ่งที่สำคัญก็จะต้องมีการประสานงานที่ดีกับ กกท. ด้วย”
“การเข้ามาทำหน้าที่นี้เป็นสิ่งที่ท้าทาย และทำให้ผมมีความตั้งใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากการคลุกคลีกในวงการกีฬามากว่า 35 ปี ผมจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด เพราะคนวงการกีฬากำลังจับตามองผมอยู่ และผมก็จะทำงานด้วยความมั่งมุ่งมั่นตั้งใจ ทำในสิ่งที่ถูกต้อง สุจริต โปร่งใส ตรงไปตรงมา เร็วไว ไม่ยืดเยื้อ สิ่งเหล่านี้ที่จะทำให้ความศรัทธาของสมาคมกลับคืนมาได้” บิ๊กเสือระบุ
นายกป้ายแดงยิงปืนไทย บอกต่ออีกว่า เป้าหมายในการแข่งขันระดับนานาชาตินั้น จะเริ่มต้นที่การคัดเลือกโควต้าเข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ตอนนี้นักยิงปืนไทยได้โควต้าแล้ว 3 คน โดยตั้งเป้าว่า จะได้โควต้าเพิ่มอีกอย่างน้อย 1 คน
ส่วนเป้าหมายผลงานในโอลิมปิกครั้งนี้ ส่วนตัวหวังลึกๆ ว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่อย่างน้อยนักกีฬาเราจะได้ประสบการณ์แน่นอน ส่วนต่อไปในกีฬาซีเกมส์ 2021 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม จะพยายามทำให้นักกีฬาโกยเหรียญทองได้มากกว่า 10 เหรียญอย่างที่ทัพแม่นปืนไทยเคยทำได้ ซึ่งคิดว่า ยังมีเวลาในการสร้าง และคัดเลือกนักกีฬาชุดซีเกมส์
“ที่ผ่านมาภาพลักษณ์สมาคมถูกคนในวงการกีฬา และบุคคลภายนอกมองในแง่ลบมาก ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของการบริหารที่ไร้ทิศทาง อีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ของการขายลูกกระสุนปืน ปัญหาใหญ่คือการไม่มีนายกสมาคมฯ จึงทำให้นักกีฬา รวมถึงผู้ฝึกสอน วางตัวกันลำบาก ไม่มีใครเกรงใจซึ่งกันและกัน นักกีฬาบางคนผู้ปกครองต้องขอตัวไปซ้อมที่บ้านต่างจังหวัด โดยผู้ปกครองทำตัวเป็นผู้ฝึกสอนเอง ทำให้เกิดความวุ่นวายกันไปหมด”
“ก่อนที่ผมจะเข้ามานั่งบริหารในตำแหน่งนายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย ได้รับทราบว่า มีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่บางคน ปฏิบัติตัวเหนือกฏเกณฑ์ ด้วยการถืออภิสิทธิ์อย่างผิดกฎหมาย ช่วยกันขนลูกกระสุนปืนของนักกีฬา ที่ใช้ในการฝึกซ้อมเข้าท้ายรถเก๋งของตัวเองเป็นจำนวนมาก จะด้วยมีเจตนาเช่นใดก็ตาม ขณะนี้ได้เรียกให้บุคคลนั้นนำกระสุนปืนมาคืนให้กับสมาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
“ต่อไปทุกอย่างจะต้องเข้าสู่ระบบที่ถูกต้องลูกกระสุนปืนต้องมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบที่มา ที่ไปได้ตลอด ควรเลิกเสียที กับการที่รู้เห็นเป็นใจกับบุคคลภายนอกที่นำลูกกระสุนปืน และเป้าซ้อม มาทำการฝากขาย มันทำให้มองว่าเกิดความทุเรศจนรับไม่ได้ ดังนั้นเพื่อลบคำครหาของผู้ที่เพ่งเล็งการบริหารงานสมาคมกีฬายิงปืนในแง่ลบ จึงจำเป็นต้องทำทุกวิถีทางเพื่อสกัดกั้นพวกที่เห็นแก่ได้ในสมาคมกีฬายิงปืนให้หมดไปอย่างเร็วที่สุด”
หาก สกล วรรณพงษ์ ที่รู้ตื้นลึกหนาบางของวงการยิงปืนไทยเป็นอย่างดีเกาถูกที่คัน แก้ปัญหาอย่างถูกจุด โดยเฉพาะเรื่องกระสุนปืน ทั้งบนดิน และใต้ดินที่เป็นต้นเหตุของปัญหามาโดยตลอด ยิงปืนไทยคงกลับมาสู่เกรด A ของวงการกีฬาไทยได้ไม่ยาก
ต้องจับตาดูฝีมือระดับ สกล วรรณพงษ์ ว่าจะนำพาวงการยิงปืนไทยหลุดพ้นออกจากแดนสนธยาได้หรือไม่…???
