‘บุนเดสลีก้า เยอรมนี’ ฟุตบอลที่ไม่อ่อนข้อให้โควิด-19
ฟุตบอล บุนเดสลีก้า เยอรมนี เป็นลีกแรกของยุโรปที่ไม่ตัดจบและกลับมาแข่งขันจนจบฤดูกาล ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
บาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์ไปตามคาด แต่ก็ต้องฉลองกันแบบไม่มีแฟนบอลในสนาม ถือเป็นฟุตบอลแบบนิว นอร์มอล อย่างแท้จริง ซึ่งการแข่งขันในช่วงเดือนกว่าๆ ผ่านไปได้ด้วยดี จนกลายเป็นแปลนเขียวให้ลีกอื่นๆ เอาไปปรับใช้ให้เหมาะสมประเทศตัวเอง
หลังจากที่ประกาศเบรกการแข่งขันไปเมื่อวันที่ 13 มีนาคม บุนเดสลีก้าก็เตรียมพร้อมที่รีสตาร์ทกลับมาแข่งขันทันที ด้วยการเตรียมมาตรการต่างๆ ในการแข่งขันและฝึกซ้อม คาดกันว่ามีการตรวจหาเชื้อในนักเตะ เจ้าหน้าที่และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใน 2 ลีกสูงสุดรวมแล้ว 25,000 ตัวอย่าง ซึ่งก็ถูกวิจารณ์หนักเช่นกันว่าไม่ควรเสียอุปกรณ์การตรวจเชื้อไปกับคนที่ไม่ความเสี่ยง เพราะมีคนในประเทศอีกมากที่ต้องการใช้มัน หลังจากนั้นบุนเดสลีก้าก็หยุดรายงานจำนวนคนที่ผ่านการตรวจและเปิดเผยเพียงผู้ที่ติดเชื้อเท่านั้น
ถ้านับตลอดช่วงของการแข่งขัน มีเพียง เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ กองหน้า แวร์เดอร์ เบรเมน คนเดียวที่ต้องถูกกักตัว เพราะพบว่าลูกสาวของเขาติดเชื้อ แต่สุดท้ายแล้วปิซาร์โร่ไม่ได้มีเชื้อแต่อย่างใด
มีการพูดกันถึงเรื่องอาการเจ็บที่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะมีแมตช์เตะที่ถี่มากๆ รวมทั้งนักเตะจำนวนมากไม่ฟิตเท่าที่ควร เนื่องจากต้องหยุดซ้อมอย่างเข้มข้นไปหลายเดือน อย่างไรก็ตามในประเด็นนี้ บุนเดสลีก้าเริ่มให้นักเตะกลับมาซ้อมแบบเว้นระยะห่างทางสังคมก่อนประเทศอื่นๆ ค่อนข้างนาน ก่อนจะปรับให้มาซ้อมร่วมกลุ่มได้ในเวลาหลังจากนั้นไม่นาน ถ้ามองอีกแง่หนึ่ง นักเตะหลายคนหายจากอาการเจ็บในช่วงเบรกยาว จนสามารถกลับมาลงเล่นได้อย่างเต็มที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, คิงสเลย์ โคมัน สองนักเตะบาเยิร์นได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้ และกลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ยิงไป 9 ประตู จาก 8 นัดที่กลับมาลงสนาม
อีกเหตุผลที่ทำให้บุนเดสลีก้าประสบความสำเร็จในการรีสตาร์ต คือ การที่แฟนบอลไม่ดึงดันที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมบริเวณรอบสนาม อย่างในดาร์บี้แมตช์ระหว่าง ดอร์ทมุนด์ กับ ชาลเก้ ที่เป็นเกมใหญ่ มีแฟนเจ้าถิ่นจำนวนหนึ่งไปวนเวียนอยู่แถวสนามในช่วงเตะ แต่สักพักก็กลับบ้านไปหมด แม้แต่การฉลองแชมป์ของบาเยิร์นก็ไม่มีแฟนบอลมาแห่อะไรกันหน้าสนาม ต่างกับการที่ ลิเวอร์พูล การันตีแชมป์พรีเมียร์ลีก ในอังกฤษ มีแฟนบอลมาฉลองตามท้องถนนเป็นจำนวนมาก
คริสเตียน ไซเฟิร์ต ซีอีโอของบุนเดสลีก้า กล่าวว่า การกลับมาแข่งเป็นลีกแรกในยุโรปถือเป็นความเสี่ยงอย่างมหาศาลของวงการฟุตบอลเยอรมนี เพราะขนาดสนามเด็กเล่นยังปิด แล้วทำไมฟุตบอลถึงกลับมาแข่งได้ ซึ่งต้องบอกว่าสโมสรใหญ่ๆ ต่างให้ความร่วมมืออย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นบาเยิร์นหรือดอร์ทมุนด์ รวมทั้งสโมสรอื่นๆ ด้วย เมื่อได้รับแรงหนุนที่ดี ทำให้มีพลังมากพอในการไปหารือกับนักการเมืองในประเทศ เพื่อยืนยันว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี
“มันไม่ใช่บุนเดสลีก้าที่ทุกคนต้องการ แต่มันก็เป็นบุนเดสลีก้าที่เป็นไปได้ที่สุดในช่วงนี้ ถ้าเราไม่กลับมาแข่งในช่วงเวลาที่คุยกันไว้ มีโอกาสสูงมากที่สโมสร 10-15 แห่งจะเป็นหนี้และล้มลายในไม่ช้า” ไซเฟิร์ตกล่าว
ดูเหมือนว่าตอนนี้การแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพทั่วโลกที่กลับมาเตะ ดำเนินไปอย่างปลอดภัย ถึงแม้จะไม่สนุกเหมือนวันก่อน แต่มันก็ดีกว่าการไม่มีฟุตบอลฟาดแข้งกันเลย
ที่เหลือก็ต้องลุ้นว่า ฤดูกาลหน้าวงการลูกหนังจะฝ่าฟันโควิด-19 ไปจัดแข่งขันกันในรูปแบบไหนอีก
