คอลัมน์เกรียนเขียนบอล : งานยากจากความเยี่ยม
บาเยิร์น มิวนิค ครองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 6 ได้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการเฉือนชนะ ปารีส แซงต์แชร์แมง 1-0 ถือเป็นการคว้าทริปเปิลแชมป์ หรือ 3 แชมป์ ทั้ง บุนเดสลีก้า, เดเอฟเบ โพคาล, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งถือเป็นสมัยที่ 2 ที่ทำได้ หลังจากเคยทำมาแล้วเมื่อฤดูกาล 2012-2013
เครดิตของความสำเร็จครั้งนี้ต้องยกให้ ฮานซี่ ฟลิค กุนซือทีมเสือใต้ที่เพิ่งเข้ามาอยู่กับทีมไม่นาน แต่สามารถเปลี่ยนทีมจากที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ เป็นยอดทีมที่แพ้ไม่เป็นไปแล้ว
ฟลิคเริ่มต้นได้อย่างดุดัน 4 นัดแรกกับบาเยิร์น ชนะรวด 4 นัด ยิง 16 ประตู ไม่เสียแม้แต่ลูกเดียว ทำให้ช่วงเวลาอันมืดมนของทีมเสือใต้ดูมีแสงสว่างขึ้นมาบ้าง แต่หลังจากนั้นแพ้ทั้ง เลเวอร์คูเซ่น และ กลัดบัก ทีมหัวตารางทั้งคู่ ทำให้แฟนบอลกลับมาไม่ค่อยแฮปปี้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม ปีที่แล้ว จนถึงชัยชนะที่เอสตาดิโอ ดา ลุซ เหนือเปแอสเช สถิติการคุมทีมของฟลิค 30 แมตช์ ชนะ 29 และแพ้เพียงแมตช์เดียว ด้วยการแพ้ เนิร์นแบร์ก 2-5
แนวทางการปลุกผีของฟลิค คือ การผสมผสานดาวรุ่งทั้ง คิงสเลย์ โกมัน, โจชัว คิมมิช, อัลฟอนโซ่ เดวี่ส์ เข้ากับรุ่นเก๋าอย่าง โธมัส มุลเลอร์, มานูเอล นอยเออร์, เฌอโรม บัวเต็ง เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ที่สำคัญ คือ ไม่ว่าจะเด็กหรืออายุมาก เขาให้ความเชื่อมั่นว่าลูกทีมของตัวเองจะทำผลงานได้ดี
ผลงานที่สร้างไว้ในฤดูกาลนี้ดูจะเป็นการสร้างความคาดหวังที่มากขึ้นให้กับบอลเสือใต้เอง เพราะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่ว่าแน่ๆ ยังไม่เคยทำได้ขนาดนี้ ดังนั้นเมื่อฟลิคมาแค่ไม่กี่เดือนยังไปได้ไกลขนาดนี้ โอกาสที่แฟนบอลอยากเห็นทีมป้องกันแชมป์ทุกรายการแบบไร้พ่าย ก็เป็นหนึ่งในเป้าหมาย
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กลายเป็นกองหน้าที่ยิงประตูได้มากที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ของยุโร รวมทุกรายที่ 55 ประตู เหนือกว่า ลิโอเนล เมสซี่ 31 ประตู, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 37 ประตู, ชิโร่ อิมโมบิเล่ 39 ประตู นับเป็นปีที่ดีที่สุดในชีวิตการค้าแข้งของเลวาน ซึ่งนอกจากฟลิคและเหล่านักเตะที่ได้รับคำชมนี้จะต้องรักษามาตรฐานของตัวเองในฤดูกาลหน้าให้ได้แล้ว เลวานก็ต้องยิงประตูให้ได้ในระดับเดียวกับซีซั่นนี้ เพื่อจะก้าวไปเป็นนักเตะเบอร์หนึ่งของโลกแทนที่เมสซี่-โรนัลโด้ที่ครองโลกลูกหนังมานาน
เรียกได้ว่างานยากของบาเยิร์นรอพวกเขาอยู่อีกเยอะทีเดียว
