ก่อนการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ จะมีข่าวเรื่องการเตรียมถุงยางอนามัยเพื่อให้บริการนักกีฬากว่าหมื่นคนที่มาแข่งขัน และใช้ชีวิตในหมู่บ้านนักกีฬาทุกครั้ง
สำหรับ รีโอเกมส์ มีการเตรียมถุงยางอนามัยไว้ 450,000 ชิ้น สำหรับนักกีฬา 10,500 คน หรือเฉลี่ย 42 คนต่อชิ้น! แล้วความเริงรมย์หลังรั้วปิดของหมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิกมันเป็นอย่างไร หลายคนคงอยากรู้
มีการเปิดเผยจากแหล่งข่าววงในที่พักในหมู่บ้านนักกีฬาว่า นักกีฬาส่วนใหญ่จะรอให้ตัวเองแข่งขันเสร็จก่อนจะเริ่มปฏิบัติการเสียวกับนักกีฬาที่ถูกตาต้องใจกัน หรือบางคนอาจจะเดินหน้าตั้งแต่ช่วงมาถึงใหม่ๆ เพราะมองว่าการได้จุ๊กกรู้กับใครสักหนึ่ง สอง สาม สี่คน เป็นการเพิ่มศักยภาพในการฝึกซ้อมและแข่งขันของตัวเอง
ถ้าเป็นสมัยก่อน การจะหาคู่นอนก็คงต้องเป็นการเจอกันอยู่บ่อยๆ หรือระดับนักกีฬาซุปเปอร์สตาร์หนุ่มๆ น่าจะมีสาวๆ มาคอยส่งยิ้มหวานให้อยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะเลือกทำกับคนไหน และทำหรือไม่ทำมากกว่า แต่ในปี 2016 ที่เป็นยุคดิจิตอลเฟื่องฟูขนาดนี้ การเปิดแอพพลิเคชั่นหาคู่ก็เป็นอีกวิธีทางหนึ่งที่ทำให้ได้มีการปฏิสนธิ เอ้ย..ปฏิสัมพันธ์ไวและง่ายกว่ามาก
สำหรับนักกีฬาจากชาติเล็กๆ ที่อาจจะไม่มีสมาร์ทโฟนก็ไม่มีปัญหา เพราะ ซัมซุง ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ประจำการแข่งขัน ใจดีแจกซัมซุง กาแล็กซี่ เอส 7 เอดจ์ โอลิมปิก อีดิชั่น ให้กับนักกีฬาทั้ง 10,500 คนอยู่แล้ว
เมื่ออุปกรณ์หาคู่และป้องกันตัวพร้อมขนาดนี้ ที่เหลือก็เป็นความสามารถส่วนบุคคลกันแล้ว
แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้บอกอีกว่า ถึงแม้เรื่องเริงรักในหมู่บ้านนักกีฬาจะเป็นเรื่องที่แพร่หลายในนักกีฬาจำนวนหนึ่ง แต่จำนวนมากก็มีการป้องกันด้วยการใช้ถุงยางอนามัย เพราะไม่ใช่แค่ป้องกันเชื้อเอชไอวีและการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจเท่านั้น แต่ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส ซิกา ที่กำลังเป็นเรื่องน่าห่วงของบราซิลในตอนนี้
การมีเซ็กซ์ในหมู่บ้านนักกีฬา ถ้ามองตามความเป็นไทยก็ดูเป็นเรื่องที่ไม่ดี แต่ถ้าพิจารณาตามความเป็นจริงของมนุษย์แล้ว การถูกตาต้องใจในเรื่องเพศของคนเราไม่ใช่เรื่องแปลกและเกิดขึ้นได้ทุกที่ และจะไม่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง ถ้าทำมันในสถานที่และวันเวลาที่เหมาะสม
สำหรับโอลิมปิกเกมส์ นักกีฬาเกือบทั้งหมดมาเพื่อสัมผัสความยิ่งใหญ่ของกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ จำนวนมากมาเพื่อล่าเหรียญรางวัลและความสำเร็จให้กับตัวเอง น้อยคนที่จะเอาเรื่องเซ็กซ์นำทางมาสู่โอลิมปิกเกมส์
ห้องน้ำในศูนย์สื่อมวลชนก็มีตู้แจกถุงยางอนามัยกันแบบฟรีๆ แต่เมื่อไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้กับใคร การหยิบติดมือไปเป็นของฝากเพื่อนๆ น่าจะดีกว่า แถมยังประหยัดเงินซื้อของฝากอย่างอื่นด้วย..ฮิฮิ
