อำลา’โบลต์-เฟลป์ส’ ตำนาน’อมตะ’แห่งโอลิมปิกเกมส์

โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่นครรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล มาถึงช่วงส่งท้าย ท่ามกลางผลงานและความสำเร็จมากมาย ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ซุปเปอร์สตาร์ที่ถูกเอ่ยถึง (ทางด้านบวก) มากที่สุดย่อมไม่พ้น 2 ยอดนักกีฬาจากต่างวงการอย่าง ยูเซน โบลต์ ลมกรดชาวจาเมกา และ ไมเคิลป์ เฟลป์ส ฉลามหนุ่มชาวอเมริกัน

…เช่นเดียวกับโอลิมปิกเกมส์ทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา และด้วยเหตุผลแบบเดียวกัน!

กรณีของเฟลป์ส ตัดสินใจหวนคืนสระอีกครั้งเมื่อปี 2014 หลังประกาศลาวงการเมื่อจบโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยเจ้าตัวออกมายอมรับในภายหลังว่า เหตุผลหลักที่คัมแบ๊กครั้งนี้ก็เพื่อสะสางเรื่อง “คาใจ” จากที่เคยพลาดได้เหรีญเงินในประเภทถนัด ผีเสื้อ 200 เมตร ให้กับคู่ปรับสำคัญ แชด เล คลอส ของแอฟริกาใต้

ก่อนรีโอเกมส์เปิดฉาก เฟลป์สอยู่ในฐานะนักกีฬาที่คว้าเหรียญรางวัลจากโอลิมปิกเกมส์สูงที่สุด ทั้งจำนวนเหรียญทอง (18 เหรียญ) และเหรียญรวม (22 เหรียญ) มาโอลิมปิกเที่ยวนี้ เขาร่วมแข่งขัน 6 ประเภท แบ่งเป็นว่ายเดี่ยว 3 ประเภท (ผีเสื้อ 100, 200 เมตร และเดี่ยวผสม 200 เมตร) และว่ายผลัดอีก 3 ประเภท (ผลัดฟรีสไตล์ 4×100 และ 4×200 เมตร กับผลัดผสม 4×100 เมตร) สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักว่ายน้ำชายคนแรกของสหรัฐที่ร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ถึง 5 สมัย

Advertisement

อันที่จริงก่อนแข่ง แฟนๆ และสื่อยังไม่กล้าฟันธงว่าเฟลป์สจะทำได้ดีขนาดไหน เพราะเพิ่งกลับมาซ้อมจริงจังได้ 2-3 ปี แถมยังไม่ได้เห็นฝีมือแบบเต็มๆ ในการแข่งขันว่ายน้ำชิงแชมป์โลกที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย เมื่อปีที่แล้ว เพราะเจ้าตัวโดนลงโทษแบนหลังถูกจับฐานเมาแล้วขับเป็นครั้งที่ 2

แต่คุณพ่อมือใหม่วัย 31 ปีก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง โกยเหรียญทองจากสระรีโอเกมส์ได้ถึง 5 เหรียญ ในจำนวนนี้คือการล้างแค้นแชด เล คลอส ทวงเหรียญทองจากประเภทผีเสื้อ 200 เมตร คืนมาได้สมความตั้งใจ

แม้จะกร่อยไปเล็กๆ ในประเภทผีเสื้อ 100 เมตร ที่ตัวเองเป็นแชมป์เก่า 3 สมัยซ้อน แถมยังเป็นอีเวนต์เดี่ยวในโอลิมปิกเกมส์หนสุดท้าย เมื่อเสียแชมป์ให้ โจเซฟ สคูลลิ่ง ฉลามหนุ่มชาวสิงคโปร์ แต่ก็ยังมีความทรงจำดีๆ กับการครองเหรียญเงินร่วมกับคู่แข่งร่วมยุคเดียวกันอย่างแชด เล คลอส และ ลาซโล่ เชห์ ของฮังการี

Advertisement

เท่ากับว่าโอลิมปิกเกมส์หนนี้ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าจะเป็นหนสุดท้ายจริงๆ แล้ว เฟลป์สเก็บเพิ่มอีก 5 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ทำให้สถิติรวมการร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 5 สมัยของเขาอยู่ที่ 23 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง คิดเป็นเหรียญรวม 28 เหรียญ ถือเป็นตัวเลขน่าเกรงขามที่ไม่น่าจะมีใครทำลายลงได้ในเวลาอันใกล้

เท่านั้นไม่พอ มีคนอธิบายให้เห็นภาพชัดเจนว่าผลงานของเขายิ่งใหญ่ขนาดไหน ด้วยการเปรียบเทียบว่า เฟลป์สคว้าเหรียญทองได้มากกว่านักกีฬาทีมชาติ 90 ประเทศเคยทำได้ตลอดประวัติศาสตร์การร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์เสียอีก และถ้าวัดเฉพาะกีฬาว่ายน้ำอย่างเดียว 23 เหรียญทองของเขาก็เหนือกว่าประเทศใหญ่ๆ มากมาย อาทิ ญี่ปุ่น (22 เหรียญ), เนเธอร์แลนด์และเยอรมนี (19), สหราชอาณาจักร (16) และสหภาพโซเวียต (12)

…ขณะที่ครึ่งแรกของโอลิมปิกเกมส์คือเรื่องของไมเคิล เฟลป์ส กับสถิติสุดยอดที่จะอยู่ยงคงกระพันไปอีกนาน ครึ่งหลังของรีโอเกมส์คือเรื่องราวหลากสีสันของยูเซน โบลต์ ยอดลมกรดชาวจาเมกา กับภารกิจล่า 3 เหรียญทองวิ่งระยะสั้นที่เขาเคยเป็นแชมป์เก่า 2 สมัยซ้อน

เมื่อเทียบกับเฟลป์ส ต้องถือว่าความคาดหวังที่โบลต์ต้องแบกไว้นั้นมากมายมหาศาลกว่ามาก เนื่องจากนักวิ่งดังวัย 29 ปี พกดีกรีติดตัวมากมาย แถมยังเป็นนักกีฬาขวัญใจมหาชนด้วยบุคลิกเฮฮาปาร์ตี้และเป็นกันเองของเขา แต่ก่อนแข่งสภาพร่างกายของโบลต์ไม่ฟิตเท่าที่ควร จึงเกิดคำถามและโดนจับตามองจากแฟนกีฬามากมาย

ซึ่งโบลต์ไม่ทำให้ผิดหวัง กวาดแชมป์ทั้งวิ่ง 100, 200 เมตร และวิ่งผลัด 4×100 เมตร ทำสถิติ “ทริปเปิล-ทริปเปิล” หรือ 3 แชมป์ 3 สมัย ได้อย่างยิ่งใหญ่ กลายเป็นนักกรีฑาคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่คว้า 9 เหรียญทองจากโอลิมปิกเกมส์ ต่อจาก คาร์ล ลูอิส ตำนานนักวิ่งชาวอเมริกัน และ พาโว นูร์มี่ นักวิ่งระยะกลางและระยะไกลชาวฟินแลนด์ แต่เป็นลมกรดคนแรกที่คว้าเหรียญทองวิ่ง 100 เมตรชายได้ถึง 3 สมัย

สมกับที่เคยประกาศไว้ก่อนแข่งว่าจะจารึกชื่อตัวเองให้เป็น “อมตะ” คู่กับประวัติศาสตร์โอลิมปิกเกมส์ไปอีกนานเท่านาน

ชัยชนะของโบลต์เที่ยวนี้อาจจะไม่ได้ทำสถิติโลกใหม่ แต่ยืนยันความเหนือชั้นของเขาด้วยการทิ้งห่างคู่แข่งเข้าเส้นชัยทั้งในการแข่งขันวิ่ง 200 เมตร และวิ่งผลัด 4×100 เมตร รวมถึงการสปีดแซงเข้าเส้นชัยทั้งที่ออกสตาร์ตแย่ในการวิ่ง 100 เมตร

โดยช็อตหันมายิ้มขณะลิ่วนำเข้าเส้นชัยในการแข่งขันรอบคัดเลือกได้กลายเป็น “มีม” (meme) หรือภาพฮิตที่ชาวเน็ตพากันตัดต่อใส่มุขตลกเข้าไปมากที่สุดภาพหนึ่งจากรีโอเกมส์หนนี้

นอกจากจะทำให้ทุกคนทึ่งด้วยผลงานในสนามแล้ว โบลต์ยังชนะใจแฟนๆ ด้วยความเป็นกันเองของเขาอีกเช่นเคย ทั้งเข้าไปแสดงความยินดีกับเพื่อนนักกีฬาด้วยกัน อาทิ เวย์ด ฟาน เนียเคิร์ก นักวิ่งชาวแอฟริกาใต้ผู้ทำลายสถิติโลกวิ่ง 400 เมตร ที่ยืนยงมา 17 ปี (มีคลิปเบื้องหลังขณะโบลต์ออกอาการช็อกขณะชมการแข่งขันประเภทนี้สดๆ ด้วย) รวมทั้งสาวๆ นักกีฬาสัตกรีฑาที่รับเหรียญก่อนหน้าเขา

ที่สำคัญคือ การเข้าไปถ่ายเซลฟี่กับแฟนๆ แบบถึงเนื้อถึงตัว ซึ่งยืนยันสถานะ “ขวัญใจมหาชน” ของเขาได้อีกครั้ง

นับเป็นโชคดีของแฟนกีฬายุคนี้ที่มีโอกาสได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของทั้งเฟลป์สและโบลต์ในช่วงเวลาเดียวกัน และไม่รู้ต้องรออีกนานเท่าไรจึงจะมีเฟลป์สหรือโบลต์คนใหม่ให้เราได้ชื่นชมกันอีกครั้ง

ไม่ก็อาจจะมีตำนานบทใหม่เกิดขึ้นในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็เป็นได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image