‘เฟร็ด’ ร่างทอง บทบาทใหม่ภายใต้กุนซือ ‘ราล์ฟ รังนิค’

Reuters

‘เฟร็ด’ ร่างทอง บทบาทใหม่ภายใต้กุนซือ ‘ราล์ฟ รังนิค’

เฟร็ด กองกลางบราซิลเลียนวัย 28 ปีของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ กับต้นสังกัด หลังจากที่ ราล์ฟ รังนิค ได้มอบบทบาทใหม่ให้

แม้ว่าผลงานในช่วงต้นฤดูกาลของเฟร็ดถือว่าค่อนข้างย่ำแย่ ถูกปีกของทีมตรงข้ามเผาเป็นว่าเล่น ก่อความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้ทีมเสียประตู และผลงานของแมนฯยูในช่วงนั้นก็ดร็อปลงทั้งทีม ทำให้เฟร็ดเป็นคนแรกๆ ที่ถูกแฟนบอลด่าทอล้อว่าเป็นบราซิลเสิ่นเจิ้น แต่ปัจจุบันเฟร็ดก็ได้พิสูจน์ตัวเองและกลบเสียงวิจารณ์ด้วยผลงานในสนาม

เฟร็ดเริ่มมีบทบาทสำคัญกับทีมมากขึ้น เมื่อเปลี่ยนผู้จัดการทีมจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ที่โดนปลดในเดือนพฤศจิกายนมาเป็นราล์ฟ รังนิค และตอนนี้ดูเหมือนเฟร็ดจะทำให้แฟนบอลหลายคนประทับใจมากขึ้น

Reuters

15 นัดนับตั้งแต่ที่รังนิคเข้ามากุมบังเหียน สถิติฟ้องว่าแมนฯยูมีอัตราการชนะ 59 เปอร์เซ็นต์ เมื่อมีเฟร็ดลงสนาม ซึ่งหากนำมาเทียบกับตอนที่ไม่มีเฟร็ด แมนฯยูมีอันตราการชนะเพียงแค่ 25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แถมยังไม่แพ้ใครเลยหากเฟร็ดลงเป็นตัวจริง 11 นัดหลังสุด

Advertisement

สถิติการเล่นเกมรุกของเฟร็ดในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ในยุคของโซลชาร์ ปรากฏว่า เฟร็ดผ่านบอลเข้าสู่กรอบเขตโทษของคู่แข่งได้ 0.6 ครั้งต่อเกม, เข้าไปในพื้นที่สุดท้าย 6.6 ครั้งต่อเกม, ผ่านบอลในพื้นที่สุดท้าย 14.3 ครั้งต่อเกม, สร้างโอกาสการทำประตู 0.8 ครั้งต่อเกม และยิง 0.5 ครั้งต่อเกม

แต่พอมาในยุคของรังนิค สถิติเกมรุกของเฟร็ดก็ดีขึ้น และมีส่วนร่วมอย่างเห็นได้ชัด ผ่านบอลเข้าสู่กรอบเขตโทษของคู่แข่ง 1.2 ครั้งต่อเกม, เข้าไปในพื้นที่สุดท้าย 8 ครั้งต่อเกม, ผ่านบอลในพื้นที่สุดท้าย 16.6 ครั้งต่อเกม, สร้างโอกาสการทำประตู 1.6 ครั้งต่อเกม และยิง 0.9 ครั้งต่อเกม

ตอนนี้เฟร็ดทำผลงานได้ดีขึ้นอย่างมาก 10 นัดหลังสุด เขาทำประตูและแอสซิสต์ได้มากกว่าลงเล่น 85 นัดก่อนหน้านี้เสียอีก โดยประตูชัยที่เฟร็ดเป็นคนยิงให้ทีมชนะคริลตัส พาเลซ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เป็นประตูที่ทำให้ใครหลายคนตกตะลึง เนื่องจากเฟร็ดยิงด้วยเท้าข้างที่ไม่ถนัด แต่บอลก็เข้าประตูไปได้แบบสุดสวย

Advertisement

แถมการเปิดบอลให้ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ขึ้นโขกตุงตาข่ายเป็นประตูชัยในเกมที่พบกับแอสตัน วิลล่า ในศึกเอฟเอ คัพ และการแอสซิสต์สุดสวยให้ แอนโธนี่ อีแลนก้า ยิงขึ้นนำแบรนต์ฟอร์ด เป็นสิ่งที่แฟนบอลแมนฯยูต่างประหลาดใจ เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน

(AP Photo/Jon Super)

เห็นได้ชัดว่าเฟร็ดกำลังเพลิดเพลินกับตำแหน่งใหม่ของเจ้าตัว แต่ตัวของเฟร็ดเองนั้นก็พร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ทีมคว้าชัยชนะ การเล่นเกมรับก็ยังเป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบอยู่เช่นเคย

โดยเฟร็ดได้ให้สัมภาษณ์ว่า ชอบลงเล่นในตำแหน่งใหม่ที่เล่นบริเวณใกล้ปากประตูของคู่แข่งเป็นอย่างมาก โค้ชคนใหม่อย่างรังนิคได้เข้ามาเปลี่ยนจุดนี้ ซึ่งทำให้มีความสุขมากๆ แต่ถ้าหากโค้ชต้องการให้ลงไปเล่นเกมรับก็พร้อม และยินดีที่จะทำตามคำสั่งเช่นกัน สิ่งที่ต้องการก็คือช่วยเหลือทีมให้ได้มากที่สุด

แม้ว่าสถิติเกมรุกของเฟร็ดจะดีขึ้น แต่สถิติเกมรับของเฟร็ดก็ยังโดดเด่นเช่นเคย โดยเฟร็ดเข้าปะทะ 53 ครั้ง (อันดับ 1 ของทีม), แย่งบอลกลับมาครอง 139 ครั้ง (อันดับ 1 ของทีม), ขัดขวางการส่งบอล 20 ครั้ง (อันดับ 2 ของทีม), ดวลชนะ 99 ครั้ง (อันดับ 2 ของทีม), ครองบอลสำเร็จในแดนคู่แข่ง 72 ครั้ง (อันดับ 1 ของทีม)

(AP Photo/Rui Vieira)

เฟร็ด กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่รังนิคได้เข้ามาที่สโมสรแห่งนี้ เขาบอกกับตนว่า ต้องการให้ทำสุดความสามารถ รู้ถึงพลังงาน และคุณภาพที่ตนมี แม้จะเป็นผลลัพธ์ที่ดีบ้าง ไม่ดีบ้างในเกมที่ผ่านๆ มา ฉะนั้นจึงตั้งใจฝึกซ้อม และพิสูจน์ตัวเองต่อไป และอยากบอกกับแฟนๆ ว่า ตนมุ่งมั่นเต็มที่ให้กับสโมสรนี้ 100 เปอร์เซ็นต์ และไม่มีความตั้งใจที่จะจากที่แห่งนี้เลยแม้แต่นิดเดียว

เฟร็ด กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า แมนฯยูมีผู้เล่นคุณภาพมากมายในตำแหน่งกองกลาง และทุกคนส่งเสริมซึ่งกันและกัน ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ในสนาม พวกเขาจะพยายามอย่างเต็มที่ สิ่งที่สำคัญที่สุดของเราก็คือถ้วยแชมป์ ตอนนี้ทีมยังอยู่ในเส้นทางของแชมป์เปี้ยนส์ลีก และจะพยายามทำผลงานเพื่อให้จบอันดับที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก

สิ่งที่สำคัญก็คือการทำให้ห้องแต่งตัวคึกครื้นด้วยการนำความสนุก และพลังงานที่ดีเข้ามาสู่ห้องแต่งตัว ผู้เล่นบางคนอาจจะหงุดหงิด และรำคาญในบางครั้ง ดังนั้นจึงต้องสร้างบรรยากาศที่ดี และทำสิ่งต่างๆ ให้มีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเพลง หรืออะไรก็ตาม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image