ฟุตบอลโลก 2022 กับฝันร้ายซ้ำสองของอัซซูรี่

(AP Photo/Antonio Calanni)

ฟุตบอลโลก 2022 กับฝันร้ายซ้ำสองของอัซซูรี่

ทีมชาติ อิตาลี หมดสิทธิเข้าแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังแพ้ให้กับทีมชาติ นอร์ธ มาซิโดเนีย 0-1 ในศึกคัดฟุตบอลโลก 2022 โซนยุโรป เพลย์ออฟ รอบรองชนะเลิศของกลุ่มซี ทำให้เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันที่ “ทัพอัซซูรี่” ไม่ได้เข้าไปโลดแล่นในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ต่อจากปี 2018

ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2018 อิตาลีภายใต้การคุมทัพของ จาน ปิเอโร่ เวนตูร่า คุมทีมลงแข่งใน ฟุตบอลโลก 2018 โซนยุโรป รอบคัดเลือก กลุ่มจี 10 นัด ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 เก็บได้ 23 แต้ม แต่จบอันดับที่ 2 ของกลุ่ม เป็นรองทีมชาติสเปนอยู่ 5 แต้ม ยังมีโอกาสไปลุ้นในรอบเพลย์ออฟ ซึ่งจะไปพบกับทีมชาติ สวีเดน

อิตาลีกับความผิดหวังเมื่อปี 2018 (Reuters)

การแข่งขันรอบเพลย์ออฟเมื่อปี 2018 จะทำการแข่งกันระบบเหย้า-เยือน 2 นัด โดยทีมสวีเดนชนะไปก่อนในนัดแรก 1-0 ส่วนในนัดที่สอง เสมอกัน 0-0 สกอร์รวม 2 นัด อิตาลีแพ้ 0-1 ทำให้ชวดลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งแรกตั้งแต่ปี 1958 ซึ่งเป็นตัวเลขกว่า 60 ปีเต็ม

ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา สหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี ก็ได้ประกาศแยกทางกับเวนตูร่า สังเวยผลงานอันย่ำแย่ที่ได้สร้างเอาไว้ แม้ว่าผลงานของอิตาลีภายใต้การคุมทัพของอดีตกุนซือโตริโน่ จะดูดีสุดในรอบ 40 ปี จากการแพ้เพียงแค่ 2 นัด ในรอบ 2 ปี แต่ทรงบอล และวิธีการเล่นของทีมในระยะหลัง เรียกได้ว่าออกทะเลแบบไม่กลับฝั่ง

Advertisement

ในเกมพบกับสวีเดนนัดที่ 2 เวนตูร่าควรจะสั่งลูกทีมเปิดเกมรุกใส่ ยิงประตูกลับมากุมความได้เปรียบให้ได้เร็วที่สุด แถมเล่นในบ้านของตัวเองด้วย น่าจะสร้างความกดดันให้คู่แข่งมากพอสมควร แต่เวนตูร่าก็ยังจัดตัวแบบกล้าๆ กลัวๆ เล่นเพลย์เซฟ เคาะบอลไปมา ไม่รีบร้อน จนกระทั่งเวลาใกล้หมดถึงจะมาเร่งสปีดของเกม แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว

(Photo by Alberto PIZZOLI / AFP)

จนกระทั่งแต่งตั้ง โรแบร์โต้ มันชินี่ อดีตผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้ามานั่งเก้าอี้กุนซือ ซึ่งผลงานของทีมก็ดีขึ้นทันตาเห็น มันโช่เข้ามาเปลี่ยนทัพอัซซูรี่ จากทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องเกมรับ กลายเป็นทีมที่มีเกมบุกสุดมัน จากผลงานเถลิงบัลลงก์แชมป์ ยูโร 2020 หลังชนะจุดโทษทีมชาติอังกฤษไปด้วยสกอร์ 3-2 และไม่เคยพลาดท่าแพ้ใครแม้แต่นัดเดียวตลอดทัวร์นาเมนต์

ส่วนผลงานในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่มซี อิตาลีแข่ง 8 นัด ชนะ 4 เสมอ 4 ยิง 13 ประตู เสียแค่ 2 ประตู เก็บ 16 คะแนน เป็นรอง สวิตเซอร์แลนด์ จ่าฝูงของกลุ่ม 2 แต้ม โดยอิตาลีมีโอกาสทองที่สามารถหักด่านสวิส คว้าตั๋วไปโลดแล่นในฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายไปแบบไม่ต้องเหนื่อยต่อในรอบเพลย์ออฟ จากการยิงจุดโทษในนาทีสุดท้ายในเกมที่ทั้งคู่เจอกัน แต่ จอร์จินโญ่ มิดฟิลด์ของเชลซี ซัดจุดโทษข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย จบเกมเสมอกัน 1-1 ทำให้ต้องมาแข่งในรอบเพลย์ออฟกับทีมชาตินอร์ธ มาซิโดเนีย

Advertisement
REUTERS/Guglielmo Mangiapane

โดยอัซซูรี่มีโอกาสยิงถึง 32 ครั้งในเกมที่พบกับนอร์ธ มาซิโดเนีย แต่ยิงตรงกรอบแค่ 5 ครั้งเท่านั้นเอง นอกนั้นไม่ตรงกรอบ 11 ครั้ง และยิงติดบล็อกถึง 16 ครั้ง ขณะที่ “ทัพแมวป่า” มีโอกาสยิงทั้งเกมเพียงแค่ 4 ครั้ง ตรงกรอบ 2 ครั้ง แต่สามารถเปลี่ยนเป็น 1 ประตู ซึ่งปัญหาของอิตาลีที่เห็นได้ชัดเลยก็คือจังหวะสร้างสรรค์โอกาส และจังหวะจบสกอร์ที่ไม่คมพอ อาจเป็นเพราะ เฟเดริโก้ เคียซ่า ตัวรุกจากยูเวนตุสบาดเจ็บ

ทำให้ทัพอัซซูรี่ชวดไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2 ครั้งติดต่อกัน และทำสถิติเป็นทีมแรกที่เป็นแชมป์ยูโร และไม่ได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ต่อจากกรีซ เมื่อปี 2006

จากการแพ้ในรอบเพลย์ออฟ ทำให้ย้อนนึกถึงเกมที่จอร์จินโญ่พลาดจุดโทษ ซึ่งถ้าหากเกมนั้นมิดฟิลด์เชลซี ส่งบอลเข้าไปซุกใต้ตาข่าย คงจะเข้ารอบไปเป็นที่เรียบร้อย

REUTERS/Guglielmo Mangiapane

ทั้งนี้อิตาลีไม่ใช่ทีมใหญ่ทีมแรกที่ตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2 ครั้งติด ก่อนหน้านี้เคยมีทีมชาติสเปน ในปี 1954-1958 รวมทั้ง 1970-1974, ทีมชาติฝรั่งเศสระหว่างปี 1970-1974 และเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงปี 1990-1994, ทีมชาติอังกฤษ ในช่วงปี 1974-1978 และทีมชาติเนเธอร์แลนด์ระหว่างปี 1958-1970 ซึ่งเป็นการตกรอบ 4 ครั้งติด และอีกครั้งในช่วงปี 1982-1986

นับเป็นปีที่เหมือนรถไฟเหาะของเหล่าทัพอัซซูรี่ เพราะเมื่อ 8 เดือนที่แล้วเพิ่งจะเถลิงบัลลงก์แชมป์ยูโรมาหมาดๆ แต่ตอนนี้กลับอกหัก เพราะไม่ได้เข้าไปบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์

คงต้องรอลุ้นกันอีกทีในปี 2026 ว่า “อัซซูรี่” จะมีช่วงเวลาที่ดี และตื่นจากฝันร้ายในฟุตบอลโลกได้หรือไม่

(Photo by Alberto PIZZOLI / AFP)

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image