‘โนเล่’ กับ 4 ประวัติศาสตร์ที่อาจจะเกิดในปี 2024

‘โนเล่’ กับ 4 ประวัติศาสตร์ที่อาจจะเกิดในปี 2024

การแข่งขันเทนนิสอาชีพฤดูกาล 2024 เปิดฉากมาระยะหนึ่งแล้ว ณ เวลานี้สื่อและแฟนๆ เทนนิสทั่วโลกต่างจับจ้องที่การแข่งขันแกรนด์สแลมแรกของปี ศึก ออสเตรเลียน โอเพ่น ที่เมลเบิร์นปาร์ก ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเปิดฉากมาตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม

นักหวดที่เป็นที่จับตามองมากที่สุดของทัวร์นาเมนต์ย่อมไม่พ้น โนวัก โยโควิช มือ 1 โลกชาวเซอร์เบีย ดีกรีอดีตแชมป์ชายเดี่ยวสูงสุด 10 สมัย หลังจากปีที่แล้วประสบความสำเร็จสุดยอดแม้ในวัย 36 ปี โดยการกวาด 3 แชมป์แกรนด์สแลม ออสเตรเลียน โอเพ่น, เฟร้นช์ โอเพ่น, ยูเอส โอเพ่น และรองแชมป์ วิมเบิลดัน รวมถึงการทวงบัลลังก์มือ 1 ของโลกคืนจาก คาร์ลอส อัลคาราซ ปิดท้ายด้วยการคว้าแชมป์รายการส่งท้ายปี เอทีพีทัวร์ ไฟนัลส์

คู่แข่งสำคัญอย่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อำลาวงการไปแล้ว ขณะที่ ราฟาเอล นาดาล สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ และยังลังเลว่าจะแขวนไม้หลังจบฤดูกาลนี้หรือไม่ ด้านดาวรุ่งฝีมือดีที่แจ้งเกิดขึ้นมาหลายคน ยังเป็นที่กังขาอยู่ว่าจะสามารถรักษามาตรฐานได้สม่ำเสมอหรือไม่ เหล่านี้คือปัจจัยที่ทำให้น่าเชื่อว่าปี 2024 อาจจะเป็นปีทองของโนเล่ไม่ต่างจากปีที่แล้วก็ได้

Advertisement

ถ้าโนเล่สามารถรักษาโมเมนตัมต่อเนื่องจากปีที่แล้วจนถึงปีนี้ได้ ก็น่าสนใจว่าเขาอาจบันทึกชื่อในฐานะเจ้าของสถิติและประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการสักหลาดโลกได้อีกหลายหัวข้อทีเดียว

สำหรับสถิติหรือเกียรติประวัติที่อาจจะเกิดขึ้นในปีนี้ขึ้นอยู่กับผลงานของโนเล่ แบ่งออกเป็น 4 หัวข้อใหญ่ๆ ดังนี้

-แชมป์แกรนด์สแลมสูงสุดตลอดกาล
ณ เวลานี้ โนเล่คว้าแชมป์ประเภทเดี่ยวระดับแกรนด์สแลมรวมแล้ว 24 รายการ เท่ากับสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ มาร์กาเร็ต คอร์ต ตำนานสักหลาดชาวออสซี่ทำไว้ ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมา มีความเป็นไปได้สูงมากๆ ที่เขาจะกลายเป็นเจ้าของสถิติสูงสุดแต่เพียงผู้เดียว ขอเพียงได้แชมป์แกรนด์สแลมอีกเพียงรายการเดียวเท่านั้น
ตั้งแต่ต้นปี 2021 ถึงปัจจุบัน โนเล่เข้าร่วมแข่งขันแกรนด์สแลม 10 รายการ คว้าแชมป์ได้ถึง 7 รายการ ซึ่งผลงานยอดเยี่ยมในช่วงเวลาที่ผ่านมาทำให้เขาก้าวข้ามทั้งเฟเดอเรอร์ (20 รายการ), นาดาล (22 รายการ) และ เซเรน่า วิลเลียมส์ (23 รายการ) ไปได้เรียบร้อย

Advertisement

-เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์
หนึ่งในเกียรติประวัติของกีฬาเทนนิสที่โนเล่ยังไปไม่ถึงคือเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ และภาษากายของเขาจากความผิดหวังในโอลิมปิก 2 ครั้งที่ผ่านมา ก็ยืนยันว่านี่คือหนึ่งในเป้าหมายสูงสุดที่เจ้าตัวหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องทำให้ได้
ตอนที่แพ้ ฮวน มาร์ติน เดล โปโตร ตกรอบแรก “รีโอ 2016” ที่ประเทศบราซิล เขาเดินออกจากสนามทั้งน้ำตา และหลังตกรอบรองชนะเลิศ “โตเกียว 2020” โนเล่ก็มีอาการเศร้าซึมอย่างเห็นได้ชัด
ด้วยอายุที่จะเต็ม 37 ปี ในเดือนพฤษภาคมนี้ โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม-11 สิงหาคม จึงเป็นโอกาสสุดท้ายของโยโควิชแล้ว ซึ่งหากทำได้สำเร็จ เขาจะกลายเป็นนักเทนนิสคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ ต่อจาก สเตฟฟี่ กราฟ, อังเดร อากัสซี่, เซเรน่า วิลเลียมส์, ราฟาเอล นาดาล ที่คว้าแชมป์ “โกลเดนสแลม” หรือแชมป์ประเภทเดี่ยวระดับแกรนด์สแลมครบ 4 รายการ บวกเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ตลอดการเล่นเทนนิสอาชีพ

กวาดแชมป์แกรนด์สแลมในปีเดียวกัน
จากอดีตถึงปัจจุบัน มีนักเทนนิสเพียง 5 คนเท่านั้นที่สามารถคว้า 4 แชมป์แกรนด์สแลมได้ในปีปฏิทินเดียวกัน นั่นคือ ดอน บัดจ์ (ปี 1938), มอรีน คอนนอลลี่ (ปี 1953), ร็อด เลเวอร์ (ปี 1962 และ 1969), มาร์กาเร็ต คอร์ต (ปี 1970) และ สเตฟฟี่ กราฟ (ปี 1988)
สำหรับโนเล่เคยหวุดหวิดจะทำได้มาแล้วหลายครั้ง ที่ใกล้เคียงที่สุดคือปี 2021 ซึ่งเขากวาดแชมป์แกรนด์สแลม 3 รายการแรกของปี และเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศยูเอส โอเพ่น ก่อนไปพ่ายให้ ดานีล เมดเวเดฟ ได้แค่รองแชมป์อย่างน่าเสียดาย นอกจากนี้ยังมีอีก 3 ครั้งที่โนเล่ได้แชมป์แกรนด์สแลม 3 รายการในปีเดียวกัน คือ ปี 2011, 2015 และ 2023
การกวาด 4 แชมป์แกรนด์สแลมในปีเดียวกันจึงเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่เจ้าตัวอยากทำให้ได้ เพื่อให้ผลงานฉีกจากคู่ปรับตลอดกาลอย่างเฟเดอเรอร์และนาดาลอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน
เท่านั้นไม่พอ ถ้าเขาแถมพ่วงเหรียญทองโอลิมปิกจาก “ปารีส 2024” เข้าไปด้วย เขาก็จะกลายเป็นนักเทนนิสคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ต่อจากสเตฟฟี่ กราฟ อดีตราชินีสักหลาดชาวเยอรมัน ซึ่งทำ “โกลเดนสแลม” หรือกวาด 4 แชมป์แกรนด์สแลมกับเหรียญทองโอลิมปิกได้ในปีเดียวกันด้วย

ทุบสถิติแชมป์เอทีพีสูงสุดตลอดกาล
อีกหนึ่งสถิติที่อาจไม่หวือหวาเท่ากับ 3 สถิติข้างบน แต่ก็จะเป็นความสำเร็จสุดยอดที่ช่วยให้โยโควิชจารึกชื่อในประวัติศาสตร์เทนนิสโลกไปอีกนาน กับสถิติแชมป์เอทีพีทัวร์มากที่สุดตลอดกาลซึ่ง บียอร์น บอร์ก อดีตมือ 1 โลกชาวสวีดิชทำไว้รวม 109 รายการ ระหว่างปี 1972-1989
แม้แต่แร็กเกตเทพอย่างเฟเดอเรอร์ก็ยังไม่สามารถทาบสถิติดังกล่าวได้ โดยทำไว้ 103 ครั้ง ก่อนอำลาวงการไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ขณะที่โนเล่ปัจจุบันคว้าแชมป์เอทีพีรวมแล้ว 98 รายการ การลุ้นแซงเฟเดอเรอร์ในปีนี้มีความเป็นไปได้ แต่จะหวังทาบสถิติของบียอร์น บอร์ก คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง

โนเล่กล่าวถึงเป้าหมายและสถิติต่างๆ ว่า ไม่ว่าเมื่อไรก็จะตั้งเป้าหมายไว้สูงที่สุดเสมอ ไม่ว่าจะเป็นปีนี้หรือปีหน้าทุกอย่างจะยังเหมือนเดิม ทั้งแรงฮึด และสภาพร่างกายที่ยังพร้อมไปต่อ

อีกทั้งยังมีทีมงานที่ยอดเยี่ยมอยู่เบื้องหลัง ยิ่งเรื่องความมุ่งมั่นตั้งใจ โดยเฉพาะกับรายการใหญ่ๆ ยังเต็มเปี่ยม สิ่งเหล่านี้คือตัวขับเคลื่อนให้ตนยังก้าวไปข้างหน้า

…และดูแล้วไม่มีทีท่าว่าจะชะลอหรือหยุดพักในเวลานี้แต่อย่างใด!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image