‘ซุปเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 58’ ศึกดวลซุป’ตาร์ VS ม้ามืด
หลังจากกรำศึกกันมายาวนาน ลีกอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอลฤดูกาล 2023 ก็จะได้ข้อสรุป กับศึก ซุปเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 58 ที่สนามอัลเลเจียนต์ สเตเดียม ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ หรือตรงกับเช้าวันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ เวลา 06.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง True Sport 1 (ช่อง 666)
ซุปเปอร์โบว์ลครั้งนี้เป็นการชิงชัยกันระหว่าง “แชมป์เก่า” แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ แชมป์สายเอเอฟซี และ ซานฟรานซิสโก ฟอร์ตี้ไนเนอร์ส แชมป์สายเอ็นเอฟซี โดยชีฟส์เข้าชิงเป็นหนที่ 4 จาก 5 ปีหลังสุด และจะได้ลุ้นแชมป์หนที่ 3 จากช่วงเวลาดังกล่าวหลังทำสำเร็จในปี 2020 และ 2023 ส่วนฟอร์ตี้ไนเนอร์สจะลุ้นคว้าแชมป์หนแรกนับตั้งแต่ปี 1995
การโคจรมาพบกันระหว่างทั้ง 2 ทีม ยังเป็นการรีแมตช์นัดชิงซุปเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 54 เมื่อปี 2020 ซึ่งคราวนั้นชีฟส์เป็นฝ่ายคว้าชัย 31-20
เทียบกับฤดูกาลที่แล้ว ชีฟส์แชมป์เก่า ฟอร์มอาจจะไม่หวือหวานัก มีสถิติในฤดูกาลปกติ ชนะ 11 แพ้ 6 แต่ก็ยังฝ่าด่านจนเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ ซึ่งหากครั้งนี้พวกเขาป้องกันแชมป์ไว้ได้สำเร็จ ก็จะทำให้ แพทริก มาโฮมส์ เป็นควอเตอร์แบ๊กคนที่ 5 ที่คว้าแชมป์ซุปเปอร์โบว์ล 3 ครั้งขึ้นไป ขณะที่ แอนดี้ รีด ก็จะเป็นเฮดโค้ชคนที่ 5 ที่นำทีมคว้าแชมป์ 3 สมัยเช่นกัน
การพาทีมเข้าชิงได้อย่างต่อเนื่องทำให้มาโฮมส์ถูกจับจ้องจากแฟนกีฬาคนชนคนและสื่อ โดยเลี่ยงไม่ได้กับการโดนนำไปเปรียบเทียบกับตำนานควอเตอร์แบ๊ก ทอม เบรดี้ เจ้าของแชมป์ซุปเปอร์โบว์ลสูงสุด 7 สมัย ที่เพิ่งอำลาวงการเมื่อปีที่แล้ว
เนื่องด้วยมาโฮมส์เพิ่งอายุ 28 ปี ยังมีเวลาอีกมากมายในการไล่ล่าสถิติต่างๆ ของเบรดี้ ซึ่งรวมถึงการลุ้นพาทีมป้องกันแชมป์ซุปเปอร์โบว์ลได้สำเร็จเป็นทีมแรกต่อจาก นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ในยุคเบรดี้ที่ทำไว้เมื่อฤดูกาล 2003 และ 2004 อีกด้วย
กล่าวกันว่าที่คนชอบเอาทั้งคู่มาเทียบกันเพราะมาโฮมส์มีออร่าของซุปเปอร์สตาร์อย่างที่เบรดี้มี และถ้าวัดกันในแง่สถิติช่วง 7 ปีแรกของการเล่นลีกเอ็นเอฟแอล มาโฮมส์ออกจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ ทั้งรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (เอ็มวีพี) ฤดูกาลปกติ (2 ต่อ 0), เข้าชิงแชมป์สายเอเอฟซี (6 ต่อ 4), ชนะในเกมเพลย์ออฟ (14 ต่อ 12) และเข้าชิงซุปเปอร์โบว์ล (4 ต่อ 3) จึงน่าจับตามองว่าเขาจะรักษามาตรฐานได้ในระยะยาวเหมือนกับเบรดี้หรือไม่
ฤดูกาลนี้ ชีฟส์ยังมีแฟนขาจรหรือคนนอกให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เนื่องด้วย ทราวิส เคลซี่ ผู้เล่นตำแหน่งปีกในตัวเก่งของทีม กำลังคบหากับนักร้องสาวชื่อดัง เทย์เลอร์ สวิฟต์ เทย์เลอร์มักจะแวะเวียนไปให้กำลังใจแฟนหนุ่มถึงสนามแข่งขันบ่อยๆ ทำให้สื่อสายบันเทิงและแฟนเพลงให้ความสนใจตามไปด้วย
หนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัยคือ เทย์เลอร์จะไปเชียร์แฟนหนุ่มของเธอในรอบชิงหรือแม้กระทั่งทำเซอร์ไพรส์ปรากฏตัวบนเวทีช่วงพักครึ่งกับ อัชเชอร์ ศิลปินหลักของโชว์ช่วงพักครึ่งซุปเปอร์โบว์ลปีนี้หรือเปล่า
เนื่องด้วยเทย์เลอร์มีคิวขึ้นคอนเสิร์ตที่โตเกียวในวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ แต่เนื่องจากได้เปรียบเรื่องโซนเวลา อีกทั้งเธอยังเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวเป็นปกติ ในทางทฤษฎี เทย์เลอร์จึงมีเวลาเหลือเฟือในการไปให้กำลังใจแฟนหนุ่มถึงขอบสนาม ส่วนในทางปฏิบัติจะเป็นอย่างไรคงต้องติดตาม
ข้างฝั่งฟอร์ตี้ไนเนอร์สห่างหายจากแชมป์ซุปเปอร์โบว์ลมายาวนานตั้งแต่หมดยุคของ โจ มอนทานา, เจอร์รี่ ไรซ์ และ สตีฟ ยัง ที่พาทีมเป็นแชมป์ 5 สมัยระหว่างปี 1982-1995 พวกเขาเข้าชิงซุปเปอร์โบว์ลหลังจากนั้นอีก 2 ครั้งในปี 2013 และ 2020 แต่ก็ผิดหวังมาตลอด
ไนเนอร์สชุดนี้มีสตอรี่ “ครอบครัว” ที่สื่อชูประเด็น เนื่องด้วยทีมได้ คริสเตียน แม็คคัฟฟรีย์ ตัววิ่งดาวดังมาร่วมทีมเมื่อกลางปี 2022 และช่วยยกระดับทีมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด โดย เอ็ด พ่อของแม็คคัฟฟรีย์ เคยเป็นอดีตปีกนอกที่ช่วยไนเนอร์สคว้าแชมป์ซุปเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 29 ก่อนย้ายไป เดนเวอร์ บรองโก้ส์ และคว้าแชมป์ได้อีก 2 ครั้ง ภายใต้การคุมทีมของ ไมค์ ชานาแฮน พ่อของ ไคล์ ชานาแฮน เฮดโค้ชคนปัจจุบันของไนเนอร์สนั่นเอง
ไนเนอร์สยังนำทีมโดย บร็อก เพอร์ดี้ ควอเตอร์แบ๊กวัย 24 ปี ซึ่งถือเป็นขั้วตรงข้ามกับมาโฮมส์แบบสุดโต่ง
เนื่องด้วยเพอร์ดี้ถูกดราฟต์ตัวเป็นอันดับสุดท้ายในการดราฟต์ผู้เล่นเอ็นเอฟแอลปี 2022 (ขณะที่มาโฮมส์ถูกดราฟต์ในรอบแรก) สัญญาอาชีพแรกของเขาที่ยังมีผลในตอนนี้ มีเพดานค่าเหนื่อย 889,000 ดอลลาร์สหรัฐ (31.12 ล้านบาท) เป็นอันดับ 67 ในหมู่ควอเตอร์แบ๊ก ส่วนสัญญาปัจจุบันของมาโฮมส์ มีเพดานค่าเหนื่อย 37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,295 ล้านบาท) เป็นอันดับ 1 ของลีกในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ในแง่สถิติจากฤดูกาลปกติ ถือว่าทั้งคู่มีสถิติที่ทั้งเหนือกว่าและด้อยกว่าอีกฝ่าย เช่น ขว้างสำเร็จ มาโฮมส์ 401 จาก 597 ครั้ง เพอร์ดี้ 308 จาก 444 ครั้ง, ระยะรวม 4,183 หลา กับ 4,280 หลา, ทัชดาวน์ 27 ครั้ง กับ 31 ครั้ง, โดนอินเตอร์เซปต์ 14 ครั้ง กับ 12 ครั้ง, โดนแซ็ค 27 ครั้ง กับ 28 ครั้ง, วิ่งเอง 75 กับ 39 ครั้ง, วิ่งทำระยะรวม 389 หลา กับ 144 หลา, วิ่งทัชดาวน์ 0 กับ 2 ครั้ง
ด้วยสถานะของทั้งตัวทีมและควอเตอร์แบ๊กคู่ชิง ซุปเปอร์โบว์ลหนนี้เรียกว่าเป็นการดวลกันระหว่างซุป’ตาร์กับม้ามืดก็คงไม่ผิดนัก
บทสรุปของศึกคนชนคนฤดูกาลใหม่จะเข้าทางใคร เหลือเวลาอีกไม่กี่อึดใจจะได้รู้กัน!
