เคาต์ดาวน์ก่อนระเบิดศึก ดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์
สุดสัปดาห์นี้ คอบอลพลาดไม่ได้กับเกมพรีเมียร์ลีกคู่บิ๊กแมตช์ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เอติฮัด สเตเดียม ในวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม เวลา 22.30 น. (ถ่ายทอดสดทางช่อง ทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล 1 และ 2)
ในแง่ผลงานโดยรวมฤดูกาลนี้ รวมถึงฟอร์มการเล่นล่าสุดไม่กี่นัดก่อนหน้านี้ ต้องยอมรับว่า “เรือใบสีฟ้า” มีภาษีดีกว่า “ปีศาจแดง” มาก
แมนซิตี้มีดีกรีเป็นแชมป์รายการใหญ่ถึง 3 ถ้วยเมื่อฤดูกาลก่อน ทั้งพรีเมียร์ลีก เอฟเอคัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สถานการณ์ปัจจุบันรั้งอันดับ 2 ของตาราง มีแต้มตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล เพียงแต้มเดียว ต้องการชัยชนะอย่างที่สุดเพื่อไล่บี้กดดันหงส์แดง
ซิตี้ลงสนามเกมลีก 9 นัดหลังยังไม่แพ้ใคร มีสถิติสวยหรู ชนะถึง 8 นัด เสมอเพียงนัดเดียว
ด้านแมนยู สถานการณ์ปัจจุบันรั้งอันดับ 6 ของตาราง มี 44 คะแนน จาก 26 นัด มีแต้มห่างจาก แอสตัน วิลล่า ทีมอันดับ 4 อยู่ 8 คะแนน
ปีศาจแดงฟอร์มมาดีๆ ชนะ 4 นัดติดในเกมลีกก่อนหน้านี้ แต่มาสะดุดพ่าย ฟูแล่ม 1-2 คาบ้านแบบโดนวิจารณ์หนักเรื่องฟอร์มการเล่น
ก่อนหน้ามาเจอกันนัดนี้ ทั้ง 2 ทีมต่างลงสนามเกมเอฟเอคัพ รอบห้า เมื่อกลางสัปดาห์ เรือใบสีฟ้าร้อนกำลังฮอตสุดสุด ถล่ม ลูตัน ทาวน์ 6-2 ด้วยฟอร์มร้อนแรงและเข้าขาระหว่าง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กับ เควิน เดอ บรอยน์
ฮาแลนด์ที่เพิ่งหายเจ็บเท้าได้ไม่นานยิงไป 5 ประตูในเกมนี้ โดยมีเดอ บรอยน์ แอสซิสต์ถึง 4 ลูก โดยตั้งแต่เดอ บรอยน์ หายเจ็ฐกล้ามเนื้อหลังต้นขากลับมาลงเล่นให้ซิตี้ได้สม่ำเสมอ เขาก็เป็นหัวใจสำคัญในเกมรุกของทีมมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการเปิดบอลให้ฮาแลนด์เจออย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่อีกฝ่ายก็มีสัญชาตญาณการทำประตู พยายามจบสกอร์ในทุกจังหวะที่มีลุ้นได้อย่างน่ากลัว
ด้านแมนยูเฉือนชนะ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ มาหืดจับ 1-0 เมื่อกลางสัปดาห์ โดยได้ประตูชัยจากลูกโหม่งของ คาเซมิโร่ ในนาที 89 ของเกม ขณะที่ฟอร์มโดยรวมยังไม่แน่นอน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายขึ้นกับวันนั้นๆ
ส่วนสถานการณ์ความพร้อมของผู้เล่นทั้ง 2 ฝั่ง ซิตี้มีปัญหาบาดเจ็บน่าห่วงแค่ แจ็ค กรีลิช ซึ่งเจ็บจากเกมกลางสัปดาห์ ไม่นับ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ที่เจ็บยาวอยู่ก่อนแล้ว
ส่วนยูไนเต็ด แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ไม่ได้ลงเล่นในเกมกลางสัปดาห์กับฟอเรสต์ ต้องรอเช็กฟิตก่อน ขณะที่ผู้เล่นอีกหลายรายไม่พร้อมลงสนาม ได้แก่ ราสมุส ฮอยลุนด์, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ไทเรลล์ มาลาเซีย, เมสัน เมาท์, อองโตนี่ มาร์ซิยาล ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายเพราะฮอยลุนด์กำลังฟอร์มเข้าฝัก ทำประตูในเกมลีกได้ 5 นัดติดตั้งแต่กลางเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์
สถิติการเจอกันในเกมดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ รวม 191 นัด แมนยูชนะ 78 นัด ซิตี้ชนะ 60 นัด และเสมอกัน 53 นัด
อย่างไรก็ตาม หากนับเฉพาะการเจอกัน 6 นัดหลังสุด เรือใบชนะมากถึง 5 นัด เกมดาร์บี้แมตช์นัดแรกของฤดูกาลนี้ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ซิตี้ก็บุกคว้าชัยสบายๆ 3-0
เรียกว่าทั้งในแง่สถิติและสถานการณ์ปัจจุบัน แถมยังเป็นเกมเตะที่เอติฮัด สเตเดียม ทำให้ซิตี้ได้เปรียบและมีภาษีดีกว่ายูไนเต็ดค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม ได้ชื่อว่าเป็นดาร์บี้แมตช์ นี่ย่อมเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่แมนยูคงไม่ยอมให้คู่ปรับร่วมเมืองเก็บ 3 แต้มไปง่ายๆ
บทสรุปสุดท้ายจะลงเอยอย่างไร จับตาอย่างลุ้นระทึกไปด้วยกันคืนวันอาทิตย์นี้!
