ส่องสนามแข่งซีเกมส์2025 กทม.-ชลบุรี-สงขลาจัดกีฬาไหนบ้าง?
เผลอแป๊ปเดียวเหลือเวลาอยู่อีกเพียง 9 เดือนเท่านั้น การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพก็จะเริ่มเปิดฉากขึ้นแล้ว
สิ่งที่ดูจะคืบหน้าในตอนนี้ ก็คงเป็นที่การได้ข้อสรุปเรื่องของสนามแข่งขันต่างๆ ว่าแต่ละกีฬาจะไปจัดที่ไหนกันบ้าง
แม้ว่าในที่ประชุมจะดูมีการถกเถียงกันอยู่บ้าง อย่างเช่นเทควันโดกับตะกร้อ ที่ใจตรงกันเลือกใช้ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ในการจัดการแข่งขันเหมือนกัน ทำให้ต้องมีการพูดคุยว่าใครจะหลีกทางให้ใคร สุดท้ายแล้วก็เป็นสมาคมกีฬาตะกร้อฯ ที่ยอมหลีกไปใช้ยิมเนเซียมเทศบาลนครนครปฐม ในการจัดการแข่งขันแทน
หรืออย่างของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่ได้ข้อสรุปในเรื่องของฟุตบอลชาย จัดที่ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี, สนามติณสูลานนท์ จ.สงขลา และราชมังคลากีฬาสถาน กับฟุตบอลหญิง จัดที่ชลบุรี สเตเดียม และสนามมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชลบุรี แต่ยังมีปัญหาเรื่องของฟุตซอล ที่เดิมทีจะไปจัดสงขลาแต่สนามไม่พร้อม ส่วนสนามสำรองอย่างศูนย์กีฬาในร่ม จ.ชลบุรี ใช้แข่งขันแฮนด์บอลแล้ว จึงต้องประสานเพื่อหาสนามแห่งใหม่ซึ่งคาดว่าจะอยู่แค่ในชลบุรีหรือกรุงเทพปริมณฑลเท่านั้น
ส่วนบางสมาคมฯ ก็มีสนามหลักแล้ว แต่ถ้าเกิดปัญหาเรื่องการซ่อมแซมปรับปรุง ก็มีสนามสำรองเอาไว้รองรับ อย่างเช่นกีฬาทางน้ำ ว่ายน้ำ, กระโดดน้ำ และระบำใต้น้ำ เบื้องต้นจัดที่สนามว่ายน้ำในกกท.หัวหมาก แต่ถ้าซ่อมแซมไม่ทันจะไปที่ศูนย์กีฬาทางน้ำ ม.อัสสัมชัญ บางนา หรือเทเบิลเทนนิส ที่จากเดิมวางแผนเอาไว้ที่เซ็นทรัล เวสต์เกต แต่สถานที่ติดงานอื่น จึงต้องเลือกที่ใหม่ แต่ก็มีตัวเลือกอย่างเซ็นทรัลพระราม 2 หรือเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะได้
แต่ที่น่าจะเป็นปัญหาที่สุดในเวลานี้ก็คงจะเป็นสนามแข่งขันกีฬากอล์ฟ เพราะว่าทางสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ เลือกใช้สนามรอยัลฮิลล์ รีสอร์ท จ. นครนายก เพราะเป็นสนามที่นักกีฬาฝึกซ้อมเป็นหลักและทำให้ประเทศไทยได้เปรียบ แต่ทางกกท. มองว่าถ้าไม่ใช่เหตุจำเป็น ก็อยากให้ใช้สนามกีฬาที่อยู่ใน 3 จังหวัดเจ้าภาพเป็นหลักก่อน และสนามในกรุงเทพฯ หรือชลบุรี ก็ยังมีให้เลือกอีกเยอะ ส่วนเรื่องความคุ้นชินสนามยังเหลือเวลาอีก 9 เดือนในการซ้อมปรับตัวกับสนามแข่งขันได้
อย่างไรก็ตามตรงนี้ถือว่าเป็นส่วนน้อยเท่านั้น ที่สำคัญและน่าสนใจกว่าคือเมื่อสรุปสนามทั้งหมดได้แล้ว แต่ละกีฬาอยู่ที่ไหนบ้าง
อันดับแรกเลยก็คือเจ้าภาพหลักอย่างกรุงเทพฯ ที่จัดถึง 31 ชนิดกีฬาด้วยกัน
ศูนย์ที่ใหญ่ที่สุดก็หนีไม่พ้นการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก ที่มีจัดทั้งถึง 12 ชนิดกีฬา ได้แก่ กีฬาทางน้ำ (ว่ายน้ำ, กระโดดน้ำ และระบำใต้น้ำ) , ยิงธนู, เบสบอล 5 คน, มวยสากล, จักรยานประเภทลู่, อีสปอร์ตส์, สเก็ตบอร์ด, เปตอง, ยิงปืน (ปืนสั้น-ปืนยาว) และวอลเลย์บอลในร่ม-ชายหาด
นอกนั้นก็ถือว่ากระจายๆ กันไปตามจุดต่างๆ ภายในกรุงเทพฯและปริมณฑล อย่างเช่น สนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย ใช้จัดกรีฑา และอาคารนิมิบุตร ใช้จัดบาสเก็ตบอล หรือศูนย์กีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่จัด โปโลน้ำ, แบดมินตัน และ ยิมนาสติก ส่วนจุฬาฯ ใช้ ศูนย์กีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดฟันดาบ และอาคารจันทนยิ่งยง จัดเน็ตบอล
กีฬาอื่นๆ ที่จัดในกรุงเทพฯ ใช้สถานที่ดังนี้ เบสบอล – สนามเบสบอลภายในศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์ / ซอฟต์บอล – มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี / โบว์ลิ่ง – เมเจอร์รัชโยธิน / คริกเก็ต – สนามกีฬาคริกเก็ตเทิดไทย ลาดกระบัง / จักรยาน บีเอ็มเอ็กซ์ – สวนกีฬากมล / ขี่ม้า โปโล – วีเอส สปอร์ตคลับ สมุทรปราการ / เอ็กซ์ตรีม (ปีนหน้าผา) – สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) / สกีน้ำ-เวคบอร์ด – อีเอสซี วอเตอร์ปาร์ค / ฟลอร์บอล – ศูนย์กีฬาเวสน์ 1 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น / ฮอกกี้น้ำแข็ง – ไทยแลนด์ไอซ์ฮอกกี้อารีน่า พระราม9 / สเก็ตน้ำแข็ง – อิมพีเรียล สำโรง / ยูยิตสู – ศูนย์กีฬามหาวิทยาลัย รังสิต / คิกบ็อกซิ่ง – ยิมเนเซียม ม.อัสสัมชัญ / รักบี้ – สนามกีฬาธูปะเตมีย์ / เซปักตะกร้อ – ยิมเนเซียมเทศบาลนครนครปฐม / ยิงเป้าบิน – สนามยิงปืนโพธาราม จ.ราชบุรี / สควอช – วชิราวุธวิทยาลัย / เทเบิลเทนนิส – เซ็นทรัลพระราม 2 หรือเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ / เทควันโด – ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ และเทนนิส – ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี

มาที่จังหวัดชลบุรีบ้าง รับหน้าที่จัดถึง 15 ชนิดกีฬา ซึ่งด้วยความเป็นเมืองท่องเที่ยวด้านทะเล ทำให้สนามกีฬาส่วนใหญ่ที่ใช้ไปอยู่ที่โซนพัทยา-หาดจอมเทียน ค่อนข้างมาก
โดยกีฬาที่จัดอยู่ในพัทยาและหาดจอมเทียน จะมีทั้ง ว่ายน้ำมาราธอน, เรือพาย, เจ็ตสกี, ปัญจกีฬาสมัยใหม่, เรือใบ (เรือใบ-ไคท์บอร์ด-วินด์เซิร์ฟ) ขณะที่กีฬาบิลเลียดและสนุกเกอร์ ก็จัดที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ ซึ่งอยู่ตรงหาดจอมเทียน พัทยา เช่นกัน ส่วนไตรกีฬา อาจจะเลยไปไกลสุดเพราะไปอยู่แหลมแม่พิมพ์ อ.แกลง จ.ระยอง
นอกนั้นก็จะมีอีกหนึ่งศูนย์ใหญ่คือโรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี ที่จัดยกน้ำหนักและเทคบอล กับมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตชลบุรี จัด ฮอกกี้ และแฮนด์บอล ส่วนศูนย์ฝึกกีฬาภาคตะวันออก ใช้จัดยิงปืนรณยุทธ
ขณะที่ เรือพาย (แคนู, คยัค, เรือยาวมังกร) ไปจัดที่ ศูนย์ฝึกกีฬาเรือพายราชนาวี, ขี่ม้า จัดที่ ไทยโปโล แอนด์ อีเควสเทรี่ยน คลับ พัทยา, วู้ดบอล จัดที่ ศูนย์พัฒนากีฬากอล์ฟกองเรือยุทธการ และที่น่าสนใจสุดๆ ก็คงเป็น จักรยาน เสือภูเขา ไปจัดที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ให้นักกีฬาได้เข้าไปชม “หมูเด้ง” เจ้าฮิปโปแคระชื่อดังของไทยในเวลานี้ได้
ปิดท้ายที่จังหวัด**สงขลา** ที่รับหน้าเสื่อจัดไป 10 ชนิดกีฬา แต่ก็ต้องบอกว่าแต่ละสนามกระจายๆ กันหมด ดังนี้ หมากรุกสากล จัดที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาสงขลา / ยูโด – ศูนย์ประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา / กาบัดดี้ – ปาริชาติ ฮอลล์ มหาวิทยาลัยทักษิณ / คาราเต้ – เซ็นทรัล หาดใหญ่ / มวย – สนามกีฬาพรุค้างคาว / ปันจักสีลัต – อาคารสุวรรณวงศ์ สนามกีฬาจิระนคร / มวยปล้ำ – เซ็นทรัล หาดใหญ่ และวูซู ที่ ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ส่วนพิธีเปิด-ปิดการแข่งขัน ยืนยันชัดเจนแล้วว่าจะใช้สนามหลวง ในการจัดทั้งสองงาน
ว่ากันตามไทม์ไลน์ หลังจากนี้ทุกสมาคมกีฬาฯ ก็จะต้องไปจัดการทำเรื่องของคู่มือเทคนิคกีฬา (Technical Handbook) ที่จะต้องแล้วเสร็จก่อนวันที่ 15 มีนาคมนี้ เพื่อทำการเตรียมส่งให้กับทุกประเทศในวันที่ 8 เมษายนนี้ เพื่อลงทะเบียนจำนวนนักกีฬา (Entry From By Number) ภายในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้
เรียกว่าทุกอย่างคืบหน้าไปได้ด้วยดี จากนี้แต่ละสมาคมก็จะสามารถเดินหน้าเตรียมงานของตัวเองได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้การแข่งขันออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
ส่วนกองเชียร์ก็สามารถวางแผนได้ว่าจะเชียร์กีฬาไหน ต้องไปที่ไหน ตั้งแต่ตอนนี้เลย