คำต่อคำ เปิดใจเซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ กับวันพรุ่งนี้ของแมนยู (ตอน1)
เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ หนึ่งในเจ้าของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาเปิดใจถึงประเด็นต่างๆ ของสโมสรกับทางสำนักข่าว “บีบีซี” เรียกได้ว่าตอบแบบไม่กั๊ก ตอบตรงทุกคำถาม
หลายคำถามไปจี้ใจดำนักเตะ บางคำถามอาจจะสร้างความไม่พอใจให้แฟนบอล แต่ทำให้ได้เห็นแนวทางที่ผู้บริหารต้องการให้ทีมปีศาจแดงเดินหน้าไปในอนาคต
บีบีซี : อธิบายการทำงานปีแรกในฐานะเจ้าของสโมสรแมนยูหน่อย?
แรทคลิฟฟ์ : มันท้าทายพอสมควร เพราะเรามีหลายอย่างที่ต้องทำ รวมทั้งมีปัญหาให้แก้มากทีเดียว
บีบีซี : งานนี้ท้าทายกว่าที่คิดไว้มั้ย?
แรทคลิฟฟ์ : มันก็เป็นปกติของความท้าทายที่คิดเอาไว้แล้ว แต่ขนาดของงานที่ต้องทำมันใหญ่กว่าที่คาดเล็กน้อย ตอนนี้เราอยู่ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลง หลังจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือไป แมนยูก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่เราคาดหวังกันเลย แต่มันก็มีเหตุผลของมัน ไม่มีใครชอบการเปลี่ยนแปลง เพราะมันทำให้รู้สึกไม่สบายใจ แต่เราก็ต้องทำมัน
บีบีซี : คุณตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องกลับมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้ภายในปี 2028 มีการวางแผนมิชชั่น 21 เพื่อแชมป์สมัยที่ 21 แต่เมื่อดูจากตารางคะแนนตอนนี้เหมือนกับเป็นมิชชั่นที่เป็นไปไม่ได้
แรทคลิฟฟ์ : ผมไม่ได้มองว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้นะ การมีเป้าหมายเป็นเรื่องที่ดี การกำหนดเวลาที่เราจะกลับไปคว้าแชมป์อีกครั้ง เป็นเรื่องที่ดี ยิ่งในปีนั้นแมนยูจะครบรอบการก่อตั้งสโมสร 150 ปี มันจึงเป็นเป้าหมายที่ยอดเยี่ยม ผมไม่มีไม้วิเศษ ผมไม่สามารถเห็นอนาคตได้ แต่ถ้าคุณมองดูอาร์เซน่อล ลิเวอร์พูล พวกเขาก็ต้องใช้เวลาในการจะกลับมาคว้าแชมป์อีกครั้ง มันอาจจะต้องใช้เวลา แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ในวันที่เยอร์เก้น คล็อปป์ คุมลิเวอร์พูล ในปี 2015 ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ และเอียน เกรแฮม ดูแลข้อมูลให้สโมสร พวกเขาสร้างทีมขึ้นมาใหม่ในปี 2015, 2016, 2017, 2018 และพวกเขาได้ทุกแชมป์ในปี 2019, 2020, 2021
มิเกล อาร์เตต้า อยู่กับอาร์เซน่อลมา 5 ปีแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นทีมที่ต่างจากเมื่อ 5 ปีที่แล้วมาก ส่วนเราเองวางแผนไว้ที่ 3 ปีหลังจากนี้ มันอาจจะดูทะเยอทะยานเกินไป แต่มันก็เป็นเรื่องดีที่มีเป้าหมายในช่วงสโมสรครบรอบ 150 ปีพอดี เราต้องประเมินตัวเอง ต้องทำในสิ่งที่เราพูดว่าจะทำอย่างไรให้แมนยูกลับไปสู่จุดที่ควรเป็น
บีบีซี : เมื่อมองตารางคะแนนในตอนนี้ แมนยูอยู่ในอันดับ 14 มีแต้มตามหลังลิเวอร์พูล 36 คะแนน คุณรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง?
แรทคลิฟฟ์ : มันไม่ใช่จุดที่เราอยากให้เป็น แต่เราอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลง เรามีเวลาไม่มากนักในการเปลี่ยนแปลงนักเตะในทีม เราเพิ่งเปลี่ยนโค้ชใหม่ เขาเข้ามาตอนกลางฤดูกาล และทีมก็มีนักเตะที่เจ็บหลายคน
นักเตะ 8 คนที่รับค่าเหนื่อยสูงสุดของทีม มีเพียง 4 คนที่รูเบน อโมริม ใช้งานได้ เมื่อพิจารณาจากนักเตะที่เขาใช้งานได้ ผมว่าเขาทำงานได้ดีทีเดียว
บีบีซี : ในช่วงปีที่ผ่านมา คุณรู้สึกผิดหวังกับการลงทุนซื้อหุ้นแมนยูบ้างมั้ย?
แรทคลิฟฟ์ : ไม่รู้สึกแบบนั้นเลย ผมไม่ได้มาเดินเล่นในสวนนะ บางครั้งการอ่านข่าวก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยาก แต่ผมอยากให้นักข่าวตำหนิผมมากกว่าอโมริม เพราะผมเป็นคนบอกเองว่าจะพาแมนยูกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และทุกคนก็มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ ในความเห็นของผมมองว่าเราทำได้ แต่เราอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลง เราจัดการกับทีมในรูปแบบใหม่ เราอาจจะไม่ได้ทำทุกอย่างได้ถูกต้องในช่วงแรก แต่เรามีทีมบริหารจัดการที่ดีอยู่กับสโมสรแล้ว
เราต้องจัดการกับปัญหาการเงิน เราต้องย้ำเรื่องนี้ แต่ก็ต้องเดินหน้าในการสร้างทีม การหานักเตะมาเสริมทีม การวิเคราะห์ข้อมูล และหลายๆ เรื่อง ซึ่งตอนนี้เราอยู่ในกระบวนการนี้อยู่
บีบีซี : คุณกำลังพูดถึงการโดนวิจารณ์ ไม่ใช่จากสื่อเท่านั้น แต่จากแฟนบอลด้วย ก่อนหน้าเกมกับอาร์เซน่อล แฟนบอลก็เดินหน้าประท้วง คุณเข้าใจความโกนธของแฟนบอลใช่มั้ย?
แรทคลิฟฟ์ : ผมเข้าใจความรู้สึกแฟนบอล เพระาแมนยูไม่ได้อยู่ในจุดที่ควรจะเป็น เราต่างอยากเห็นทีมเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก และลุ้นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่เราไม่ได้อยู่ในจุดนั้นในเวลานี้ แต่ผมก็ต้องบริหารจัดการหลายอย่างให้ถูกต้อง ก่อนที่จะพาทีมกลับไปสู่ความสำเร็จ และกระบวนการนี้มันไม่ได้ง่ายเลย ยกตัวอย่างนะ ถ้าคุณดูนักเตะที่เราซื้อมาในช่วงซัมเมอร์ เราซื้ออันโตนี่, คาเซมิโร่, อองเดร โอนาน่า, ราสมุส ฮอยลุนด์, เจดอน ซานโช่ พวกเขาต่างเป็นนักเตะที่ย้ายมาในอดีต ก่อนที่เราจะเข้ามาบริหารทีม ดังนั้นเราก็ต้องจัดการเรื่องนี้ ซานโช่เล่นให้เชลซีในตอนนี้ด้วยสัญญายืมตัว แต่เราต้องจ่ายค่าเหนื่อยให้เขาครึ่งหนึ่ง เราต้องจ่ายเงิน 17 ล้านปอนด์(748 ล้านบาท) เพื่อซื้อเขาในซัมเมอร์ ดังนั้นเราก็ต้องจัดการตรงนี้ก่อน ก่อนซื้อนักเตะมาเพิ่มในอนาคต
บีบีซี : ตอนนี้คุณกำลังเจอกับปัญหาที่สร้างเอาไว้ในอดีต หรือหลังจากที่อิเนออสเข้ามาบริหารสโมสรแล้ว และอิเนออสต้องรับผิดชอบเรื่องนี้มั้ย?
แรทคลิฟฟ์ : เราเข้ามาตอนที่สโมสรมีความยากลำบากเรื่องการเงินแล้ว ถ้าผมไม่หนุนเงิน 232 ล้านปอนด์(10,208 ล้านบาท) เข้าไป และไปซื้อนักเตะในซัมเมอร์มากกว่าที่เห็นกัน รวมทั้งไม่ปรับโครงสร้างพนักงานอย่างที่ทำมาตลอด 12 เดือน สโมสรมีโอกาสที่จะไม่มีเงินเลยในช่วงปลายปีนี้
เราต้องรับมือกับสิ่งเหล่านี้ มีหลายอย่างที่ต้องทำพร้อมกันในเวลาเดียว เรามีทีมบริหารใหม่ เราต้องการจัดการกับโครงสร้างทางการเงิน ต้องจัดการนักเตะในทีม การวิเคราะห์ข้อมูล ทุกอย่างต้องเดินหน้า การเปลี่ยนแปลงอาจจะสร้างความไม่สบายใจ และแฟนบอลจะรู้สึกไม่มีความสุข อันดับในตารางก็ไม่ได้สร้างความประหลาดใจอะไรเลย เมื่อเนจำนวนนักเตะที่อโมริมมีอยู่ เพราะมีนักเตะที่เจ็บและไม่ได้อยู่กับทีม
บีบีซี : เมื่อปีก่อน แฟนบอลยังมองว่าอิเนออสจะเข้ามาช่วยกอบกู้สโมสร แต่ตอนนี้พวกเขากลับมองว่าอิเนออสเข้ามาสร้างปัญหาจากการตัดสินใจในบางเรื่อง คุณยอมรับมั้ยว่ามีส่วนในการสร้างปัญหามากขึ้น?
แรทคลิฟฟ์ : เราไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่เรากำลังอยู่ระหว่างทาง มันมีความผิดพลาดเกิดขึ้นระหว่างทาง แต่สิ่งที่พวกเรากำลังทำเป็นเรื่องถูกต้องสำหรับสโมสร เชื่อว่าในอีก 3 ปี แมนยูจะจบอันดับที่ต่างจากในอดีตแน่นอน โดยเฉพาะการเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีกำไรมากที่สุดในโลก เป็นสโมสรที่มีสนามฟุตบอลที่ทันสมัยที่สุดในโลก และกลับไปเป็นสโมสรที่ได้แชมป์อีกครั้ง
บีบีซี : ช่วยพูดถึงสนามหน่อย จะมีการสร้างใหม่หรือปรับปรุงโอลด์ แทรฟฟอร์ด?
แรทคลิฟฟ์ : หลังจากนี้เราจะคุยกันอีกครั้ง แต่ก็มี 2 ทางเลือก แต่ก็อาจจะเป็นการสร้างสนามใหม่มากกว่า เมื่อมีสนามที่เป็นระดับโลกก็จะดึงดูดแฟนบอลนับพันล้านคนทั่วโลกให้มาที่แมนเชสเตอร์ได้ เมื่อเป็นแบบนั้นก็จะสร้างมูลค่าให้กับแมนเชสเตอร์ ให้กับทางเหนือของอังกฤษ มันมีมลค่าสูงมาก แล้วจะมีรายงานให้ทราบอีกครั้ง
บีบีซี : เอาเงินที่ไหนมาสร้างสนามใหม่?
แรทคลิฟฟ์ : เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา เราสามารถหามาได้ และหลังจากนี้จะคุยกันเรื่องแหล่งที่มาของเงินอีกครั้ง
อ่านต่อตอนที่ 2 ได้ที่นี่