เปิดใจ “คิริล บาร์สกี้” โลกเข้าใจรัสเซียจาก “บอลโลก”

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย จะเริ่มฟาดแข้งกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ท่ามกลางความสนใจจากคอบอลทั่วโลกเหมือนเดิม โดยเฉพาะแฟนบอลชาวไทยที่เตรียมตัวอดหลับอดนอนเชียร์ทีมรักกันอีกครั้ง

ก่อนที่เวิลด์คัพ 2018 จะแข่งขันระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน-15 กรกฎาคม เครือมติชนได้โอกาสสัมภาษณ์คิริล บาร์สกี้ เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย ถึงความพร้อมของเจ้าภาพในด้านต่างๆ ในการเตรียมต้อนรับศึกฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของรัสเซีย

ท่านทูตบาร์สกี้เล่าว่า ความพิเศษของฟุตบอลโลกครั้งนี้นอกจากจะเป็นครั้งแรกที่ได้แข่งขันในรัสเซียแล้ว ยังเป็นครั้งแรกที่ฟุตบอลโลกเตะในสองทวีป คือทวีปเอเชียและยุโรป เนื่องจากเมืองเยกาเตรินเบิร์ก หนึ่งในเมืองที่มีสนามแข่งขันเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างสองทวีป ขณะที่เมืองอื่นๆ 9 เมืองที่เป็นเจ้าภาพ ได้แก่ กรุงมอสโก, เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, โซชิ, รอสตอฟ, คาลล์นินกราด, ซามาร่า, คาซาน, นิซห์นี่ นอฟโกรอด, วอลโกกราด แต่ละเมืองจะมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และความน่าสนใจเฉพาะตัวที่ต่างกันออกไป

ในส่วนของสนามแข่งขันนั้น บาร์สกี้บอกว่า ออกแบบให้เป็นเอกลักษณ์ของรัสเซีย มีความทันสมัย ทุกสนามออกมายอดเยี่ยม และพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์แล้วสำหรับการรองรับการแข่งขัน 64 แมตช์ หลังจากที่มีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ถึง 7 ครั้ง ทำให้มั่นใจว่าสนามทั้งหมดพร้อมจะรองรับผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาแล้ว นอกจากนั้นยังมีการเตรียมแคมป์เก็บตัว 113 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ 32 ชาติได้ใช้ในการเก็บตัวฝึกซ้อมก่อนการแข่งขัน

Advertisement

“สนามแข่งขันทั้งหมดในฟุตบอลโลกครั้งนี้จะเป็นสนามแห่งอนาคต เมื่อฟุตบอลโลกจบลงมัน จะเป็นสนามกีฬาของเยาวชน เป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ เหล่านั้นเล่นกีฬา เป็นสถานที่ใช้ในการฝึกซ้อมและแข่งขันกีฬาของคนท้องถิ่น รวมทั้งช่วยในการโปรโมตให้คนรัสเซียออกกำลังกายมากขึ้นด้วย”

ด้านการเตรียมการรับแฟนบอลและนักท่องเที่ยวในช่วงฟุตบอลโลก รัสเซียได้สร้างโรงแรมขึ้นใหม่ 70 แห่งทั่วประเทศ และมีการปรับปรุงโรงแรมเดิมให้มีมาตรฐานที่ดี มีการปรับปรุงสนามบินในเมืองเจ้าภาพ เตรียมการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นที่จะรองรับแฟนบอลที่คาดว่าจะมีจำนวนถึง 1.3 ล้านคน ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมกับเวิลด์คัพในครั้งนี้

“รัสเซียคาดการณ์ว่าจะมีแฟนบอลเข้ามาร่วมในฟุตบอลโลกครั้งนี้ 1.3 ล้านคน อาจจะมากกว่านั้น เพราะไม่ใช่ว่าคนที่มีตั๋วเท่านั้นที่จะเดินทางมาที่รัสเซีย คนที่ไม่มีตั๋วเข้าชมก็สามารถมาซึบซับบรรยากาศด้านนอกสนาม แฟนโซน ร้านอาหาร บาร์ รวมทั้งชมการถ่ายทอดสดในโรงแรมก็ยังได้ เพราะฟุตบอลโลกเป็นการแข่งขันที่ใครๆ ก็อยากจะเข้ามาสัมผัส” เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทยกล่าว

Advertisement

สำหรับงบประมาณในการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้นั้น ทูตจากแดนหมีขาวกล่าวว่า จากการรายงานของสำนักข่าวใหญ่ๆ ในยุโรป ประมาณการไว้ที่ 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 403,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นยอดที่จริงหรือไม่ เพราะการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกใช้งบประมาณมหาศาล ไม่ใช่แค่การจัดการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังต้องพัฒนา ปรับปรุงและสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ ขึ้นมาใหม่ รวมทั้งงานเล็กน้อยไปจนถึงงานใหญ่ ดังนั้นจึงไม่สามารถสรุปได้แน่นอนว่าเป็นเม็ดเงินเท่าไร

เมื่อถามถึง “ซาบิวาก้า” หมาป่าที่เป็นแมสคอตในเวิลด์คัพ 2018 ว่า เพราะอะไรรัสเซียที่คนทั่วโลกมักจะรู้จักในฉายาดินแดนแห่งหมีขาว กลับใช้หมาป่ามาเป็นตัวแทนของประเทศในครั้งนี้

ทูตบาร์สกี้ตอบว่า หมีเป็นสัตว์ที่ทำให้ทุกคนนึกถึงรัสเซียก็จริง แต่ที่รัสเซียมีสัตว์มากมาย สามารถเลือกใช้เป็นแมสคอตได้ทุกตัว แต่หมาป่าก็ถือเป็นสัตว์ที่อยู่กับประวัติศาสตร์รัสเซียมาอย่างยาวนานไม่แพ้หมี มีส่วนร่วมในนิทานปรัมปรา และเรื่องราวของประเทศนี้มากมายเช่นกัน ขณะที่หมีก็เป็นแมสคอตในหลายงานแล้ว ทั้งโอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน 1980 ที่กรุงมอสโก และโอลิมปิกเกมส์ ฤดูหนาว 2014 ที่เมืองโซชิ

ความหมายของชื่อ “ซาบิวาก้า” ในภาษารัสเซียแปลว่า “ผู้ยิงประตู” ซึ่งนิสัยของหมาป่าตัวนี้ คณะกรรมการจัดการแข่งขันอธิบายไว้ว่า ชอบความสนุกสนาน มีเสน่ห์ และมั่นใจในตัวเอง

สำหรับความคาดหวังของเจ้าภาพที่จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ ทูตชาวรัสเซียบอกว่า เพราะต้องการทำให้โลกรู้จักรัสเซียให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เนื่องจากสื่อในโลกตะวันตกมักจะใส่ร้ายป้ายสีรัสเซียในเรื่องเสียหายมาโดยตลอด ซึ่งหลายเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องจริง จึงอยากให้คนทั่วโลกเข้ามาสัมผัสเพื่อจะได้รู้ว่าอะไรคือเรื่องจริง อะไรคือการใส่ร้าย

“สื่อยุโรปใส่ร้ายป้ายสีเราแบบไม่ใช่เรื่องจริงมาตลอด ทั้งการรายงานข่าว การสร้างภาพยนตร์ที่ทำให้ผู้ดูรู้สึกว่ารัสเซียเป็นประเทศที่ไม่ดี หวังว่าหลังจบฟุตบอลโลก โลกจะเข้าใจและมองรัสเซียในมุมที่ดีมากขึ้น”

นอกจากในเรื่องการทำความเข้าใจกับประชาคมโลกในเรื่องการเมืองแล้ว บาร์สกี้บอกอีกว่า รัสเซียยังอยากจะเผยแพร่วัฒนธรรมที่หลากหลายให้ชาวโลกได้รู้จัก เข้าใจวิถีชีวิตของชาวรัสเซียโดยใช้ฟุตบอลโลกเป็นตัวเชื่อม รวมทั้งอยากให้ทุกคนมาร่วมสนุกสนานกับฟุตบอลโลกให้มากที่สุด ซึ่งมีการประเมินไว้ว่า คนทั่วโลกจะรับชมฟุตบอลโลกผ่านทางการถ่ายทอดสด รับฟังการบรรยายจากวิทยุ รวมทั้งติดตามทางโซเชียลมีเดียทั่วโลกรวมกัน 3,500 ล้านคน ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ของฟุตบอลโลกเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว

ส่วนเรื่องที่ทั่วโลกเป็นกังวล คือการรักษาความปลอดภัย หลังจากที่กลุ่มก่อการร้ายอย่างกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้เผยแพร่ภาพขู่ขวัญแฟนบอลมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเหล่าฮูลิแกน แฟนบอลหัวรุนแรงชาติต่างๆ อาจจะเข้ามาสร้างความวุ่นวายและความสูญเสียในการแข่งขันครั้งนี้ คิริล บาร์สกี้ ยืนยันว่า รัสเซียเอาอยู่!

“เรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องใหญ่ของการแข่งขันกีฬาทั่วโลก แต่ถ้ามองกันจริงๆ แล้ว การก่อการร้ายในรัสเซียถือว่าน้อยมาก เพราะเราได้มีการเตรียมตัวในเรื่องนี้มานานมากแล้ว ไม่ใช่แค่ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ แต่รัสเซียเป็นประเทศที่จริงจังกับเรื่องนี้ มีมาตรการพิเศษในการดูแลความสงบของประเทศ มีการใช้ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ในการทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอย่างเอาจริงเอาจัง การออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายบางครั้งก็ทำเพื่อให้คนกลัวแต่ไม่ได้ลงมืออะไร  ส่วนแฟนบอลนั้นทุกคนอยากจะมาสนุกสนาน คงไม่มีใครตั้งใจจะมาทะเลาะวิวาท ยืนยันว่าจะไม่มีเหตุการณ์ร้าย แรงเกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลกอย่างแน่นอน”

ท่านทูตบาร์สกี้กล่าวถึงฟุตบอลโลกกับคนไทยว่า คาดว่าจะมีคนไทยไปร่วมชมฟุตบอลโลกครั้งนี้จำนวนมากพอสมควร ซึ่งก็สอดคล้องกับสถิตินักท่องเที่ยวไทยที่ไปเที่ยวรัสเซียเพิ่มขึ้นในช่วงหลัง ไทยกับรัสเซียเพิ่งฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 120 ปี ไปเมื่อปีที่แล้ว ทั้งไทยและรัสเซียมีประชาชนที่เป็นมิตรต่อกันอยู่แล้ว การเดินทางไปรัสเซียก็ไม่ใช่เรื่องยาก

ส่วนกิจกรรมในประเทศไทยนั้น วันที่ 12 มิถุนายน จะเป็นวันชาติรัสเซีย ซึ่งเป็นวันก่อนเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลกอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มิถุนายน เพียง 2 วันเท่านั้น สถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทยจะจัดงานวันชาติในวันที่ 13 มิถุนายน และจะมีการโปรโมต สร้างความคึกคักให้กับฟุตบอลโลกพร้อมกันไปด้วย หลังจากปิดฉากการแข่งขันไปแล้วก็จะมีการเฉลิมฉลองกันอีกครั้ง ซึ่งต้องดูอีกครั้งว่าจะเป็นงานในรูปแบบไหน

ว่ากันถึงความคาดหวังของฟุตบอลทีมชาติรัสเซีย เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทยกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ต้องยอมรับว่าฟุตบอลทีมชาติรัสเซียผลงานไม่ดีนักในหลายปีหลัง การแข่งขันครั้งนี้ก็ได้เล่นโดยอัตโนมัติจากการเป็นเจ้าภาพ อย่างไรก็ตามทัพหมีขาวมีนักเตะดาวรุ่งอนาคตไกลหลายคนที่เข้ามาติดทีมชาติ และมีการเตรียมทีมที่ดี การได้เล่นในประเทศของตัวเองน่าจะเป็นแรงขับให้นักเตะรัสเซียทำผลงานได้ดี

“การอยู่ในกลุ่มเอร่วมกับซาอุดีอาระเบีย, อุรุกวัย และอียิปต์ หลายคนบอกว่ารัสเซียโชคดีที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มหนัก แต่ส่วนตัวผมมองว่าทั้ง 3 ชาติต่างเป็นทีมที่ดีทั้งนั้น ทำให้เป็นโอกาสที่ดีที่นักเตะของเราจะโชว์ให้เห็นว่าเรามีศักยภาพ เสียงเชียร์จากคนบ้านเดียวกันจะทำให้เกิดแรงฮึกเหิม ผมว่าจุดนี้จะทำให้รัสเซียมีผลงานดีในฟุตบอลโลก”

ส่วนความทรงจำของบาร์สกี้กับฟุตบอลโลกนั้น ได้พูดถึงนักเตะในดวงใจพร้อมรอยยิ้มว่า “โซเวียตเคยมีนักเตะยอดเยี่ยมมากมาย ในสมัยที่ผมเป็นเด็ก ผมชอบ เลฟ ยาชิน ผู้รักษาประตูที่ได้รับการยกย่องว่าเก่งที่สุดในโลกตลอดกาล ส่วนนักเตะต่างชาติต้องยกให้ โรนัลดินโญ่ ของบราซิล เขาเหมือนพ่อมดของวงการฟุตบอลเลยก็ว่าได้ แถมยังยิ้มเก่ง” ท่านทูตย้อนความหลัง

ปิดท้ายด้วยคำถามสำคัญของการสัมภาษณ์ครั้งนี้คือ ในความคิดของทูตบาร์สกี้แล้ว ทีมไหนจะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก?

ได้รับคำตอบสั้นๆ ว่า “ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดจะเป็นแชมป์”

สำหรับนัดเปิดสนามฟุตบอลโลก 2018 จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน เป็นการพบกันระหว่าง “เจ้าภาพ” รัสเซีย กับ ซาอุดีอาระเบีย ตัวแทนจากทวีปเอเชีย แข่งที่ลุซนิกิ สเตเดียม กรุงมอสโก เวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

เตรียมตัวอดนอนกันไว้แล้วหรือยัง!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image