คุยนอกจอ โดย เอกราช เก่งทุกทาง : เจ้ายุโรป

ศึกแชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิง ลิเวอร์พูล-รีล มาดริด วันเสาร์นี้คือเกมที่แฟนหงส์แดงรอคอย และหวังว่าทีมตัวเองอาจจะเป็นแชมป์

จุดที่ทำให้ “เดอะ ค็อป” เกิดความหวังมี 2 เรื่อง

หนึ่งคือ เชื่อมั่นในเกมเพรสซิ่ง มั่นใจว่า พลังความสด ความขยัน จะสะกดเกมของรีลอยู่หมัด

ข้อสองคือ ความคมของ โม ซาลาห์ ที่ยิงกระจาย คว้าทุกรางวัลยอดเยี่ยมในอังกฤษ เป็นปีทองที่รุ่งสุดๆ

Advertisement

สองจุดนี้ ลิเวอร์พูลดีจริงๆ เป็นทีเด็ดที่ฝากความหวังได้ แต่ก็เป็นแค่สองจุดที่หงส์แดงดูดีกว่า อย่างอื่นนอกเหนือจากนี้เป็นรองหมด!

หงส์มีซาลาห์ รีลก็มี โรนัลโด้ ฤดูกาล 2017-18 โมยิงรวมทกุนัด ทั้งเล่นให้ลิเวอร์พูล และ ทีมชาติอียิปต์ 48 ประตู ขณะที่โด้ซัดไป 50 ลูก

รีล มาดริด เก๋ากว่าเยอะ ความสามารถเฉพาะตัวเหนือกว่า ทีมชุดนี้เป็นแชมป์ยุโรปมา 2 ปีติด กำลังลุ้นเอา 3 สมัยซ้อน

Advertisement

ตำแหน่งที่ทีมชุดขาวดีกว่าชัดเจนคือ แดนกลาง

มิดฟิลด์รีล มาดริด ที่มี คาเซมิโร่, โทนี่ โครส, ลูก้า โมดริช เหนือชั้นกว่า จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ชัดเจน ถ้าหลงเหลี่ยมเมื่อไหร่ โดนพับสนามทันที

ยิ่งกว่านั้นลิเวอร์พูลยังมีจุดสลบที่จะโดนเจาะแน่ๆ คือ แบ๊คขวา เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

ผมชอบเทรนต์ อีก 2-3 ปีหมอนี่จะเป็นแบ๊คที่เก่งระดับยุโรป แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่ ความไม่เก๋าของเขาจะโดนรีลจู่โจมแบบเน้นๆ ทั้งจาก มาร์เซโล่, อิสโก้ หรืออาจจะรวมถึงโรนัลโด้

ส่วนเรื่องที่ว่า ทีมชุดขาวจะเสียท่าให้เกมเพรซซิ่งของหงส์แดง มันก็ยังไม่แน่ เพราะฝ่ายหงส์ก็ต้องระวังเกมเพรสคืนจากทางมาดริดด้วย

แดนกลางของรีลอาจจะไม่ดุดันมากนัก แต่ก็ช่วยกันไล่บีบเกมคู่แข่งเหมือนกัน ไม่ใช่เอาแต่ทำเป็นเหนือ หรือทำตัวขี้เกียจซะเมื่อไหร่

รวมๆ แล้ว ลิเวอร์พูลเป็นรองอยู่พอสมควร

แต่ทีมอย่างหงส์แดงก็มีบุคลิกเฉพาะตัวที่ความเหนือของรีล มาดริด อาจจะเคี้ยวไม่ลง

อย่าลืมว่า บอลสไตล์ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ใช่บอลเทพ เน้นทีมเวิร์ก วินัย และความแข็งแกร่งมากกว่าความเหนือชั้นมาแต่ไหนแต่ไร

บอลที่เด่นเรื่องพลัง ความเร็ว ก็เอาพลังกับความเร็วเข้าสู้ ใช้ระบบช่วยกันรุม มาชดเชยทักษะที่เป็นรอง

ถ้าหวังชนะ ลิเวอร์พูลอาจต้องเสี่ยงดันขึ้นไปบีบพื้นที่ ไฮเพรสซิ่ง ก่อกวนอย่าให้รีล มาดริด ตั้งเกมติด และพยายามยิงประตูชิงขึ้นนำก่อนให้ได้

ถ้าหงส์แดงจะชนะน่าจะชนะอย่างตื่นเต้น แต่ถ้าแพ้อาจจะแพ้แบบสู้ไม่ได้ แพ้ตามความเป็นจริง

ผมเองหนักใจแทนลิเวอร์พูล…จนกระทั่งภาพนัดชิงปี 2005 ลอยเข้ามาอยู่ในหัว

ปีนั้นหงส์แดงก็เป็นรอง เอซี มิลาน โดนนำ 3-0 แต่กลับรวมพลังไล่ตีเสมอแล้วพลิกชนะด้วยการยิงลูกโทษ

ทีมสปิริตของลิเวอร์พูลเป็นสิ่งที่ประเมินไม่ได้ และห้ามมองข้ามเป็นอันขาด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image