เคาต์ดาวน์ ทู ‘รัสเซีย 2018’ : ‘กลุ่มเอช’ ‘โคลอมเบีย’ไม่หมู-อีก3ทีมลุ้นหนัก

เดินทางกันมาจนถึง กลุ่มเอช กลุ่มสุดท้ายสำหรับการปรีวิว ฟุตบอลโลก 2018 เป็นที่เรียบร้อย มองเผินๆ อาจจะเป็นกลุ่มที่ไม่น่าสนใจ แต่ก็มีทีมที่เป็นแม่เหล็กอยู่ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

เริ่มต้นด้วยทีมเต็งของกลุ่มนี้อย่าง โคลอมเบีย ม้ามืดของฟุตบอลโลกหนที่แล้ว ซึ่งสามารถผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนจะแพ้ให้กับ บราซิล ไป และนั่นก็เป็นผลงานที่ดีที่สุดของโคลอมเบียในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอีกด้วย

ในครั้งนี้โคลอมเบียต้องลุ้นกันจนถึงนัดสุดท้ายในรอบคัดเลือก ด้วยการเสมอกับทีมชาติ เปรู คว้าอันดับ 4 ของโซนอเมริกาใต้ ซึ่งเป็นตั๋วเข้าสู่รอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติมาได้สำเร็จ

Advertisement

นักเตะที่เป็นซุป’ตาร์ในทีมนี้คงหนีไม่พ้น ฮาเมส โรดริเกซ ดาวซัลโวจากฟุตบอลโลกหนก่อนที่ทำไป 6 ประตู ครั้งนี้เพลย์เมกเกอร์คนนี้ยังเป็นหัวใจสำคัญของทีมเช่นเดิม นอกจากนี้ยังมี ราดาเมล ฟัลเกา กองหน้าที่พลาดฟุตบอลโลกหนก่อนด้วยอาการบาดเจ็บ กลับมาครั้งนี้ในฐานะกัปตันทีมอีกด้วย

ส่วนตัวหลักอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ดาวิด ออสปิน่า, ฮวน ควาดราโด้, ดาวิซอน ซานเชซ และ คาร์ลอส บัคก้า ยังมากันครบครัน

ทีมต่อมาก็จัดว่าน่าสนใจไม่น้อย นั่นก็คือตัวแทนจากทวีปแอฟริกาอย่าง เซเนกัล ทีมที่เคยเป็นม้ามืดในฟุตบอลโลกเมื่อปี 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถเข้ามาเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้อีกเลยจนกระทั่งหนนี้ ซึ่งเมื่อบอลโลกฉบับเอเชียปี 2002 เซเนกัลเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายแบบพลิกความคาดหมาย

Advertisement

มาในครั้งนี้เซเนกัลผ่านมาถึงรอบสุดท้ายด้วยการเป็นจ่าฝูงของกลุ่มดีในรอบคัดเลือก พร้อมกับผลงานชนะ 4 เสมอ 2 มีแต้มเหนือบูร์กินา ฟาโซ ถึง 5 แต้มด้วยกัน

ทีมชุดนี้นำมาโดย อลิยู ซิสเซ่ อดีตกัปตันทีมชาติชุดเมื่อปี 2002 ที่ก้าวขึ้นมาเป็นกุนซือชุดใหญ่ในช่วงรอบคัดเลือก ขณะที่ผู้เล่นนั้นก็มีดาวเด่นที่เล่นอยู่ในยุโรปหลายราย ไม่ว่าจะเป็น ซาดิโอ มาเน่ ปีกตัวเก่งของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล, ชิคกู คูยาเต้ กองกลางกัปตันทีมชุดนี้ จาก “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, คาลิดู คูลิบาลี่ กองหลังสุดแกร่งของนาโปลี และ เกอิต้า บัลเด้ กองหน้าของอาแอส โมนาโก ในฝรั่งเศส เป็นต้น

อีกทีมหนึ่งในกลุ่มนี้คือ โปแลนด์ อีกหนึ่งทีมแกร่งจากยุโรป ที่คว้าโควต้าได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006 โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 ที่สามารถผ่านเข้ามาถึงรอบสุดท้ายได้ ซึ่งผลงานที่ดีที่สุดของโปแลนด์คือการคว้าอันดับ 3 ได้ถึง 2 หนในปี 1974 กับ 1982

ผลงานในรอบคัดเลือกนั้นพวกเขาเป็นแชมป์กลุ่มอี ชนะ 8 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้ 1 นัด มีแต้มห่าง เดนมาร์ก รองแชมป์กลุ่มถึง 5 คะแนนด้วยกัน

ผู้เล่นที่เป็นตัวความหวังของโปแลนด์ในทีมชุดนี้คงไม่ใช่ใครอื่นนั่นก็คือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยอดดาวยิงระดับโลกที่ทำไปถึง 16 ประตูในรอบคัดเลือก และมีถึง 3 แฮตทริกด้วยกัน นอกจากนี้ยังมี เกรกอร์ซ ครีโชเวียค จอมทัพของทีม, ปิโอเตอร์ เซลินสกี้ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่ง และ ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ จอมเก๋าวัย 32 ปี

ทีมสุดท้ายของกลุ่มนี้คือตัวแทนจากทวีปเอเชียอย่าง “ซามูไรบลูส์” ญี่ปุ่น ทีมขวัญใจคนไทยอีกหนึ่งทีมนั่นเอง พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้ทุกครั้งตั้งแต่เปิดตัวต่อชาวโลกเมื่อ “ฟร้องซ์ 98” เพียงแต่ผลงานก่อนๆ หน้านี้ไม่เคยผ่านเกินรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้แม้แต่ครั้งเดียว

มาในครั้งนี้ซามูไรบลูส์ผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มบี ในรอบคัดเลือกโซนเอเชีย ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ของเราด้วย

ส่วนผู้เล่นก็ยังนำมาด้วยนักเตะที่เล่นอยู่ในยุโรป ไม่ว่าจะเป็น ชินจิ คากาวะ, ชินจิ โอกาซากิ, ฮิโรกิ ซากาอิ, มายะ โยชิดะ เป็นต้น และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เคย์สุเกะ ฮอนดะ จอมทัพตัวเก่งที่ปัจจุบันเล่นให้กับทีมปาชูก้า ในลีกเม็กซิโกนั่นเอง

สำหรับกลุ่มนี้ตัวเต็งที่จะผ่านเข้ารอบไปได้คงหนีไม่พ้นโคลอมเบียที่ดูจะเหนือกว่าทุกๆ ทีมในกลุ่มด้วยกัน อย่างไรก็ตาม อีก 3 ทีมที่เหลือก็ล้วนแต่เป็นทีมที่ประมาทไม่ได้แทบทั้งสิ้น ทุกทีมถือว่ามีลุ้นในการทะลุสู่รอบสองด้วยกันทั้งนั้น

เผลอๆ อาจจะมีกรณีแต้มเสมอต้องวัดด้วยประตูได้-เสียก็เป็นได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image