เมื่อวันที่ 16 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ราชตฤณมัยสมาคมฯ ซึ่งเป็นการแข่งขันม้าวันสุดท้ายก่อนจะหยุดดำเนินการ ตั้งแต่ช่วงก่อนขายบัตรเวลา 10.10 น. ได้มีประชาชนเข้ามาอย่างคึกคัก โดยมีผู้ชมรอต่อแถวหน้าตู้จำหน่ายจำนวนมาก ทั้งนี้ การแข่งขันรอบแรกเริ่มเวลา 12.20 น. ต่อเนื่องไปจนรอบสุดท้ายประมาณเวลา 18.00 น. สำหรับม้าชนะเลิศที่ 1 ของทุกเที่ยวจะได้รับถ้วยรางวัล รวมทั้งเทรนเนอร์จ๊อกกี้และคนเลี้ยงม้าจะได้เงินรางวัลเพิ่มเป็น 200 เปอร์เซ็นต์ และรอบที่ 10 หรือรอบสุดท้ายจะมีการมอบถ้วยรางวัลพิเศษ “ถ้วยพระยาประดิพัทธภูบาล (คอยู่เหล ณ ระนอง)” โดยมีทายาทเป็นผู้ส่งมอบ
พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ รองประธานอำนวยการราชตฤณมัยสมาคมฯ กล่าวว่า ผู้เข้าชมการแข่งขันวันนี้ต่างรู้สึกตื่นเต้น เชื่อว่าวันนี้จะกลายเป็นความทรงจำของผู้ที่ชื่นชอบการแข่งขันม้า เพราะเปิดมานานถึง 102 ปี ส่วนใหญ่ที่เข้ามาจะเป็น คนแก่ที่ผูกพันกับสนาม คาดว่าวันนี้จะมีผู้ชมเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งความพิเศษของวันนี้คือจะเพิ่มจำนวนม้าแข่ง จาก 14 ตัว เป็น 15 ตัว และเพิ่มเงินรางวัลสำหรับผู้ดูแลม้าเป็น 200 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเป็นม้าเที่ยวที่ 5 ชั้น 5 จะเพิ่มเงินรางวัลให้ผู้ชนะเป็น 300 เปอร์เซ็นต์
นายแดง (สงวนนามสกุล) ผู้ชมม้าแข่ง อายุ 73 ปี กล่าวว่า ตามดูการแข่งม้าได้ 50 ปีแล้ว วันนี้มาถึงตั้งแต่เช้า ตั้งใจมาเชียร์ม้าแข่งหลายตัว โดยเฉพาะเที่ยวแรกนั้นเชียร์เบอร์ 1 ซึ่งการเชียร์ม้าแข่งต้องดูที่ความเร็วของม้า ม้าวิ่งสู้ไม่ยอมตัวอื่น และจ๊อกกี้ที่เก่งคือจ๊อกกี้ที่ไม่บังคับม้ามากจนเกินไป ทั้งนี้ ปกติจะมาคนเดียวแล้วมาเจอเพื่อนๆ ในสนาม โดยเพื่อนในกลุ่มมีตั้งแต่อายุ 50-90 ปี
“ดูการแข่งม้ามานานแล้ว ปกติจะดูทั้งวัน ตั้งแต่เช้าจรดเย็น เนื่องจากบ้านอยู่แถวๆ ศาลเจ้าพ่อเสือเท่านั้น และอยู่บ้านว่างๆ ไม่รู้จะไปไหน อีกทั้งห้ามไม่ให้ลูกหลานมา เพราะกลัวเขาจะแทงม้าแล้วหมดเงินเยอะ นอกจากนี้ยังตามไปดูที่สนามราชกรีฑาสโมสร หรือสนามฝรั่ง ย่านปทุมวันด้วย ที่นครราชสีมา หรืออุดรธานีก็นั่งรถไปดู แต่ถ้าสนามม้านางเลิ้งปิดตัวลงคงไม่ไปไหนแล้ว เพราะสนามฝรั่งเองหารถกลับยาก” นายแดงกล่าว
ทั้งนี้ ราชตฤณมัยสมาคมฯ เริ่มขึ้นในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินกลับจากประพาสยุโรปในปี พ.ศ.2440 สโมสรน้ำเค็มศึกษา สมาคมของข้าราชการและนักเรียนที่เคยไปทำงาน ศึกษา หรือเดินทางไปยุโรป ได้ร่วมกับเจ้าของคอกม้าต่างๆ จัดแข่งม้าเทียมรถ เพื่อเป็นการต้อนรับและถวายความจงรักภักดีต่อในหลวง รัชกาลที่ 5 โดยปรับให้ท้องสนามหลวงกลายเป็นสนามแข่งม้าชั่วคราว นับเป็นการจัดกีฬาแข่งม้าแบบตะวันตกครั้งแรกของประเทศไทย ต่อมา ปี พ.ศ.2444 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้งราชกรีฑาสโมสร หรือ “สนามฝรั่ง” เพื่อเป็นทั้งแหล่งบันเทิงจำกัดวงสำหรับคนต่างชาติ
จากนั้น ในสมัยรัชกาลที่ 6 พระยาประดิพัทธภูบาลและพระยาอรรถการประสิทธิ์ได้ทำหนังสือทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระบรมราชานุญาตตั้งสโมสรสนามม้าแข่ง “สนามไทย” เพื่อให้บริการแข่งม้าสำหรับคนไทยและนำรายได้มาใช้บำรุงพันธุ์ม้าจากประเทศออสเตรเลียและอังกฤษ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชานุญาตพร้อมพระราชทานนามว่า “ราชตฤณมัยสมาคมแห่งกรุงสยาม” และทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ.2459 และพระราชทานนามว่า “ราชตฤณมัยสมาคม”
