“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย “มาดามบุษ” นางบุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ, คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ, นักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ตลอดจนบุคคลในวงการกีฬา และเจ้าหน้าที่สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ ร่วมกันทำบุญเลี้ยงเพลพระ เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นฯ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่วัดเทพลีลา จากนั้นช่วงเย็นวันเดียวกัน ได้จัดงานเลี้ยงฉลองปีใหม่และสรุปผลงาน ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน
พล.ต.อินทรัตน์กล่าวว่า ตลอดเวลา 60 ปีที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ ได้พยายามพัฒนาวงการยกน้ำหนักไทยอย่างสุดความสามารถ จนปัจจุบันนักยกน้ำหนักของไทยสามารถก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับแถวหน้าของโลกได้อย่างภาคภูมิใจ แต่สิ่งที่เป็นกังวลเป็นเรื่องเกี่ยวกับศูนย์ตรวจสารต้องห้ามในประเทศไทย ที่ค่อนข้างล้าสมัย ทั้งที่ปัจจุบันองค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (วาด้า) ได้ประกาศรายชื่อสารต้องห้ามใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกจำนวนมาก ซึ่งสมาคมฯ เกรงว่าอาจมีสารต้องห้ามบางตัวอยู่ในอาหารเสริมของนักกีฬา หากศูนย์ตรวจสารต้องห้ามของไทยตรวจไม่พบ แต่กลับตรวจพบในศูนย์ตรวจสารต้องห้ามระดับนานาชาติที่มีความทันสมัยมากกว่าก็จะส่งผลเสียเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่กีฬายกน้ำหนักเท่านั้น หากยังรวมถึงกีฬาทุกชนิดด้วย สำหรับปัญหาดังกล่าวตนได้นำเสนอต่อ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทาง กกท. ก็เห็นถึงความสำคัญและพร้อมให้การสนับสนุน โดยจะต้องร่วมมือกับศูนย์ตรวจสารต้องห้าม ม.มหิดล ส่วนงบประมาณนั้นอาจจะนำมาจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ
พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวต่อว่า ปีหน้าสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ ยังมีภารกิจส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันหลายรายการ โดยรายการสำคัญ ได้แก่ ยกน้ำหนักยุวชนชิงชนะเลิศแห่งโลก ระหว่างวันที่ 8-15 มีนาคม ที่นครลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา, ยกน้ำหนักเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งโลก ระหว่างวันที่ 1-8 มิุนายน ที่ประเทศฟิจิ, ยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ระหว่างวันที่ 18-27 กันยายน ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย ซึ่งรายการนี้จะเป็นเวทีสะสมคะแนนเพื่อไปโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2020, ยกน้ำหนักยุวชนและเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ระหว่างวันที่ 20-27 ตุลาคม ที่ประเทศเกาหลีเหนือ และปิดท้ายด้วยการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปิปนส์ ในเดือนธันวาคม
“ภารกิจในปีหน้ายังคงเป็นงานหนัก โดยเฉพาะการคว้าโควต้าไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ แต่ยังมั่นใจว่าผู้หญิงจะสามารถคว้าได้ 4 คนเต็มโควต้า ส่วนผู้ชายก็มีลุ้นจะเก็บได้ 3-4 คนเช่นกัน สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ ยืนยันว่าจะพยายามทำผลงานในทุกรายการให้ดีที่สุดเพื่อนำความสุขมาให้แฟนกีฬาชาวไทย” พล.ต.อินทรัตน์ กล่าว
