สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทยส่งนักระบำใต้น้ำทีมชาติไทยไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม – 9 พฤษภาคม โดยเมื่อคืนวันที่ 19 มีนาคม ทัพนักระบำใต้น้ำไทยได้ออกเดินทางด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ ทีจี 940 จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีพล.อ.อภิชาต แสงรุ่งเรือง อุปนายกฝ่ายกีฬาระบำใต้น้ำ, “โค้ชตึก” นายธนาวิชญ์ โถสกุล เลขาธิการสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย, อ.วรพงษ์ พัชรวิชญ์ อดีตผู้ฝึกสอนว่ายน้ำทีมชาติไทย มาให้โอวาท
สำหรับทีมระบำใต้น้ำทีมชาติไทยชุดนี้ นำโดย นางธนภร ประสงค์สุข ผู้จัดการทีม, นางสาวญาณินี จาตุรงคกุล ผู้ฝึกสอนชาวไทย และ คลาวเดีย แทปปาเรลลี่ ผู้ฝึกสอนชาวอิตาลี นักกีฬาระบำใต้น้ำชุดทีมชาติไทย มีดังนี้ วรนันท์ ตุ้มฉาย, สุพิชญา ทรงพันธุ์, จันทรัสม์ จารุประดิษฐ์เลิศ, พงศ์พิมพร พงศ์สุวรรณ, ปัฌรวี ชยวรารักษ์, กุลธิดา อยู่กิจติชัย, อธิชา คุณเฉย, ธัญกร เชาวลิตถวิล, พัชรพร สมยศ, อามีนะห์ ปรัง, พลอยน้ำเพชร เนตรทิพย์, อาภาภัทร แสงรัศมี / นักระบำใต้น้ำเยาวชนทีมชาติไทย ดังนี้ ชาลิสา สินสวัสดิ์, ณ นภาฑ์ จ่าภา, นันท์นภัส ดวงประเสริฐ, ปภัสรา อยู่กิจติชัย, พรชนัน ประภานิจ, ปาณิสรา ชื่นเจริญ, มัชฌิมา สินณรงค์, อินทิยา สวรรค์คำธรณ์, นิชาภา ตะเคียนนุช
นายธนาวิชญ์กล่าวว่า นักกีฬาชุดนี้ได้ทำการคัดตัวมานานแล้วและเป็นโอกาสดีที่เราได้โค้ชชาวอิตาลีอย่าง คลาวเดีย แทปปาเรลลี่ มาช่วยพัฒนาวงการระบำใต้น้ำไทยและยังมีเครือข่ายทีมระบำใต้น้ำต่างๆ ในอิตาลี ทำให้นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทางสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทยตัดสินใจส่งนักกีฬาทั้ง 2 ชุดไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่อิตาลี นอกจากนี้ระหว่างที่เก็บตัวก็จะตระเวนแข่งขันรายการต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ให้แก่นักกีฬา
โค้ชตึกกล่าวอีกว่า การแข่งขันระบำใต้น้ำในแผนที่สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทยได้วางไว้ 2 รายการคือ รายการว่ายน้ำชิงแชมป์โลก “ฟีน่า เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2019” ระหว่างวันที่ 12-28 กรกฎาคม ที่ประเทศเกาหลีใต้ กับ รายการว่ายน้ำเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย “เอเชี่ยน เอจกรุ๊ป แชมเปี้ยนชิพส์ 2019” ที่ประเทศอินเดีย แต่ตอนนี้ที่ส่งแข่งแน่นอนก็คือชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ส่วนรายการชิงแชมป์โลกอยู่ในแผนก็จริงแต่ทางสมาคมต้องรองบจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หากมีงบก็จะส่งเข้าร่วมแน่นอนเพื่อจะได้เสริมสร้างพัฒนการรวมไปถึงประสบการณ์ให้แก่นักกีฬาระบำใต้น้ำไทย
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
