ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิ่งมาราธอน ‘ก้องศักด’หวังยกระดับการแข่งขันไทยสู่ระดับโลก

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานในการแถลงข่าวจัดงานประชุมวิ่งมาราธอนระดับโลก “โกลบอล รันนิง ซัมมิท 2019” ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม โดยมี “แฝดใหญ่” พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ รวมถึงดาราสาวนักวิ่งชื่อดังอย่าง “ก้อย” รัชวิน วงศ์วิริยะ, “โย” ยศวดี หัสดีวิจิตร และ “หญิง” รฐา โพธิ์งาม ร่วมแถลง

การประชุมวิ่งมาราธอนระดับโลก “โกลบอล รันนิง ซัมมิท 2019” จะจัดขึ้นที่โรงแรมเดอะริเวอร์รี่ บายกะตะธานี จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 4-5 กรกฎาคม โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญและกูรูวงการวิ่งระดับโลกเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก ทั้ง แอนดี้ ดัสเชสน์ ผู้อำนวยการจุดสตาร์ทบอสตัน มาราธอน หรือ เลซี่ โอเว่น จากชิคาโก้ มาราธอน เป็นต้น นอกจากนี้ยังจะมีการจัดงานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนนานาชาติแห่งใหม่ของประเทศไทยรายการ “ยูเมะ พลัส เชียงราย 2019” ระยะ 21.1 กม. ในวันที่ 7 กรกฎาคม

ดร.ก้องศักด กล่าวว่า โครงการนี้นับเป็นการร่วมมือกันระหว่างทั้งภาครัฐและเอกชน มีจุดมุ่งหมายเพื่อจะยกระดับการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนในประเทศไทย ซึ่งในปีหนึ่งนั้นประเทศไทยมีการจัดมากกว่า 100 รายการ ทั้งเป็นเลิศและเพื่อสุขภาพจึงอยากยกระดับการแข่งขันไปสู่ระดับโลกให้ได้

ผู้ว่าการกกท. กล่าวต่อว่า ในงานนี้ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญที่เคยผ่านการจัดงานระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่บอสตันมาราธอน หรือโตเกียวมาราธอน เข้ามาให้ความรู้ รวมถึงสมาคมกีฬากรีฑาฯ, ชมรมนักวิ่ง, ผู้ที่เคยเข้าร่วมการแข่งขัน เข้ามาคุย แชร์ประสบการณ์กัน เพื่อนำข้อมูลต่างๆ มาใช้ การประชุมครั้งนี้จะถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น ที่จะทำให้การวิ่งในประเทศไทยมีมาตรฐานมากขึ้น และอนาคตอยากให้มีการจัดการแข่งขันในระดับโลกเกิดขึ้นที่ประเทศไทยเช่นกัน

Advertisement

“ถ้าหากไทยสามารถยกระดับรายการวิ่ง หรือทำให้มีมาตรฐานได้ ก็จะได้ประโยชน์ในเรื่องของการส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยหันมาสนใจการวิ่งมากยิ่งขึ้น ปลูกฝังให้คนรักการวิ่ง รวมไปถึงยังส่งเสริมในเรื่องของการกระตุ้นรายได้ต่างๆ ที่จะเข้ามายังประเทศ กระจายไปยังชุมชนต่างๆ อีกด้วย เพราะอย่างบอสตันมาราธอน ที่ได้ศึกษามา สามารถทำรายได้ให้กับประเทศได้มากกว่าปีละ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ”

ดร.ก้องศักด กล่าวเสริมว่า อย่างในระดับโลกจะมีการแบ่งเอาไว้เป็นระดับ โกลด์, ซิลเวอร์, บรอนซ์ ก็อยากที่จะเห็นประเทศไทยมีการแข่งขันในระดับโกลด์เกิดขึ้น เพราะตอนนี้อ่องกง, สิงคโปร์ หรือจีนเองก็มีหลายรายการแล้ว ขณะที่ในประเทศไทยเองถ้าหากสามารถวางมาตรฐานของตัวเอง แบ่งระดับการแข่งขันได้ ก็จะเป็นการจัดระเบียบการแข่งขันใสนไทย จูงใจให้คนเข้าร่วมมากขึ้นได้ด้วย

“ภายใน 3 ปี คิดว่าประเทศไทยจะสามารถมีการแข่งขันในระดับโกลด์ได้ เพราะตอนนี้ บางแสนฮาล์ฟมาราธอน ก็ได้รับเลือกให้เป็นการแข่งขันระดับ บรอนซ์ ไปแล้ว ก็ถือว่าเป็นสนามที่มีโอกาสดี รวมถึงสนามอื่นๆ ก็มีโอกาสเช่นกัน” ดร.ก้องศักด กล่าวปิดท้าย

Advertisement

ด้าน พล.ต.ต.สุรพงษ์ กล่าวว่า การจะก้าวขึ้นไปเป็นการแข่งขันในระดับโกลด์ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 7 ปี ก็จะสามารถก้าวขึ้นไปได้ หวังว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็นก้าวแรกที่ทำให้การวิ่งในประเทศไทยนั้นประสบความสำเร็จมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น ซึ่งประเทศไทยนั้นถือว่าเป็นประเทศที่มีสเน่ห์หลายอย่างที่ต่างชาติให้การยอมรับอยู่แล้ว ในอนาคตทางสมาคมและกกท. ก็จะร่วมกันวางมาตรฐานให้กับการแข่งขันในอนาคต เข้ามาจัดระบบการแข่งขันในประเทศไทยให้ดีกว่าเดิม

ก้อย รัชวิน กล่าวว่า ดีใจที่ได้เห็นทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาให้ความสนใจในการสร้างมาตรฐานการวิ่งในประเทศไทย จากการไปวิ่งในต่างประเทศมาก็มองว่าประเทศไทยยังมีจุดที่ต้องพัฒนาอยู่ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะทำให้การแข่งขันในประเทศไทยก้าวไปสู้ระดับโลกได้ ตอนนี้ในประเทศไทยนิยมการวิ่งอย่างมาก มีการแข่งขันเยอะมากในแต่ละสัปดาห์ ถ้าการแข่งขันมีมาตรฐานก็เป็นโอกาสดีที่จะช่วยดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาด้วยเช่นกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image