ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัญฑิต โปรวัย 29 ปีจากขอนแก่น แรงจัดในช่วงเก้าหลุมสุดท้ายก่อนจบรอบสุดท้าย 6 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสี่วัน 19 อันเดอร์พาร์ 269 คว้าแชมป์ที่ 5 ในอาชีพ แต่เป็นการคว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการที่สองในชีวิต ในศึก “สิงห์-เอสเอที กาญจนบุรี คลาสสิค 2019” ที่สนามเอเวอร์กรีน ฮิลล์ส กอล์ฟ คลับ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน
ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต ซึ่งออกสตาร์ตรอบสุดท้ายตามหลังผู้นำ 2 สโตรก ทว่าในช่วงเก้าหลุมแรกแม้จะเก็บเบอร์ดี้ได้ตั้งแต่หลุม 3 ทว่าจากนั้นอีกสี่หลุมไปพลาดเสียสามโบกี้จากการเสียสามพัตต์ทั้งสามหลุม ก่อนกลับมาคุมเกมได้อีกครั้งด้วยการเก็บสี่เบอร์ดี้ติดตั้งแต่หลุม 8 จากนั้นไปได้อีก 2 เบอร์ดี้ที่หลุม 13 และ 15 ก่อนปิดท้ายด้วยอีเกิ้ลที่หลุม 16 จบรอบสุดท้าย 6 อันเดอร์พาร์ 66 คว้าแชมป์ไปครองสำเร็จโดยเฉือนชนะภวินท์ อิงคะประดิษฐ์ ที่มาแรงในรอบสุดท้ายด้วยการหวดเข้ามาถึง 9 อันเดอร์พาร์ 63 ไป 2 สโตรก ขณะที่ ฐิติพัศ เล็ม ผู้นำรอบสาม รวมสี่วัน 16 อันเดอร์พาร์ 272 จบอันดับสาม
ชัยชนะรายการนี้นับเป็นการคว้าแชมป์ระดับอาชีพรายการที่ห้าในชีวิตของ ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต แต่เป็นการคว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการที่สองต่อจากชัยชนะที่สนามกอล์ฟเขื่อนรัชชประภา เมื่อปี 2016 ซึ่งเปิดเผยหลังจากรับเงินรางวัลไปครอง 240,000 บาท ว่า “ชัยชนะในสัปดาห์นี้ของผมน่าจะมาจากความอดทน เพราะตลอดทั้งสัปดาห์ผมเล่นด้วยความอดทนอยู่ในเกมของตัวเองตลอด ไม่ได้ไปสนใจคนอื่น ไม่ไปอยู่กับเกมของคนอื่น อยู่ในเกมของเราและเราก็รู้ว่าสนามแบบนี้เราสามารถทำสกอร์ได้”
นักกอล์ฟวัย 29 ปีจากขอนแก่นยังกล่างถึงเกมในรอบสุดท้ายด้วยว่า “วันนี้สตาร์ตออกไปดีครับ มีเบอร์ดี้ก่อน แต่ไปสามพัตต์สามหลุมเสียสามโบกี้ ทำให้เกมตื้อๆ แต่เหมือนดึงเรากลับมาว่าเราต้องกลับมาโฟกัสที่ตัวเรา ก็มีสมาธิกับเกม กลับมาเล่นได้ดีได้สี่เบอร์ดี้ติดกัน จนกระทั่งพัตต์อีเกิ้ลระยะประมาณ 20 ฟุตลงไปที่หลุม 16 ก็มั่นใจว่าไม่น่าพลาด”
ถิรวัฒน์ ยังกล่าวต่ออีกว่า “ตอนแรกก็อยากชนะ คิดว่าตัวเองทำได้ เราเป็นเกมที่ชอบตีไล่อยู่แล้ว ตีจากข้างหลังไล่ขึ้นไป ก็รู้สึกว่ามันเป็นเกมของเรา ตอนที่เสียสามโบกี้ก็รู้สึกว่ามันห่างไปแล้ว ก็คิดว่าเค้าห่างไปแล้วก็ไม่ได้มองอะไรกลับมาเล่นเกมตัวเอง แต่พอช่วง 3-4 หลุมสุดท้าย ก็มาดูว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร จำเป็นต้องเล่นแบบไหน จำเป็นต้องบุกหรือว่าต้องเซฟ”
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
ฃ
