ร.ท.ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ รองประธานและเลขาธิการสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย และนายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมแถลงข่าวและจับสลากแบ่งสายการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง รอบคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ทวีปเอเชีย ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม
ผลการจับสลากออกมาดังนี้ กลุ่มเอ ไทย, ไต้หวัน, ออสเตรเลีย / กลุ่มบี เกาหลีใต้, คาซัคสถาน, อิหร่าน, อินโดนีเซีย
โปรแกรมการแข่งขันของทีมตบสาวไทย วันที่ 7 มกราคม 2563 ไทย พบ ไต้หวัน / วันที่ 9 มกราคม ไทย พบ ออสเตรเลีย รอบอรองชนะเลิศ วันที่ 11 มกราคม 2563, รอบชิงชนะเลิศ วันที่ 12 มกราคม 2563 แข่งขันที่ยิมเนเซียม ชาติชาย ฮอลล์ จ.นครราชสีมา แข่งขันเวลา 18.00 น.ถ่ายทอดสดทางอมรินทร์ทีวีทุกแมตช์
“โค้ชด่วน” นายดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลทีมชาติไทย กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีนักกีฬาที่บาดเจ็บไปหลายคน แต่ความพร้อมของทุกคนเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายและกลยุทธ์เข้ากันได้เรื่อย ซึ่งทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันอย่างดี เพราะมีเป้าหมายเดียว คือ ต้องไปโอลิมปิกให้ได้ ที่สำคัญอาจจะเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของหลายคนที่จะได้ไปโอลิมปิก การเล่นในบ้านต้องสู้อย่างเต็มที่ที่สุดเท่าที่มี และแรงเชียร์แรงใจจากแฟนวอลเลย์บอลชาวไทย
“เราเป็นแชมป์ในกลุ่มนี้ได้แน่นอน แต่ก็ต้องดูว่าคาซัคสถานหรืออินโดนีเซียจะสามารถต้านทานเกาหลีใต้ได้หรือไม่ ส่วนการจะไปเก็บตัวที่ญี่ปุ่นในช่วงต้นเดือนหน้า จะเป็นการซ้อมกลยุทธ์ครั้งสุดท้ายก่อนจะไปแข่งขันซีเกมส์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะที่ญี่ปุ่นมีความพร้อม และจะได้ลงอุ่นเครื่องกับทีมของโอกายาม่า จะได้มีสมาธิในการฝึกซ้อมอย่างเต็มที่” โค้ชด่วนกล่าว
ด้าน “ซาร่า” นุศรา ต้อมคำ กัปตันทีมตบสาวไทยกล่าวว่า การได้ไปโอลิมปิกเป็นงานสำคัญและเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ให้สมาคม เชื่อว่าทุกคนจะสู้อย่างเต็มที่ ส่วนคู่แข่งทุกทีมมีข้อดีแตกต่างกันไป อยากให้แฟนชาวไทยส่งแรงมาเชียร์และมาชมติดขอบสนามให้มากที่สุด เพราะจะเป็นกำลังใจที่ดีที่จะไปโอลิมปิกเกมส์ได้เป็นครั้งแรก
ร.ท.ชาญฤทธิ์กล่าวว่า เชื่อว่าการแข่งขันครั้งนี้ชาวเกาหลีใต้จะเข้ามาเชียร์ทีมเยอะมากเช่นกัน เพราะเป็นทัวร์นาเมนต์สำคัญ รวมทั้งในรอบชิงชนะเลิศ น่าจะแน่นอนว่าไทยจะต้องแย่งตั๋วโอลิมปิกกับไทย หวังว่าครั้งนี้ประเทศไทยจะประสบความสำเร็จทั้งผลการแข่งขันและการจัดการแข่งขัน
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
