‘ปฏิรูปกีฬา’ ชงนักกีฬาเลิกบรรจุ ‘ตำรวจ-ทหาร’ หาช่องทางช่วยใช้ความรู้พัฒนากีฬาชาติ

‘ปฏิรูปกีฬา’ ชงนักกีฬาเลิกบรรจุ ‘ตำรวจ-ทหาร’ หาช่องทางช่วยใช้ความรู้พัฒนากีฬาชาติ

เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ห้องจูปิเตอร์ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นประธานในการนำเสนอร่างแผนการปฏิรูปประเทศ พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน โดยมี คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูลประธานอนุกรรมการด้านกีฬา, นายนคร ศิลปอาชา ประธานอนุกรรมการ ด้านแรงงาน, นายวีระโรจน์พจนรัตน์ ประธานอนุกรรมการด้านวัฒนธรรม, นายแพทย์รณภพ ปัทมะดิษ เป็นประธานอนุกรรมการด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ตลอดจนบุคคลทั่วไปเข้าร่วมรับฟัง

ในส่วนของกีฬา คุณหญิงปัทมา กล่าวในที่ประชุมว่า กีฬาเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ หากประชาชนสุขภาพแข็งแรง ประเทศก็สามารถพัฒนาไปได้เร็ว ดังนั้น ใน2ปีข้างหน้า (2564-2565) ได้วางเป้าส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังหายเพิ่มขึ้นเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด กีฬาถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือเพื่อส่งเสริมสุขภาพ และเพื่อพัฒนาไปสู่ความเป็นเลิศ

“ในส่วนของเพื่อส่งเสริมสุขภาพ ประชาชนเป็นศูนย์กลางในการสร้างวิถีชีวิตทางการกีฬา ต้องอาศัยครอบครัวเป็นพื้นฐานหลักในการออกกำลังกาย ยกการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาเป็นวาระแห่งชาติ สร้างแรงจูงใจ และการใช้กีฬาพื้นบ้านในการออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังต้องเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬา เช่นการสนับสนุนให้มีลานกีฬาในทุกชุมชน และธนาคารกีฬา เพื่อสนับสนุนอุปกรณ์กีฬาให้แก้ประชาชน นอกจากนี้ก็ควรให้มีเมืองกีฬาขึ้นในทุกๆจังหวัด ให้มีความเชี่ยวชาญตามภูมิภาค เช่นติดแม่น้ำอาจเชี่ยวชาญเดี่ยวกับว่ายน้ำ หรือแข่งเรือ เป็นต้น”

คุณหญิงปัทมา ยังกล่าวต่อไปอีกว่า อีกด้านเป็นการพัฒนานักกีฬา ซึ่งต้องเริ่มจากการพัฒนาบุคคลกรทางการกีฬาให้มีความรู้ความชำนาญเป็นอันดับแรก จากนั้นก็เพิ่มความมีส่วนร่วมกับสมาคมกีฬาจังหวัดในการเฟ้นหานักกีฬาดาวรุ่ง หรือช้างเผือกขึ้นมาป่อนทีมชาติ ซึ่งจะทำงานคู่กับสมาคมกีฬาต่างๆ และตั้งศูนย์พัฒนานักกีฬาและวิทยาศาสตร์การกีฬาระดับนานาชาติ และศูนย์ฝึกกีฬาขึ้นทั่วประเทศ นอกจากนี้มาหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ครจจะต้องเพิ่มฝ่ายวิจัยและพัฒนาวัตกรรม ขึ้น เพื่อเป็นการพัฒนากีฬาของประเทศอีกทาง

Advertisement

ภายหลังการประชุม นายแพทย์นิธิ กล่าวเสริมว่า คณะกรรมการปฏิรูปชุดนี้ทั้ง 4 ด้านเป็นส่วนของสังคมอดังนั้นนอกจากคณะกรรมการแต่ละด้านจะเสนอมาแล้ว ยังมีการการเปิดรับฟังความคิดเห็น ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมาก หลังจากนี้จะใช้เวลาราว 1 เดือนในการรวบรวมทำเป็นร่างเสนอให้คณะกรรมการยุธศาสตร์ชาติ ซึ่งเป็นคณะใหญ่ออกกำหมายมาบังคับใช้อีกครั้ง ในส่วนของกีฬาไม่น่าเป็นห่วง เพราะมีบุคคลในวงการกีฬาเข้ามาช่วยเป็นจำนวนมาก แต่เรื่องที่อยากเห็นคือ นักกีฬาเมื่อเข้ามาเป็นนักกีฬาแล้ว จะต้องใช้กีฬาเลี้ยงชีพให้ได้จริงๆ และช่วยพัฒนากีฬาของชาติ ที่ผ่านมาเมื่อเลิกจากการเป็นนักกีฬา ก็จะมีการบรรจุเป็นตำรวจหรือทหาร ซึ่งไม่ได้ใช้วิชาความรู้มาพัฒนาวงการกีฬาเท่าที่ควร หลังจากนี้ก็ต้องทำให้นักกีฬาเมื่อเลิกเล่นกีฬาแล้วต้องเข้ามาช่วยพัฒนาวงการกีฬาให้มากขึ้น ซึ่งจะต้องหาช่องทางในการช่วยเหลือสนับสนุนต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image