‘กกท.’ หนุนทัพนักกีฬาไทย บุกเก็บตัวฝึกซ้อมที่จีน พัฒนาทักษะจากมหาอำนาจ
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ยอมรับผลงานทัพไทยต่ำกว่าเป้าเล็กน้อยในศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ยกจีนแข็งแกร่งมาก จนหลายชาติมีผลงานที่ตกลงไป ไม่เว้นแม้กระทั่งญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เผยมีแผนในการผลักดันนักกีฬาไทยเก็บตัวฝึกซ้อมที่จีน เพื่อพัฒนาขีดความสามารถ พร้อมชวนเชียร์ทัพนักกีฬาคนพิการไทยล่าเหรียญทองในศึกเอเชี่ยนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 22-28 ตุลาคมนี้
ดร.ก้องศักด ยอดมณี เปิดเผยถึงการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ซึ่งนักกีฬาไทยทำผลงานคว้ารวม 12 เหรียญทอง 14 เหรียญเงิน 32 เหรียญทองแดง จบอันดับที่ 8 ของการแข่งขันว่า หากดูถึงเป้าหมายเหรียญทองที่ตั้งเป้าเอาไว้ที่ 15 เหรียญทอง ก็ถือว่าพลาดเป้าไป แต่ก็ถือว่าไม่มากนัก
ดร.ก้องศักดกล่าวอีกว่า ในการแข่งขันครั้งนี้ เจ้าภาพจีนแข็งแกร่งมาก ส่วนประเทศใหญ่ที่เป็นมหาอำนาจทางกีฬาของเอเชียก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เกือบทุกประเทศไม่ใช่ประเทศไทยประเทศเดียวที่ได้เหรียญรางวัลน้อยลง เพราะญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ ก็ได้เหรียญรางวัลน้อยลงอย่างชัดเจน ต้องชื่นชมจีนที่พัฒนานักกีฬาของตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนรอบนี้ก็จะมีบางประเทศที่กลับมาทำผลงานได้ดี อาทิเช่น อินเดีย เพราะฉะนั้นการที่เราเพิ่มเหรียญรางวัลได้ หลังคราวที่แล้วเราได้ 11 เหรียญทอง ก็ถือว่าเราสามารถรักษาระดับของเราได้ ที่สำคัญเรายังคว้าโควต้าโอลิมปิกได้อีก 9 ที่นั่งด้วย ในศึกเอเชี่ยนเกมส์รอบนี้
“ในส่วนของความเห็นต่างๆ ที่ในแง่ดีและแง่ลบ เราได้มีการรวบรวม เพื่อหาทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแนวทางการทำงานในอนาคต หนนี้ได้มีการประเมินผลงานในการแข่งขันในเบื้องต้นไปแล้ว ทั้งกีฬาที่ทำผลงานเกินเป้าหมาย ตามเป้าหมาย และไม่ถึงเป้าหมาย ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีลดจำนวนของนักกีฬาลง เน้นส่งไปแข่งขันโดยเน้นไปที่คนที่เป็นความหวัง ซึ่งก็อาจจะต้องมีการพูดคุย หารือกันรายสมาคมต่อไป”
ผู้ว่าการ กกท.กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของประเทศจีนนั้น แสดงให้เห็นว่ามีความแข็งแกร่งสุดๆ ในแต่ละชนิดกีฬาสมกับเป็นมหาอำนาจในวงการกีฬาโลก เราก็ต้องชื่นชมพวกเขาทั้งการพัฒนานักกีฬา รวมถึงการจัดการแข่งขันที่สร้างมาตรฐานเอาไว้สูงมาก ซึ่งเราก็จะรวบรวมเก็บนำเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์ในบางส่วนมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนากีฬาและวงการกีฬาไทย ซึ่งก็มีโอกาสด้วยที่หลังจากนี้ที่เราจะผลักดันให้หลายๆ สมาคมกีฬาของไทย ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับทางจีนได้เดินทางไปร่วมเก็บตัวฝึกซ้อมที่จีน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ความสามารถและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ซึ่งที่ผ่านมาทีมแบดมินตันชุดใหญ่ของจีน ก็เคยเดินทางมาเก็บตัวฝึกซ้อมที่ไทย ที่ จ.เชียงใหม่ ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ตอนช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาด และจีนมีการปิดประเทศมาแล้ว
ดร.ก้องศักดกล่าวในตอนท้ายว่า อยากเชิญชวนให้แฟนกีฬาไทยได้ร่วมเชียร์ทัพนักกีฬาคนพิการไทยต่อ ในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 ตุลาคมนี้ ซึ่งที่ผ่านมา นักกีฬาไทยมีการเตรียมตัวที่่ค่อนข้างเข้มข้น ซึ่งตนเชื่อว่าตอนนี้นักกีฬาไทยทุกคนพร้อมเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว และเชื่อว่าในศึกเอเชี่ยนพาราเกมส์ เราจะได้ลุ้นเหรียญมากกว่าเอเชี่ยนเกมส์ด้วย
